นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าฯกทม. เผยถึง การจัดทำร่างผังเมืองรวมกรุงเทพมหานคร (ปรับปรุงครั้งที่ 4)ว่า ก่อนหน้านี้มีการประชาพิจารณ์รับฟังความเห็นกลุ่มย่อยไปแล้ว แต่ก่อนบังคับใช้จะประกาศลงในพื้นที่ 50 เขต เพื่อลงรายละเอียดอีกครั้ง โดยร่างผังใหม่จะมีผล เช่น บางโซนอาจถูกปรับเป็นพื้นที่อยู่อาศัยหนาแน่นปานกลาง หรือผังสีส้ม ส่งผลให้พื้นที่ดังกล่าวสามารถสร้าง พัฒนาสิ่งต่าง ๆ ได้มากขึ้น ทั้งสิ่งปลูกสร้างที่อยู่อาศัย ก็สามารถอนุญาตได้มากขึ้น

          ขณะที่ผลกระทบเมื่อมีคนอยู่จำนวนมากคือ ความแออัด หรือความคุ้มค่าในการสร้างรถไฟฟ้าที่ขยายออกไป การขึ้นของอาคารที่พักอาศัย เช่น คอนโดก็ต้องมีบาลานซ์กับพื้นที่ด้วย เป็นเหตุผลว่าทำไมต้องมีการประชาพิจารณ์ในระดับพื้นที่หรือจุดที่มีการปรับผังเป็นพื้นที่รับน้ำ ก็ควรจะต้องดูว่าการทดแทนพื้นที่รับน้ำมีเพียงพอหรือไม่ ขณะนี้สำนักการระบายน้ำทำความเห็นมาว่ายังไม่เห็นด้วยในพื้นที่บางโซน เป็นต้น คาดว่าจะสามารถบังคับใช้ประกาศผังเมืองรวมฉบับปรับปรุงครั้งที่ 4 ได้ใน ช่วงปี 68

          นายวิศณุ กล่าวต่อว่า ผังเมืองรวมใหม่จะเพิ่มเติมนโยบายการแก้ปัญหาต่าง ๆ เช่น การปรับสาธารณูปโภคที่อยู่บนทางเท้า เพราะหากมีผังเมืองเอื้อให้สามารถทำได้ และเป็นประโยชน์จะทำให้ทางเท้าสะอาด เดินได้ หรือที่จอดรถสาธารณะ ที่จอดรถสำหรับแท็กซี่ หากสามารถนำเข้าไปจอดได้ในพื้นที่ของเอกชนได้ก็สามารถใช้กฎหมายควบคุมอาคาร หรือผังเมือง มาช่วยดูได้ หรือไม่ จะได้ไม่ต้องนำไปจอดที่หน้าห้าง หรือหน้าป้ายรถเมล์ เป็นการแก้ปัญหาได้ระดับหนึ่ง

          ทั้งนี้ ได้ให้นโยบายนำปัญหาที่พบเจอมาดูว่าจุดไหนจะแก้ด้วยผังเมือง จุดไหนจะแก้ด้วยกฎหมายควบคุมอาคาร จุดไหนจะแก้ด้วยการพิจารณา EIA  กทม.ไม่ห่วงที่จะแก้ด้วยกฎหมาย แต่ขอให้เข้าใจปัญหา

          "ผังเมืองไม่ได้แก้กันบ่อย ๆ แต่ทำ 5 ปีครั้ง จึงต้องทำให้ละเอียดรอบคอบ นำปัญหาขึ้นมาวางบนโต๊ะว่าเรามีอะไรบ้าง และสามารถแก้ได้ด้วยกฎหมายตัวใด"

          ปัจจุบันโครงการวางและจัดทำผังเมืองรวมฯอยู่ระหว่างดำเนินการ โดยมีเป้าหมายให้ผังเมืองสอดรับกับสภาพการณ์และสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป