เมื่อวันที่ 24  มิ.ย. ดร.ธัชพล กาญจนกูล  ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ กล่าวว่า  พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ได้ออกประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่องการเรียกเก็บค่าจดทะเบียน การโอนอสังหาริมทรัพย์ และค่าจดทะเบียนการจดจำนองอสังหาริมทรัพย์ อันเนื่องจากการโอนในคราวเดียวกันในอัตราร้อยละ 0.01 สำหรับการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ ที่เป็นที่ดินพร้อมอาคาร หรืออาคารที่อยู่อาศัยประเภทบ้านเดี่ยว บ้านแฝด  และบ้านแถว ราคาซื้อขายไม่เกิน 1 ล้านบาท และวงเงินจำนองไม่เกิน 1 ล้านบาท ตามมติ ครม.โดยเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 24 มิ.ย. 62-23 มิ.ย. 63 ทั้งนี้การเคหะฯ ได้ประชุมเตรียมความพร้อมร่วมกับธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ถึงแนวทางและรายละเอียดที่จะต้องเตรียมการ เพื่อให้การโอนและจดจำนอง เป็นไปด้วยความราบรื่น โดยในครั้งนี้การเคหะฯ มีลูกค้าที่พร้อมโอนกรรมสิทธิ์ในภาพรวมทั่วประเทศ จำนวนกว่า 50,000 ราย แบ่งเป็นพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล จำนวน 32,000 ราย และพื้นที่ต่างจังหวัด จำนวน 18,000 ราย

          ผู้ว่าการฯ ระบุอีกว่า รัฐบาลเคยออกมาตรการลดค่าโอนกรรมสิทธิ์ และจดจำนองเงื่อนไขร้อยละ 0.01 มาครั้งหนึ่งแล้วเมื่อปี 58 มีผู้ให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก ประกอบกับการเคหะฯมีโครงการที่ตรงกับเงื่อนไขเป็นจำนวนมาก จึงต้องประชุมวางแผนหารือถึงรายละเอียดกันก่อน เพื่อให้การโอนและจดจำนองลูกค้าการเคหะฯ ที่ใช้บริการสินเชื่อจากธนาคารอาคารสงเคราะห์ ธนาคารออมสิน และธนาคารกรุงไทย เดิมอัตราการโอนกรรมสิทธิ์และการจดจำนอง กรมที่ดินเก็บค่าจดทะเบียนรายการร้อยละ 2 ซึ่งเป็นภาระที่หนักสำหรับลูกค้าการเคหะฯ ที่มีรายได้น้อย ครม.จึงมีมติเมื่อวันที่ 7 พ.ค. 62 ลดค่าธรรมเนียมเพื่อลดภาระผู้มีรายได้น้อย ทำให้ลูกค้ามีกำลังซื้อเพิ่มขึ้นด้วย เท่ากับเป็นการช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไปในตัว ทั้งนี้ลูกค้าที่จะโอนกรรมสิทธิ์และจดจำนองได้ ต้องเป็นลูกค้าที่ครบค้ำประกัน 5 ปี ไม่มีหนี้ค้างชำระ และคู่สมรสเซ็นยินยอมในวันโอนได้