พลัสฯบุกหลังการขาย
วันที่ : 1 มีนาคม 2562
แชร์ :
น.ส.นฤมล อาภรณ์ธนกุล ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายบริหารอาคารที่พักอาศัย บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ เปิดเผยว่า ปัจจุบันตลาดอสังหาริมทรัพย์มีการขยายตัวมากขึ้น ขณะเดียวกันผู้ประกอบการ อสังหาฯ รายใหญ่ก็หันมาดำเนินธุรกิจบริหารจัดการอาคารเองมากขึ้น ส่วนจะประสบความสำเร็จหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละบริษัท ซึ่งในส่วนของบริษัทนั้นดำเนินงานด้านบริหารจัดการมานาน จึงมั่นใจในมาตรฐานและบริการที่ถือเป็นจุดแข็ง โดยถือเป็นแบรนด์คนไทยที่เป็นรองเพียงบริษัท ซีบีอาร์อี ประเทศไทย และบริษัท เจแอลแอล ประเทศไทย
พลัสฯ ระบุผู้ประกอบการ อสังหาฯ รายใหญ่ หันมาแข่งบริการหลังการขายมากขึ้น เร่งบุกตลาดหวังโต 23%
น.ส.นฤมล อาภรณ์ธนกุล ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายบริหารอาคารที่พักอาศัย บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ เปิดเผยว่า ปัจจุบันตลาดอสังหาริมทรัพย์มีการขยายตัวมากขึ้น ขณะเดียวกันผู้ประกอบการ อสังหาฯ รายใหญ่ก็หันมาดำเนินธุรกิจบริหารจัดการอาคารเองมากขึ้น ส่วนจะประสบความสำเร็จหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละบริษัท ซึ่งในส่วนของบริษัทนั้นดำเนินงานด้านบริหารจัดการมานาน จึงมั่นใจในมาตรฐานและบริการที่ถือเป็นจุดแข็ง โดยถือเป็นแบรนด์คนไทยที่เป็นรองเพียงบริษัท ซีบีอาร์อี ประเทศไทย และบริษัท เจแอลแอล ประเทศไทย
ปัจจุบันบริษัทให้บริการด้านบริหารจัดการอาคารที่พักอาศัยชั้นนำของประเทศ ดูแลโครงการทั้งสิ้น 198 โครงการ จำนวนประมาณ 6 หมื่นยูนิต รวมพื้นที่กว่า 5 ล้านตารางเมตร แบ่งเป็นโครงการจากในกรุงเทพฯ 70% และต่างจังหวัดหัวเมืองท่องเที่ยว 30% ในจำนวนนี้เป็นโครงการแนวสูง 60% แนวราบ 40% โดยเป็นการบริหารจัดการโครงการของบริษัท แสนสิริ สัดส่วน 80% และโครงการจากผู้ประกอบการอื่นสัดส่วน 20% คาดว่าในปีนี้จะสามารถรับบริหารจัดการได้เพิ่มอีก 36 โครงการ โดยส่วนใหญ่จะเป็นโครงการในพื้นที่กรุงเทพฯ และมีที่ต่างจังหวัดประมาณ 2-3 โครงการเท่านั้น แบ่งเป็นโครงการแนวสูงสัดส่วน 55% และแนวราบ 45% ซึ่งจะทำให้ใน ปีนี้พลัสฯ มีโครงการที่บริหารจัดการรวม ทั้งสิ้น 220 โครงการ
ทั้งนี้ จากข้อมูลของฝ่ายวิจัยและพัฒนาของพลัส พร็อพเพอร์ตี้ คาดว่าปี 2562 นี้ จะมีโครงการทั้งแนวราบและแนวสูงสร้างเสร็จในกรุงเทพฯ และปริมณฑล จำนวนประมาณ 2 แสนยูนิต เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 3% โดยการเติบโตยังเป็นลักษณะคล้ายช่วง 2-3 ปี ที่ผ่านมา คือตลาดระดับกลาง-บนยังเติบโตดี โดยเฉพาะจากโครงการขนาดใหญ่ที่เป็น มิกซ์ยูสทั้งในและเขตรอบนอกของกรุงเทพฯ
สำหรับความคืบหน้าหลังจากที่ได้เปิดตัว PLUS Eduplex สถาบันแห่งการเรียนรู้แห่งแรกของวงการอสังหาริมทรัพย์ไปเมื่อเดือน พ.ย. 2561 ที่ผ่านมานั้น ได้รับการตอบรับที่ดีทั้งจากบุคลากรในองค์กรและนอกองค์กร เนื่องจากบริษัทเน้นกลยุทธ์หลัก 4 ด้าน 1.Living Management คือส่งมอบการบริหารจัดการครบทุกมิติในด้านที่อยู่อาศัย สภาพแวดล้อม ความปลอดภัย และกิจกรรมที่สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของลูกบ้านในแต่ละโครงการ 2.Technology Driven โดยนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีเข้ามาเป็นส่วนสำคัญในการบริหารจัดการ อาทิ พัฒนาแอพพลิเคชั่นพิเศษที่ให้บริการเฉพาะลูกบ้านในโครงการที่พลัสฯ บริหาร ระบบ PLUS Management System ซึ่งเป็นระบบบริหารจัดการโครงการและจัดเก็บฐานข้อมูลลูกบ้านเพื่อการตอบสนองที่รวดเร็วไม่ว่าจะเป็นการซื้อ-ขาย-เช่า 3.Sharing Economy โดยการร่วมมือกับพันธมิตรผู้เชี่ยวชาญแต่ละด้านมาเชื่อมต่องานบริการเพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้า เกิดการบริหารจัดการต้นทุนได้อย่างคุ้มค่าและมีประสิทธิภาพ 4.เพิ่มศักยภาพบุคลากรอย่างต่อเนื่อง Her Forward หลักสูตรพิเศษสอนทักษะงานช่างเบื้องต้นให้บุคลากรหญิง
อย่างไรก็ตาม ในปีนี้บริษัทตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 570 ล้านบาท จากปี 2561 ที่มีรายได้ 460 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโต 23%
น.ส.นฤมล อาภรณ์ธนกุล ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายบริหารอาคารที่พักอาศัย บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ เปิดเผยว่า ปัจจุบันตลาดอสังหาริมทรัพย์มีการขยายตัวมากขึ้น ขณะเดียวกันผู้ประกอบการ อสังหาฯ รายใหญ่ก็หันมาดำเนินธุรกิจบริหารจัดการอาคารเองมากขึ้น ส่วนจะประสบความสำเร็จหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละบริษัท ซึ่งในส่วนของบริษัทนั้นดำเนินงานด้านบริหารจัดการมานาน จึงมั่นใจในมาตรฐานและบริการที่ถือเป็นจุดแข็ง โดยถือเป็นแบรนด์คนไทยที่เป็นรองเพียงบริษัท ซีบีอาร์อี ประเทศไทย และบริษัท เจแอลแอล ประเทศไทย
ปัจจุบันบริษัทให้บริการด้านบริหารจัดการอาคารที่พักอาศัยชั้นนำของประเทศ ดูแลโครงการทั้งสิ้น 198 โครงการ จำนวนประมาณ 6 หมื่นยูนิต รวมพื้นที่กว่า 5 ล้านตารางเมตร แบ่งเป็นโครงการจากในกรุงเทพฯ 70% และต่างจังหวัดหัวเมืองท่องเที่ยว 30% ในจำนวนนี้เป็นโครงการแนวสูง 60% แนวราบ 40% โดยเป็นการบริหารจัดการโครงการของบริษัท แสนสิริ สัดส่วน 80% และโครงการจากผู้ประกอบการอื่นสัดส่วน 20% คาดว่าในปีนี้จะสามารถรับบริหารจัดการได้เพิ่มอีก 36 โครงการ โดยส่วนใหญ่จะเป็นโครงการในพื้นที่กรุงเทพฯ และมีที่ต่างจังหวัดประมาณ 2-3 โครงการเท่านั้น แบ่งเป็นโครงการแนวสูงสัดส่วน 55% และแนวราบ 45% ซึ่งจะทำให้ใน ปีนี้พลัสฯ มีโครงการที่บริหารจัดการรวม ทั้งสิ้น 220 โครงการ
ทั้งนี้ จากข้อมูลของฝ่ายวิจัยและพัฒนาของพลัส พร็อพเพอร์ตี้ คาดว่าปี 2562 นี้ จะมีโครงการทั้งแนวราบและแนวสูงสร้างเสร็จในกรุงเทพฯ และปริมณฑล จำนวนประมาณ 2 แสนยูนิต เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 3% โดยการเติบโตยังเป็นลักษณะคล้ายช่วง 2-3 ปี ที่ผ่านมา คือตลาดระดับกลาง-บนยังเติบโตดี โดยเฉพาะจากโครงการขนาดใหญ่ที่เป็น มิกซ์ยูสทั้งในและเขตรอบนอกของกรุงเทพฯ
สำหรับความคืบหน้าหลังจากที่ได้เปิดตัว PLUS Eduplex สถาบันแห่งการเรียนรู้แห่งแรกของวงการอสังหาริมทรัพย์ไปเมื่อเดือน พ.ย. 2561 ที่ผ่านมานั้น ได้รับการตอบรับที่ดีทั้งจากบุคลากรในองค์กรและนอกองค์กร เนื่องจากบริษัทเน้นกลยุทธ์หลัก 4 ด้าน 1.Living Management คือส่งมอบการบริหารจัดการครบทุกมิติในด้านที่อยู่อาศัย สภาพแวดล้อม ความปลอดภัย และกิจกรรมที่สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของลูกบ้านในแต่ละโครงการ 2.Technology Driven โดยนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีเข้ามาเป็นส่วนสำคัญในการบริหารจัดการ อาทิ พัฒนาแอพพลิเคชั่นพิเศษที่ให้บริการเฉพาะลูกบ้านในโครงการที่พลัสฯ บริหาร ระบบ PLUS Management System ซึ่งเป็นระบบบริหารจัดการโครงการและจัดเก็บฐานข้อมูลลูกบ้านเพื่อการตอบสนองที่รวดเร็วไม่ว่าจะเป็นการซื้อ-ขาย-เช่า 3.Sharing Economy โดยการร่วมมือกับพันธมิตรผู้เชี่ยวชาญแต่ละด้านมาเชื่อมต่องานบริการเพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้า เกิดการบริหารจัดการต้นทุนได้อย่างคุ้มค่าและมีประสิทธิภาพ 4.เพิ่มศักยภาพบุคลากรอย่างต่อเนื่อง Her Forward หลักสูตรพิเศษสอนทักษะงานช่างเบื้องต้นให้บุคลากรหญิง
อย่างไรก็ตาม ในปีนี้บริษัทตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 570 ล้านบาท จากปี 2561 ที่มีรายได้ 460 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโต 23%
ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ