ต่างชาติซื้อ!คอนโดฯซูเปอร์ลักชัวรี่ไทย 98 Wireless ดึงดูดลูกค้าทั่วโลกลงทุน
Loading

ต่างชาติซื้อ!คอนโดฯซูเปอร์ลักชัวรี่ไทย 98 Wireless ดึงดูดลูกค้าทั่วโลกลงทุน

วันที่ : 10 มิถุนายน 2560
ต่างชาติซื้อ!คอนโดฯซูเปอร์ลักชัวรี่ไทย 98 Wireless ดึงดูดลูกค้าทั่วโลกลงทุน

ราคาที่ดินที่ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี โดยเฉพาะในช่วง 2-3 ปี ที่ผ่านมา นับตั้งแต่ปี 2557-2559 ราคาคอนโดฯ ในกรุงเทพฯ ระดับซูเปอร์ลักชัวรี่ที่ราคามากกว่า 300,000 บาท/ตารางเมตร มีราคาเพิ่มขึ้นถึง 10% ซึ่งถือว่ามีราคาเพิ่มขึ้นสูงสุดเมื่อเทียบกับคอนโดฯในเซ็กเมนต์อื่นๆ ที่บวกมากสุดแค่ 2% โดยเฉพาะอย่างยิ่งในทำเลทองย่านเพลินจิตชิดลมที่คอนโดฯ เซ็กเมนต์นี้มีอัตราดูดซับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี จาก 4.36% ในปี 2556 เป็น 24.0% ในปี 2559 เมื่อเทียบกับสุขุมวิทที่ 19.73% หรือสีลมสาทรที่ 4.30%

เหตุผลส่วนหนึ่งเป็นเพราะทำเลย่านหลังสวน วิทยุ เป็นทำเลที่ผู้ซื้อต่างชาติคุ้นเคยเป็นอย่างดี ทั้งนี้ หากเริ่มพัฒนาโครงการ ต่างๆ โดยใช้มาตรฐานและทำเลแบบเดียวกับ 98 WIRELESS ในวันนี้ จะต้องตั้งราคาขายอย่างน้อย 700,000 บาท/ตารางเมตร เนื่องจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้นทั้งปัจจัยราคาที่ดินที่บนถนนวิทยุที่เพิ่มจาก 1.5 เป็น 2.5 ล้านบาท/ตารางวา ผนวกกับต้นทุนด้านค่าก่อสร้างที่เพิ่มขึ้นในปัจจุบัน รวมทั้งทรัพยากร และงานศิลปะ บางอย่าง ที่ไม่สามารถหาได้แล้ว ซึ่งเมื่อดูเปรียบเทียบกับราคาขายเฉลี่ยของ 98 WIRELESS ปัจจุบันที่ 580,000 บาท/ตารางเมตร แล้วนักลงทุนในอสังหาริมทรัพย์น่าจะได้รับผลกำไรจาก Capital Appreciation แน่นอน"

นายอุทัย อุทัยแสงสุข รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานพัฒนาธุรกิจและพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าว "การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ระดับซูเปอร์ลักชัวรี่ใน Prime Area" จากบทวิเคราะห์จากหลากหลายผลสำรวจ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลจาก Global Property Guide, Knight Frank, Numbeo และ PLUS Property (บริษัทพลัส พร๊อพเพอร์ตี้ จำกัด) ยืนยันถึงศักยภาพของอสังหาริมทรัพย์ไทยที่โดดเด่น และดึงดูดกลุ่มลูกค้าจากทั่วโลก ซึ่งเป็นปัจจัยเกื้อหนุนตลาดต่างชาติให้ความสนใจโครงการ 98 WIRELESS ของแสนสิริ

นายอุทัย กล่าวว่า ในการลงทุนของบุคคลในระดับ Ultra-High Net worth Individual (UHNWI) หรือบุคคลธรรมดาที่มีสินทรัพย์สุทธิในระดับสูง ซึ่งแต่เดิมนักลงทุนต่างชาติหรือแม้แต่ในประเทศไทยกลุ่ม นี้จะสนใจลงทุนในเมืองที่มีชื่อเสียงต่างๆ ของโลก เพราะมีอัตรา Capital Appreciation ในแง่ของราคาของอสังหาริมทรัพย์ที่เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เปรียบเทียบให้เห็นภาพการเติบโตด้านราคาของห้อง เพนต์เฮาส์ในเมืองสำคัญต่างๆ ในรอบ 5 ปี ระหว่าง 2011-2016 อาทิ ในมหานครนิวยอร์กที่อสังหาริมทรัพย์ที่ราคาสูงสุดราคาแตกต่างกันถึง 41% จาก 2,855,134 บาท/ตร.ม.เป็น 4,022,163 บาท/ตร.ม. เช่นเดียวกับในบริเวณ The Peak ฮ่องกง ที่ราคาเพิ่มขึ้นถึง 71% และในลอนดอนที่เพิ่มขึ้น 68% ในขณะที่ปัจจุบันประเทศไทย ได้กลายเป็นอีกหนึ่งประเทศที่นักลงทุนชาวต่างชาติสนใจ เห็นได้จากห้องเพนต์เฮาส์ที่มีราคาสูงสุดของโครงการ 98 WIRELESS มีราคาขายอยู่ที่ 666,666 บาท/ตร.ม. ซึ่งเป็นราคาที่สูงขึ้นถึง 65% เทียบจาก ห้องเพนต์เฮาส์ในโครงการที่ราคาสูงสุดในประเทศไทยในปี 2011 โดยทั้งสองโครงการอยู่ในย่าน CBD ของกรุงเทพฯ แสดงให้เห็นความสำคัญของปัจจัยด้านทำเลที่มีผลต่อราคา Capital Appreciation"

ทั้งนี้ ข้อมูลจาก www.globalpropertyguide.com ระบุว่า ประเทศที่มีตลาดอสังหาริมทรัพย์สำคัญของโลก อย่างสหรัฐฯ สหราชอาณาจักร และในแถบเอเชีย อย่างสิงคโปร์ ญี่ปุ่น ไต้หวัน ฮ่องกง ต่างมีราคาอสังหาริมทรัพย์สูงกว่าไทยมาก ในอัตราเฉลี่ยตั้งแต่ 2-6 เท่า เมื่อพิจารณาในแง่การลงทุน ประเทศไทยจึงให้ความคุ้มค่ามากกว่า และเมื่อพิจารณาลึกลงมาที่อสังหาริมทรัพย์ระดับซูเปอร์ลักชัวรี่ในทำเลใจกลางเมือง ราคาต่อพื้นที่ของอสังหาริมทรัพย์ระดับนี้ จะต่ำกว่าในเมืองสำคัญอื่นๆ ทั้งในเอเชียและทั่วโลก ยกตัวอย่าง 98 WIRELESS โครงการแฟล็ก ชิพคอนโดมิเนียมจากแสนสิริได้ชื่อว่าเป็นโครงการที่ดีที่สุดในประเทศไทยและตะวันออกเฉียงใต้ โดยเปรียบเทียบในราคา 70 ล้านบาท จะได้พื้นที่ขนาด 121 ตร.ม. ซึ่งเปรียบเทียบกับเมืองอื่นๆ ที่มูลค่าจำนวนเดียวกันนี้ จะสามารถซื้อห้องที่มีขนาดพื้นที่เล็กกว่า เทียบจากราคาเฉลี่ยคอนโดฯ ในเมืองอื่นๆ ในย่านศูนย์กลางธุรกิจใจกลางเมืองหรือ CBD ไม่ว่าจะเป็น ฮ่องกง (40 ตร.ม.) นิวยอร์ก (52 ตร.ม.) ลอนดอน 60 (ตร.ม.) สิงคโปร์ (86 ตร.ม.) และปักกิ่ง (116 ตร.ม.)

สำหรับโครงการ 98 WIRELESS ได้พัฒนาการออกแบบจากรูปแบบของงานสถาปัตยกรรม ในสไตล์โบซาร์ (Beaux-Arts) ซึ่งผสมผสานกับความเรียบหรูของการออกแบบภายใน รวมถึงการคัดสรรวัสดุคุณภาพที่ดีที่สุดจากทุกมุมโลก การใช้บริษัทที่ปรึกษาและบริษัทดีไซน์ระดับโลกมากมาย และยังเป็นโครงการที่พักอาศัยแห่งแรกในประเทศไทย ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานตามหลักเกณฑ์การประเมินอาคารเขียวของสหรัฐฯ (LEED : Leadership in Energy and Environmental Design) นอกจากนี้ ยังมีความพิเศษตรงที่ผู้ซื้อสามารถถือกรรมสิทธิ์ในที่ดินได้ (Freehold) ซึ่งหาได้ยากมากบนถนนสายนี้และอีกปัจจัยสำคัญคือการบริการสุดเอ็กซ์คลูซีฟในหลายรูปแบบ อาทิ การให้บริการรถ 'เบนท์ลี่ย์' ที่สั่งทำเป็นพิเศษ มาเพื่อเป็นรถลิมูซีนประจำโครงการให้ผู้พักอาศัยทุกยูนิตสามารถใช้บริการได้ บริการจอดรถแบบ Valet Parking รวมถึงที่จอดรถใต้ดินที่สามารถรองรับได้ถึง 240% และที่จอดรถสำหรับซูเปอร์คาร์โดยเฉพาะ นอกจากนี้ยังมีบริการลิฟต์ส่วนตัว และระบบการควบคุมการสั่งงาน Home Automation และการบริการพิเศษอื่นๆ  ภายใต้รูปแบบ Home Service Application

จากที่กล่าวแสนสิริเชื่อว่า โครงการ 98 WIRELESS พร้อมต่อยอดความสำเร็จในระดับโลกเพื่อให้บรรลุรายได้ 8,000 ล้านบาทจากตลาดต่างชาติที่ตั้งเป้าไว้สำหรับปีนี้ อีกทั้งยังเป็นตัวสะท้อนถึงศักยภาพของโครงการระดับซูเปอร์ลักชัวรี่ไทยที่มีมาตรฐานเทียบเท่าระดับโลก ทั้งในด้านการอยู่อาศัยที่เหนือระดับและเป็นโอกาสในการเติบโตของการลงทุนระยะยาว

ที่มา : หนังสือพิมพ์สยามธุรกิจ

 

 

 

ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ