GOLDแย้มยอดขายไตรมาส2พุ่ง ทำได้ 9,000 ล้าน ดันแบ็กล็อกแตะ 6,000 ล้าน
Loading

GOLDแย้มยอดขายไตรมาส2พุ่ง ทำได้ 9,000 ล้าน ดันแบ็กล็อกแตะ 6,000 ล้าน

วันที่ : 9 เมษายน 2562
GOLD แย้มยอดขายไตรมาส 2/61-62 ก่อนใช้ LTV ทำได้ 9,000 ล้านบาท ดันแบ็กล็อกพุ่ง 6,000 ล้านบาท มีสต๊อกเพิ่มขึ้นอีก 800 ล้านบาท จากการเปิดโครงการใหม่ และไม่ได้หยุดงานก่อสร้างโครงการเก่า
          GOLD แย้มยอดขายไตรมาส 2/61-62 ก่อนใช้ LTV ทำได้ 9,000 ล้านบาท ดันแบ็กล็อกพุ่ง 6,000 ล้านบาท มีสต๊อกเพิ่มขึ้นอีก 800 ล้านบาท จากการเปิดโครงการใหม่ และไม่ได้หยุดงานก่อสร้างโครงการเก่า

          นายแสนผิน สุขี กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GOLD เปิดเผยว่า บริษัทมียอดขาย (Presale) ในช่วงไตรมาส 2/2561-2562 (มกราคม-มีนาคม 2562) แล้วที่ 9,000 ล้านบาท ดีกว่าเป้าหมายที่บริษัทตั้งไว้ที่ 8,600 ล้านบาท โดยในช่วงไตรมาส 2/2561-2562 บริษัทมีการเปิดตัวโครงการใหม่รวม 7 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 7,481 ล้านบาท ประกอบด้วย โครงการทาวน์โฮม 4 โครงการ, โครงการบ้านเดี่ยว  2 โครงการ และโครงการในต่างจังหวัด 1 โครงการ ซึ่งทุกโครงการได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดี

          ทั้งนี้ จากยอดขายที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้บริษัทมียอดขายรอโอน (Backlog) เพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 6,000 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ในช่วงเดือนมกราคม-มีนาคม 2562 ที่ผ่านมา บริษัทมีสินค้าพร้อมโอน (สต๊อก : Stock) เพิ่มขึ้นอีก จำนวน 800 ล้านบาท จากการเปิดโครงการใหม่  5 โครงการ ในช่วงดังกล่าว และไม่ได้หยุดงานก่อสร้างโครงการเก่า

          อย่างไรก็ตาม จากภาวะการแข่งขันในตลาดอสังหาริมทรัพย์สูงขึ้น เนื่องจากผู้ประกอบการเริ่มหันมาทำตลาดแนวราบมากขึ้น และผู้บริโภคมีเงื่อนไข และข้อจำกัดมากขึ้น เช่น มาตรการควบคุมสินเชื่อ (LTV) ใหม่ ที่มีผลบังคับใช้แล้วตั้งแต่วันที่ 1 เมษายนที่ผ่านมา แต่บริษัทไม่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากลูกค้าส่วนใหญ่เป็นกลุ่มลูกค้าที่ซื้อเพื่ออยู่จริง

          สำหรับในปี 2562 (มกราคม-ธันวาคม 2562) บริษัทมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่รวม 28 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 33,000 ล้านบาท แบ่งเป็น โครงการทาวน์โฮม 13 โครงการ โครงการบ้านเดี่ยว 6 โครงการ โครงการนีโอโฮม (บ้านแฝด) 4 โครงการ และเป็นโครงการในต่างจังหวัด 5 โครงการ ปัจจุบันมีที่ดินรองรับการพัฒนาโครงการแล้วทั้งหมด

          นายแสนผิน กล่าวอีกว่า ในปี 2562 บริษัทได้กำหนดกลยุทธ์รุกตลาดไว้ 7 ข้อ ได้แก่ 1. เดินหน้าเปิดโครงการภายใต้แบรนด์ นีโอโฮม (NEO Home) เป็นบ้านแนวคิดใหม่ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของคนเมือง ในระดับราคา 4-6 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นบ้านที่เข้ามาทดแทนความต้องการบ้านเดี่ยวในเมืองที่ราคา 7-10 ล้านบาท ได้อย่างลงตัว

          2. ขยายตลาดและเพิ่มโครงการทาวน์โฮม (Townhome) ซึ่งเป็นแฟลกซ์ชิพของบริษัท ทั้งจำนวนและทำเล โดยในปี 2562 บริษัทมีแผนเปิดโครงการทาวน์โฮม 13 โครงการ และพร้อมบุกทำเลใหม่ ๆ ที่บริษัทยังไม่ได้เข้าไปทำตลาด 
 3. สร้างรายได้บ้านเดี่ยวเพิ่มขึ้น ปัจจุบันตลาดบ้านเดี่ยวยังคงมีความต้องการอย่างต่อเนื่อง ซึ่งบริษัทจะมีการขยายตลาดบ้านเดี่ยวระดับราคา 7-10 ล้านบาทต่อยูนิต ในทำเลเมืองชั้นใน เช่น รามอินทรา, ศรีนครินทร์, บางแค, เพชรเกษม เป็นต้น

          4. ขยายตลาดซิตี้โฮม (City Home) โดยปัจจุบันผู้บริโภคมองหาบ้านทำเลในเมือง ซึ่งหาได้ค่อนข้างยาก บริษัทจึงเริ่มคิดค้นหาแนวทาง เพื่อจัดสรรบ้านในเมือง ให้เป็นซิตี้โฮมที่แท้จริงไว้รองรับความต้องการของลูกค้ากลุ่มนี้ โดยไม่จำกัดว่าจะเป็นบ้านเดี่ยว บ้านแฝด หรือทาวน์โฮม แต่เป็นบ้านที่มีฟังก์ชันครบ และอยู่ในเมือง เช่น ย่านสาทร, พระราม 3, ลาดพร้าว, แจ้งวัฒนะ เป็นต้น โดยกำหนดโครงสร้างราคาขายในระดับ 10-20 ล้านบาทต่อยูนิต

          5. ขยายตลาดต่างจังหวัด ซึ่งทุกโครงการในต่างจังหวัด จะมีความโดดเด่น ด้านบรรยากาศการอยู่อาศัยที่คุ้มค่า ความหรูหรา แบบบ้าน และฟังก์ชันที่ครบ โดยบริษัทยังคงต่อยอดพัฒนาโครงการในต่างจังหวัดเพิ่มขึ้น เช่น ชลบุรี, ฉะเชิงเทรา, เชียงราย เป็นต้น โดยพิจารณาทำเล รวมถึงการพัฒนาโครงการร่วมกับพื้นที่ของ Big C เป็นต้น 

6. FULL EMPIRE เปิดครบอาณาจักร “โกลเด้น เอ็มไพร์” ซึ่งบริษัทมีแผนเปิดอาณาจักรโกลเด้น เอ็มไพร์ ให้ครบมากขึ้น ในทำเลต่าง ๆ และในอนาคตลูกค้าจะสามารถเลือกโครงการในอาณาจักรโกลเด้น เอ็มไพร์ ได้ที่ทำเลสาทร, บางแค, ลาดพร้าว, แจ้งวัฒนะ และเชียงราย

          และ 7. พัฒนาระบบรองรับการเติบโต มุ่งเน้นแนวคิด Make It Better, Do It Faster “พัฒนานวัตกรรม พัฒนาระบบ ให้ดีกว่าและเร็วยิ่งขึ้น” โดยบริษัทมีแผนที่จะพัฒนานวัตกรรมสำหรับการอยู่อาศัย ซึ่งนับเป็นจุดแข็งของ GOLD อยู่แล้ว ให้มีความแข็งแกร่งยิ่งขึ้น พร้อมกับพัฒนาระบบสารสนเทศ การบริหารจัดการด้านต่าง ๆ ภายในองค์กร เพื่อรองรับการเติบโตของบริษัท สร้างมาตรฐานในการปฏิบัติงาน การบริหารงานก่อสร้าง การบริการลูกบ้านและลูกค้า ให้มีความรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
 
ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ