คอนโด2ล้านคึก

          แอสเซทไวส์ชี้ คอนโดราคาจับต้องได้ ยูนิตละ 2 ล้านยังฉลุย บิ๊กอสังหาฯ เมินแข่ง เปิดช่องรายเล็กเกิด

          หลังรายใหญ่มุ่งแนวราบแอสเซทไวส์ยันคอนโด2ล้านดีมานด์โต

          แอสเซทไวส์ มั่นใจตลาดคอนโดจับต้องได้ ราคาเฉลี่ย 2 ล้าน/ยูนิต ยังไปได้ บิ๊กอสังหาฯ ไม่นิยมสร้างแข่ง

          นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธาน เจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ เปิดเผยว่า ภาพรวมของตลาดคอนโดมิเนียมระดับราคาเฉลี่ยไม่เกิน 2 ล้านบาท/ยูนิต ยังมีความต้องการสูง เนื่องจากความต้องการอยู่อาศัยใกล้กับรถไฟฟ้ายังมีอยู่ โดยจะพัฒนาโครงการขายระดับราคาดังกล่าวได้ต้องซื้อที่ดินราคา 9 หมื่นบาท/ตารางวา แม้ว่าความต้องการที่อยู่อาศัยแนวราบยังมีอยู่แต่ไม่สามารถซื้อได้ อย่างทาวน์เฮาส์ระดับราคา 2 ล้านบาท/ยูนิตนั้น ปัจจุบันต้องหาซื้อไกลถึงลำลูกกา จ.ปทุมธานี ซึ่งกลุ่มลูกค้าที่จะซื้อที่อยู่อาศัยราคา 1-2 ล้านบาท ในเวลานี้ยังขอสินเชื่อได้ยาก

          "คอนโดระดับราคาไม่เกิน 2 ล้านบาท ราคาเฉลี่ย 6.5-7 หมื่นบาท/ตารางเมตร ถือเป็นพอร์ตใหญ่ของบริษัทถึง 60% ที่บริษัทใช้เป็นจุดได้เปรียบในการแข่งขัน ซึ่งตัวโครงการอาจจะเข้าซอยไม่ได้ติดถนนใหญ่ แต่อยู่ใกล้กับรถไฟฟ้า ขณะที่ ผู้ประกอบการรายใหญ่ไม่ค่อยเข้ามาเล่นกันเนื่องจากจะเน้นพัฒนาโครงการขนาดใหญ่ในเมืองเป็นหลัก เพราะมีสต๊อกสินค้าอยู่ในมือค่อนข้างมาก จึงไม่ได้มาเน้นพัฒนาโครงการขนาดเล็กที่อยู่ในซอย และกว่าจะมาพัฒนาได้ราคาที่ดินก็ปรับสูงขึ้นไปแล้ว และเชื่อว่าบริษัทพัฒนาอสังหาฯ ที่เน้นพัฒนาโครงการราคาแพง ทำให้การพัฒนาโครงการราคาต่ำลงมานั้นทำได้ ไม่ง่ายนัก" นายกรมเชษฐ์ กล่าว

          ทั้งนี้ กลุ่มลูกค้าดังกล่าว ผู้ซื้อบ้านหลังแรกส่วนใหญ่จะไม่ค่อยมีปัญหาจากมาตรการควบคุมสินเชื่อที่อยู่อาศัยธนาคารพาณิชย์ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยบังคับใช้ ซึ่งกลุ่มลูกค้าเหล่านี้ทำงานมานาน 1-2 ปีแล้วไม่เคยมีบ้านมาก่อน ซึ่งคิดว่าทำโครงการที่จับกลุ่มลูกค้าระดับนี้จะเป็นที่ต้องการ ขณะที่เกณฑ์คุมสินเชื่อของธนาคารแห่งประเทศไทยมีส่วนสำคัญในการสกัดการซื้อเก็งกำไร

          อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างเตรียมตัวจดทะเบียนเข้าในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยคาดว่าจะยื่นไฟลิ่งในกลางปีนี้ ซึ่งมีบริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส เป็นที่ปรึกษาทางด้านการเงิน วัตถุประสงค์หลักเพื่อให้บริษัทมีมาตรฐาน มีความพร้อมที่จะขยายธุรกิจ มีระบบรองรับการขยายตัวในอนาคต ส่วนเรื่องการระดมทุนเป็นเรื่องรอง และการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์จะเพิ่มศักยภาพของบริษัทในการซื้อที่ดินแปลงใหญ่ โดยเมื่อปลายปีที่ผ่านมาบริษัทได้ซื้อที่ดิน 60 ไร่ เพื่อพัฒนาโครงการในรูปแบบมิกซ์ยูสย่านรังสิตติดกับมหาวิทยาลัยกรุงเทพ พัฒนาเป็นโครงการคอนโดมิเนียม 2 เฟสแรก ได้แก่ เคฟทาวน์ชิฟ และเคฟทาวน์ สเปซ มูลค่าโครงการรวม 4,000 ล้านบาท