นางสาวนฤมล อาภรณ์ธนกุล ผู้อำนวยการ อาวุโสฝ่ายบริหารอาคารที่พักอาศัย บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เปิดเผยว่า เทรนด์ธุรกิจที่อยู่อาศัยที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ธุรกิจบริหารนิติบุคคลเติบโตเป็นเงาตามตัว

          ในส่วนของพลัสฯ ปัจจุบันมีพอร์ตบริหารจัดการ 198 โครงการ พื้นที่มากกว่า 5 ล้านตารางเมตร อยู่ในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล 70% ต่างจังหวัด 30% โดยมีส่วนแบ่งตลาดติดท็อป 3 ของธุรกิจพร็อพเพอร์ตี้ แมเนจเมนต์ ที่เหลือคือกลุ่มซีบีอาร์อี กับเจแอลแอล

          แผนธุรกิจปีนี้ รับเป้าพอร์ตโครงการเพิ่มเป็น 220 โครงการ โดยพลัสฯมีดีล บริหารอาคารเพิ่ม 36 โครงการในเขตกรุงเทพฯ ต่างจังหวัดอีก 2-3 โครงการ สัดส่วนแนวสูง 55% แนวราบ 45%

          "การบริหารสัญญา 1 ปี ซึ่งในมุม ดีเวลอปเปอร์อยากได้คนบริหารให้ทรัพย์สินมีมูลค่าเพิ่ม ตัวอย่างเราบริหารนิติบุคคลให้กับโครงการบ้านสุขุมวิท 67 ดูแลตั้งแต่หลังละ 35 ล้านบาทจนถึงราคา 120 ล้านบาท ในต่างจังหวัดเราบริหารนิติบุคคลที่หัวหิน ภูเก็ต เขาใหญ่ เชียงใหม่ อุดรฯ ขอนแก่น พิษณุโลก (ทาวน์เฮาส์ สองแคว) สุราษฎร์ธานี หาดใหญ่ (สงขลา) โดยมีฮับ 3 แห่งที่ภูเก็ต เชียงใหม่ หัวหิน"

          ล่าสุด พลัสฯเปิดสถาบัน PLUS Eduplex เป็นแห่งแรกของประเทศไทยเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2561 มีผลตอบรับดีมาก เริ่มต้นให้บริการในเครือแสนสิริ รวมทั้งให้บริการกับโครงการทั่วไป สัดส่วนแสนสิริ 80% โครงการทั่วไป 20%

          ในด้านรายได้ ปี 2561 มียอดรายได้รวมจากการบริหารนิติบุคคล 460 ล้านบาท ปีนี้รับเป้าเพิ่มรายได้เป็น 570 ล้านบาท และภายใน 3 ปีรายได้ตั้งเป้าแตะ 1,000 ล้านบาท

          "เทรนด์ใหม่ ระบบที่เราทำคือ smart building มีการติดตั้งวอร์รูมที่เฮดออฟฟิศ, ทางเข้าออกเป็นระบบวิสิเตอร์ซิสเต็ม ฯลฯ การบริหารจัดการอาคารต้องมีหลายมิติ คนยังจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องเซอร์วิส ผสมผสานคนกับเทคโนโลยีนำมาทดแทนกันได้ ซึ่งเรื่องยากคือการพัฒนาคนให้ทันกับเทคโนโลยี ดังนั้น Eduplex จึงถูกก่อตั้ง ขึ้นมาเพื่อมาทำหน้าที่พัฒนาคน พัฒนาทักษะบุคลากรเข้าสู่นิติบุคคล"

          โดยกลยุทธ์การรุกตลาด ปีนี้เน้นนำเทคโนโลยีมาใช้ให้มากที่สุด ทำผ่านกลยุทธ์ 4 ด้าน คือ 

    1.Living Management ส่งมอบการบริหารจัดการครบทุกมิติทั้งในด้านที่อยู่อาศัย สภาพแวดล้อม ความปลอดภัย และกิจกรรมที่สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ลูกบ้าน ภายใต้ แคมเปญ "Beautiful Community ความสุขเริ่มที่บ้าน"

          2.Technology Driven นำนวัตกรรมและเทคโนโลยีเข้าช่วยบริหารจัดการ อาทิ พัฒนาแอปพลิเคชั่นเฉพาะลูกบ้าน, ระบบ PLUS Management System บริหารจัดการโครงการและจัดเก็บฐานข้อมูลลูกบ้าน และต่อยอดไปสู่ธุรกิจอื่น อาทิ ซื้อ-ขาย-เช่า โดยมีกิจกรรมดีไซน์เฉพาะอาคาร และกิจกรรมประจำปี อาทิ วิ่งมาราธอนซึ่งจัดต่อเนื่องปีนี้เป็นปีที่ 3

          3.Sharing Economy ร่วมมือกับพันธมิตรเชื่อมต่องานบริการเพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้า อาทิ PLUS Concierge โดยร่วมกับ Smart Move บริการรถเช่า, Instawash, Trendy Wash, Refun Machine, iBox และ Box24 ช่วยเรื่องพัสดุในยุคช็อปปิ้งออนไลน์

          4.Professional เพิ่มศักยภาพความสามารถบุคลากรอย่างต่อเนื่องผ่าน PLUS Eduplex ทั้งเรื่องของมาตรฐานการบริการ และหลักสูตรสำหรับให้บริการเฉพาะด้าน อาทิ Her Forward สอนทักษะงานช่างเบื้องต้นให้บุคลากรหญิง สำหรับให้บริการผู้หญิงโสดกับผู้สูงอายุ ที่พักในห้องชุดหรือในบ้านจัดสรร

          "พอร์ตที่พลัสฯรับบริหารนิติบุคคล ณ ปี 2561 มี 60,000 ยูนิต เป็นแนวราบ 20,000 ยูนิต ปีนี้ประเมินมีโครงการ แนวราบ-แนวสูงสร้างเสร็จในกรุงเทพฯและปริมณฑล 200,000 ยูนิต เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 3% การเติบโตยังเป็นลักษณะคล้าย ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา คือ ตลาดกลาง-บนยังเติบโตดี โดยเฉพาะโครงการมิกซ์ยูสขนาดใหญ่ ประกอบกับเรามีความพร้อมสุดขีดในตอนนี้ จึงมองว่าเป็นช่องทางและเป็นโอกาสที่พลัสฯจะขยายหน้างานออกไปรับบริหารนิติบุคคลให้โครงการทั่วไปด้วย" นางสาวนฤมลกล่าว