กลุ่มอสังหา กำไรพุ่ง รับเร่งโอนบ้าน
วันที่ : 1 เมษายน 2562
โบรกเกอร์คาดกำไร "กลุ่มอสังหาฯ" ไตรมาสแรกโต 12-22% รับอานิสงส์ลูกค้าเร่งโอนบ้านก่อน มาตรการคุมสินเชื่อมีผลบังคับใช้ แต่กดดันไตรมาส 2 กำไรหด กระทบราคาหุ้น ปรับตัวลดลง มองเป็นโอกาสซื้อ เหตุ ปันผลสูง ราคาหุ้นถูก
โบรกเกอร์คาดกำไร "กลุ่มอสังหาฯ" ไตรมาสแรกโต 12-22% รับอานิสงส์ลูกค้าเร่งโอนบ้านก่อน มาตรการคุมสินเชื่อมีผลบังคับใช้ แต่กดดันไตรมาส 2 กำไรหด กระทบราคาหุ้น ปรับตัวลดลง มองเป็นโอกาสซื้อ เหตุ ปันผลสูง ราคาหุ้นถูก
นายสรพงษ์ จักรธีรังกูร นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า คาดการณ์ กำไรกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ (9 บริษัท) ไตรมาส 1 ปี 2562 อยู่ที่ 7,150 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากผู้ประกอบอสังหาริมทรัพย์จัดโปรโมชั่นกระตุ้นยอดขายและการโอน ก่อนที่มาตรการควบคุมสินเชื่อบ้าน หรือ มาตรการแอลทีวี (LTV) ของธนาคาร แห่งประเทศไทย (ธปท.) จะมีการบังคับใช้ ในวันที่ 1 เม.ย. นี้ และมียอดขาย รอรับรู้รายได้ (backlog) ที่เลื่อนการรับรู้รายได้จากไตรมาส 4 ปีก่อน มาเป็นไตรมาส 1 ปีนี้
สำหรับกำไรทั้งปี 2562 คาดว่าอยู่ที่ 3.72 หมื่นล้านบาท ลดลง 3.2% จากปีก่อนอยู่ที่ 3.84 หมื่นล้านบาท เนื่องจากมองว่าไตรมาส 2 กำไรจะปรับตัวลดลง เพราะ การอัดโปรโมชั่น ได้ดึงความต้องการ ซื้อบ้านในอนาคตเข้ามาในไตรมาสแรก และผู้ประกอบการมีการเปิดโครงการใหม่ในช่วงไตรมาส 2 น้อย จากที่มีวันหยุดยาว อีกทั้งรอดูผลของมาตรการ LTV และ ปัจจัยทางการเมือง มีผลทำให้ราคาหุ้น กลุ่มอสังหาฯมีโอกาสปรับตัวลดลง จึงเป็นโอกาสที่จะเข้าซื้อ เพราะมองว่า ที่ผ่านมาราคาหุ้นกลุ่มนี้ปรับตัวลดลงไปมากแล้ว โอกาสที่จะลงอีกไม่มาก
ประกอบกับหุ้นกลุ่มนี้มีผลตอบแทนเงินปันผลที่สูง 7-8% รวมถึงการธปท. ไม่มีมาตรการเข้ามาเพิ่มอีก เชื่อว่าราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ แต่นักลงทุนควรเลือก ลงทุนในหุ้นอสังหาฯที่มีความมั่นคง ของกำไร มีการกระจายฐานรายได้และกำไรในธุรกิจอื่น แนะนำลงทุน บมจ.ควอลิตี้เฮ้าส์ (QH) ราคาเหมาะสมที่ 3.60 บาท, บมจ. แลนด์แอนด์เฮ้าส์ (LH) ราคา เหมาะสมที่ 11.20 บาท เพราะเน้นทำ โครงการบ้านแนวราบซึ่งได้รับผลกระทบ LTV น้อย ขณะที่ปันผลสูง 6-7%
นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการ อาวุโสและนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า บริษัทคาดว่า กำไรสุทธิของกลุ่มอสังหาฯ (6 บริษัท) ไตรมาส 1 ปีนี้โต 22% อยู่ที่ 7.51 พันล้านบาท เนื่องจากมีโครงการที่จะโอนมากขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากมาตรการ LTV และมีโครงการที่เตรียมโอนในไตรมาสนี้ อยู่แล้ว รวมถึงไตรมาสนี้เป็นไตรมาส ที่มีการโอนน้อยสุดของปีก่อน
สำหรับทั้งปี 2562 คาดว่ากำไร กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ลดลงเล็กน้อย จากปีก่อนที่มีกำไร 3.26 หมื่นล้านบาท เพราะมาตรการ LTV ทำให้ผู้ประกอบการ รอดูผลกระทบของมาตรการดังกล่าว ทำให้เปิดโครงการใหม่น้อยกว่าปีก่อน แต่จากที่ราคาหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ปรับตัวลดลงมาแล้ว ทำให้ปัจจุบัน ราคาหุ้นถือว่าถูกสุดในรอบ 9 ปี จาก มีค่า P/E เพียง 6 เท่า จากปกติซื้อขาย ที่ P/ E 9 -12 เท่า และโอกาสที่ราคาหุ้นจะปรับตัวลดลงอีกคงไม่มาก จึงเป็นโอกาสลงทุน แต่ควรเลือกลงทุน หุ้นอสังหาขนาดใหญ่ ที่เน้นพัฒนาโครงการแนวราบและได้รับผลกระทบ จากมาตรการ LTV น้อย เช่น QH ให้ราคาเหมาะสมที่ 3.88 บาท LH ให้ราคาเหมาะสมที่ 12.10 บาท และบมจ.ศุภาลัย (SPALI) ให้ราคาเหมาะสม ที่ 23.25 บาท
นายสรพงษ์ จักรธีรังกูร นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า คาดการณ์ กำไรกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ (9 บริษัท) ไตรมาส 1 ปี 2562 อยู่ที่ 7,150 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากผู้ประกอบอสังหาริมทรัพย์จัดโปรโมชั่นกระตุ้นยอดขายและการโอน ก่อนที่มาตรการควบคุมสินเชื่อบ้าน หรือ มาตรการแอลทีวี (LTV) ของธนาคาร แห่งประเทศไทย (ธปท.) จะมีการบังคับใช้ ในวันที่ 1 เม.ย. นี้ และมียอดขาย รอรับรู้รายได้ (backlog) ที่เลื่อนการรับรู้รายได้จากไตรมาส 4 ปีก่อน มาเป็นไตรมาส 1 ปีนี้
สำหรับกำไรทั้งปี 2562 คาดว่าอยู่ที่ 3.72 หมื่นล้านบาท ลดลง 3.2% จากปีก่อนอยู่ที่ 3.84 หมื่นล้านบาท เนื่องจากมองว่าไตรมาส 2 กำไรจะปรับตัวลดลง เพราะ การอัดโปรโมชั่น ได้ดึงความต้องการ ซื้อบ้านในอนาคตเข้ามาในไตรมาสแรก และผู้ประกอบการมีการเปิดโครงการใหม่ในช่วงไตรมาส 2 น้อย จากที่มีวันหยุดยาว อีกทั้งรอดูผลของมาตรการ LTV และ ปัจจัยทางการเมือง มีผลทำให้ราคาหุ้น กลุ่มอสังหาฯมีโอกาสปรับตัวลดลง จึงเป็นโอกาสที่จะเข้าซื้อ เพราะมองว่า ที่ผ่านมาราคาหุ้นกลุ่มนี้ปรับตัวลดลงไปมากแล้ว โอกาสที่จะลงอีกไม่มาก
ประกอบกับหุ้นกลุ่มนี้มีผลตอบแทนเงินปันผลที่สูง 7-8% รวมถึงการธปท. ไม่มีมาตรการเข้ามาเพิ่มอีก เชื่อว่าราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ แต่นักลงทุนควรเลือก ลงทุนในหุ้นอสังหาฯที่มีความมั่นคง ของกำไร มีการกระจายฐานรายได้และกำไรในธุรกิจอื่น แนะนำลงทุน บมจ.ควอลิตี้เฮ้าส์ (QH) ราคาเหมาะสมที่ 3.60 บาท, บมจ. แลนด์แอนด์เฮ้าส์ (LH) ราคา เหมาะสมที่ 11.20 บาท เพราะเน้นทำ โครงการบ้านแนวราบซึ่งได้รับผลกระทบ LTV น้อย ขณะที่ปันผลสูง 6-7%
นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการ อาวุโสและนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า บริษัทคาดว่า กำไรสุทธิของกลุ่มอสังหาฯ (6 บริษัท) ไตรมาส 1 ปีนี้โต 22% อยู่ที่ 7.51 พันล้านบาท เนื่องจากมีโครงการที่จะโอนมากขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากมาตรการ LTV และมีโครงการที่เตรียมโอนในไตรมาสนี้ อยู่แล้ว รวมถึงไตรมาสนี้เป็นไตรมาส ที่มีการโอนน้อยสุดของปีก่อน
สำหรับทั้งปี 2562 คาดว่ากำไร กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ลดลงเล็กน้อย จากปีก่อนที่มีกำไร 3.26 หมื่นล้านบาท เพราะมาตรการ LTV ทำให้ผู้ประกอบการ รอดูผลกระทบของมาตรการดังกล่าว ทำให้เปิดโครงการใหม่น้อยกว่าปีก่อน แต่จากที่ราคาหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ปรับตัวลดลงมาแล้ว ทำให้ปัจจุบัน ราคาหุ้นถือว่าถูกสุดในรอบ 9 ปี จาก มีค่า P/E เพียง 6 เท่า จากปกติซื้อขาย ที่ P/ E 9 -12 เท่า และโอกาสที่ราคาหุ้นจะปรับตัวลดลงอีกคงไม่มาก จึงเป็นโอกาสลงทุน แต่ควรเลือกลงทุน หุ้นอสังหาขนาดใหญ่ ที่เน้นพัฒนาโครงการแนวราบและได้รับผลกระทบ จากมาตรการ LTV น้อย เช่น QH ให้ราคาเหมาะสมที่ 3.88 บาท LH ให้ราคาเหมาะสมที่ 12.10 บาท และบมจ.ศุภาลัย (SPALI) ให้ราคาเหมาะสม ที่ 23.25 บาท
ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ