MBK ตั้งเป้ารายได้ปี 62 โต 8% จากการรับรู้รายได้ 7 กลุ่มธุรกิจหลัก วางงบลงทุน 3 ปี รวม 4,389 ล้านบาท ขยายธุรกิจ เล็งขายโรงแรมดุสิตธานี มัลดีฟส์เข้ากอง REIT คาดบุ๊กกำไรตามสัดส่วนการถือหุ้น 35% คาดชัดเจนในช่วง Q3

          นายสุเวทย์ ธีรวชิรกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) หรือ MBK เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าปี 2562 มีรายได้รวมเติบโต 8% เมื่อเทียบกับปี 2561 ที่มีรายได้รวม 12,692.90 ล้านบาท จากการรับรู้รายได้จาก 7 ธุรกิจหลัก ได้แก่ ธุรกิจศูนย์การค้า, ธุรกิจโรงแรมและการท่องเที่ยว, ธุรกิจกอล์ฟ, ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์, ธุรกิจอาหาร, ธุรกิจการเงิน, ธุรกิจอื่น ๆ และธุรกิจสนับสนุน

          โดยรายได้หลักจะยังมาจากธุรกิจศูนย์การค้า ด้วยการปรับขึ้นอัตราค่าเช่าเพิ่มประมาณ 2% ของลูกค้าที่หมดสัญญาภายในปี 2562 และรายได้จากธุรกิจการเงิน (การปล่อยสินเชื่อ) ซึ่งปัจจุบันมีพอร์ตสินเชื่อรวมอยู่ที่ 13,000 ล้านบาท อีกทั้งคาดว่าพอร์ตสินเชื่อจะปรับเพิ่มขึ้นเป็น 20,000 ล้านบาทภายในปี 2566

          สำหรับในปี 2562-2564 บริษัทตั้งงบลงทุนรวมประมาณ 4,389 ล้านบาท แบ่งเป็นปี 2562 ประมาณ 1,392 ล้านบาท, ปี 2563 ประมาณ 1,428 ล้านบาท และปี 2564 ประมาณ 1,569 ล้านบาท โดยจะเป็นการลงทุนในธุรกิจศูนย์การค้า ได้แก่ MBK Center งบลงทุนรวมประมาณ 299 ล้านบาท เพื่อใช้ลงทุนในระบบการดำเนินงาน และพื้นที่เช่าให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เป็นต้น

          ขณะที่ธุรกิจโรงแรมและการท่องเที่ยว ได้แก่ 1. การลงทุนในโรงแรม PPB งบลงทุนรวมประมาณ 394 ล้านบาท 2. การลงทุนโรงแรมดุสิตธานี  งบลงทุนรวมประมาณ 328 ล้านบาท 3. โรงแรม Layana และ Tinidee กรุงเทพฯ และระยอง งบลงทุนรวมประมาณ 39 ล้านบาท 4. โรงแรมกระบี่ อ่าวนาง งบลงทุนรวมประมาณ 29 ล้านบาท ส่วนธุรกิจกอล์ฟ งบลงทุนรวมประมาณ 53 ล้านบาท

          ด้านธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ บริษัทมีแผนพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม จำนวน 3 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 1,521 ล้านบาท ได้แก่ โครงการคอนโดมิเนียม บริเวณสถานีรถไฟฟ้า ปุณณวิถี, โครงการคอนโดมิเนียม บริเวณสถานีรถไฟฟ้าวุฒากาศ และโครงการคอนโดมิเนียม จรัญสนิทวงศ์ รวมไปถึงโครงการแนวราบ ได้แก่ โครงการบ้านแนวราบ มูลค่าโครงการรวม 1,081 ล้านบาท

          นายสุเวทย์ กล่าวว่า ในปี 2562 บริษัทยังมีแผนออกหุ้นกู้ระยะสั้น มูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท สำหรับชำระเงินกู้ระยะสั้น เพื่อเป็นการเพิ่มสภาพคล่อง อีกทั้งยังอยู่ระหว่างจัดทำแผนขายสินทรัพย์ประเภทโรงแรม คือโรงแรมดุสิตธานี มัลดีฟส์ ขายเข้ากองทรัสต์ เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) มูลค่าประมาณ 2,300 ล้านบาท ปัจจุบันอยู่ระหว่างรอกระบวนการของกองทุน เพื่ออนุมัติ คาดว่าจะชัดเจนในช่วงไตรมาส 3/2562 ซึ่งบริษัทจะรับรู้ส่วนแบ่งกำไรตามสัดส่วนการถือหุ้น 35%