โชคชัย สีนิลแท้

          ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในปี 2562 ยังคงเผชิญกับปัจจัยลบที่เข้ามารุมเร้า ไม่ว่าจะเป็น มาตรการควบคุมสินเชื่อที่อยู่อาศัยจากธนาคารแห่งประเทศไทย ที่จะบังคับใช้วันที่ 1 เม.ย. 2562 อัตราดอกเบี้ย ขาขึ้นและการชะลอตัวเศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลก

          ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ประเมินว่า ปริมาณตัวเลขการโอนกรรมสิทธิ์ในปี 2562 ทั้งปีนี้จำนวนจะลดลง 17.9% ส่วนมูลค่าจะลดลง 15.1% เมื่อเทียบกับปี 2561 และคาดว่าสินเชื่อที่อยู่อาศัยจะลดลง 2.8% เมื่อเทียบกับปี 2561 ขณะที่อุปทานโครงการเปิดตัวใหม่คาดว่าจะลดลง 5.3% แต่ที่อยู่อาศัยสร้างเสร็จจดทะเบียนคาดว่าจะยังคงเพิ่มขึ้น 11.3% เมื่อเทียบกับปี 2561

          สำหรับโครงการที่อยู่อาศัยเปิดขายใหม่ในช่วงไตรมาส 4 มีจำนวน  127 โครงการ มีจำนวน 35,690 หน่วย มีมูลค่าโครงการรวม 175,999 ล้าน บาท เป็นการเพิ่มขึ้นไตรมาส 2 หลังจากชะลอตัวมา 3 ไตรมาส ตั้งแต่ไตรมาส 4 ปี 2560 เนื่องจาก ผู้ประกอบการได้ชะลอเปิดโครงการใหม่เพื่อลดอุปทานส่วนเกินในตลาด

          เมื่อพิจารณาแยกตามประเภทโครงการที่อยู่อาศัยเปิดขายใหม่พบว่า ในไตรมาส 4 ปี 2561 โครงการบ้านจัดสรรมีการเปิดขายใหม่จำนวน 75 โครงการ 13,483 หน่วย มีมูลค่าโครงการรวม 63,920 ล้านบาท จำนวนโครงการและจำนวนมูลค่าลดลง 8.5% และ 0.7% ตามลำดับ แต่จำนวนหน่วยเพิ่มขึ้น 4.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2560 ส่วนโครงการอาคารชุดมีการเปิดขายใหม่ 52 โครงการ กว่า 2.2 หมื่นยูนิต มูลค่าโครงการรวมกว่า 1.1 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2560 ทั้งจำนวนโครงการ จำนวนหน่วยและมูลค่าโครงการ 62.5% 67.4% และ 66.6% ตามลำดับ

          ด้านประเภทและราคาขายโครงการบ้านจัดสรรในไตรมาส 4 ปี 2561 พบว่า 59.1% เป็นทาวน์เฮาส์ ระดับราคา 3-5 ล้านบาท รองลงมา 27.3% เป็นบ้านเดี่ยว ระดับราคา 5-7.5 ล้านบาท สำหรับ บ้านแฝด มีสัดส่วน 11.1% ส่วนใหญ่ระดับราคา 3-5 ล้านบาท อาคารพาณิชย์เปิดขาย 2.5% ราคามากกว่า 10 ล้านบาทขึ้นไป ด้านภาพรวมโครงการที่เปิดขายใหม่ปี 2561 มีจำนวน 404 โครงการ มีหน่วยรวม 118,271 หน่วย มูลค่าโครงการ 538,767 ล้านบาท จำนวนโครงการ ลดลง 2.7% แต่จำนวนหน่วยและมูลค่าเพิ่มขึ้น 3.6% และ 10.3% ตามลำดับ เมื่อเทียบกับปี 2560 ซึ่งมีจำนวน 415 โครงการ 114,194 หน่วย และมีมูลค่าโครงการ 488,537 ล้านบาท

          ขณะที่การออกใบอนุญาตจัดสรรในภูมิภาคในช่วงไตรมาส 4 ปี 2561 มีโครงการที่ได้รับใบอนุญาตจากกรมที่ดิน 104 โครงการ 9,176 หน่วย เพิ่มขึ้นทั้งจำนวนโครงการและจำนวนหน่วยเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2560 16.9% และ 4.6% ตามลำดับ เมื่อจำแนก เป็นภูมิภาคพบว่าการออกใบอนุญาตจัดสรรที่ดินส่วนใหญ่จะอยู่ในภาคตะวันออกมากที่สุด 56.1% มีจำนวน 53 โครงการ มีจำนวน 5,144 หน่วย เพิ่มขึ้นทั้งจำนวนโครงการและจำนวนหน่วย 47.2% และ 50.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของ ปีก่อน เป็นผลมาจาก 3 จังหวัดในกลุ่มของอีอีซี (ชลบุรี ระยอง และฉะเชิงเทรา) รองลงมาคือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ ภาคตะวันตก ภาคกลางและภาคใต้ โดยจังหวัดที่มีการขอใบอนุญาตจัดสรรมากที่สุด 5 อันดับแรกคือ ชลบุรี  2.ระยอง 3.พระนครศรีอยุธยา 4.เชียงใหม่ และ 5.นครราชสีมา