กลุ่มแหลมทอง รับอานิสงส์อีอีซี เดินหน้าลงทุนขยายพอร์ตอสังหาฯ โซนตะวันออก เล็งผุดเมกะโปรเจกมิกซ์ยูส 250 ไร่ ศรีราชา มูลค่ากว่าหมื่นล้าน ชูบ้านเดี่ยว ขายหลังละ 300 ล้านเจาะเศรษฐีทั่วโลก

          นายสมควร  นกหงษ์  ประธานกรรมการบริหาร แหลมทองกรุ๊ป กล่าวว่า แผนยุทธศาสตร์ประเทศไทยในโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซี กระตุ้นการค้าการลงทุนในภาคตะวันออกขยายตัวต่อเนื่อง โดยกลุ่มแหลมทองมีที่ดินหลายแปลงในย่านนี้พร้อมรองรับ การพัฒนาโปรเจกต่างๆ ซึ่งวางนโยบายการลงทุนมุ่งโครงการ ที่อยู่อาศัยทั้งบ้านเดี่ยว คอนโดมิเนียม โรงแรม รวมทั้งสวนสนุกในร่ม "ฮาร์เบอร์แลนด์" หรือธุรกิจรูปแบบ ใหม่ที่แตกต่างจากผู้ประกอบการ รายอื่นในตลาด ยกเว้นธุรกิจค้าปลีกซึ่งมีการแข่งขันสูง จากผู้เล่น ยักษ์ใหญ่ไทยและต่างชาติที่มีทั้ง พลังทุนและโนว์ฮาว ซึ่งกลุ่มแหลมทองจะไม่เข้าลงทุนอีกต่อไป

          ล่าสุด กลุ่มแหลมทองอยู่ระหว่างวางแผนลงทุนเมกะโปรเจกมิกซ์ยูส บนที่ดิน250 ไร่ ย่านพัทยา-ศรีราชา จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นส่วนต่อขยายจากโครงการแหล่งท่องเที่ยวฟลาวเวอร์แลนด์ (Flower Land) ดินแดน แห่งดอกไม้และไม้ยืนต้น ซึ่งเปิดให้บริการตั้งแต่เดือน ธ.ค.ปีที่ผ่านมา ใช้พื้นที่ไปแล้ว 100 ไร่ จากที่ดินทั้งหมด 350 ไร่ เบื้องต้นคาดว่าโครงการมี มูลค่าการลงทุนไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท ประกอบด้วยที่อยู่อาศัย บ้านเดี่ยว ราคาขายหลังละ 200-300

          ล้านบาท โดยจะมีการนำเทคโนโลยี ทันสมัยเข้ามาเป็นส่วนประกอบหลักเป็นสมาร์ทโฮมเจาะกลุ่มเศรษฐีทั่วโลก นอกจากนี้จะมีคอนโดมิเนียม และองค์ประกอบการต่างๆ น่าจะเริ่มพัฒนาโครงการได้ปีหน้า "การพัฒนาโปรเจกมิกซ์ยูส ครั้งนี้เป็นโครงการแห่งอนาคต รองรับศักยภาพอีอีซี ที่จะดึงดูดผู้คนและการลงทุนจากทั่วโลกเข้ามา ศรีราชาสะดือเศรษฐกิจที่ได้ประโยชน์สูงจากยุทธศาสตร์อีอีซี" นอกจากนี้อยู่ระหว่างยื่นขอ ใบอนุญาตก่อสร้างโรงแรมฮอลิเดย์อินน์ บนที่ดิน 5 ไร่ ติดทะเล ในศรีราชา คาดเริ่มดำเนินการได้ปีหน้า  ขณะที่ธุรกิจสวนสนุกในร่ม ฮาร์เบอร์แลนด์  ปัจจุบันมี 8 สาขา ในชลบุรี 3 สาขา อุดรธานี 1 สาขา และกรุงเทพฯ 4 สาขา ได้แก่ แฟชั่น ไอส์แลนด์ เกทเวย์ บางซื่อ เมกาบางนา ล่าสุดเปิดบริการสาขาเกทเวย์ เอกมัย พื้นที่ 3,500 ตร.ม. ภายใต้ธีม สวีทพาราไดซ์ ภายในปีนี้ เตรียมเปิดเพิ่มอีก 2 สาขา ได้แก่ เทอร์มินอล 21 โคราช และ เซ็นทรัล เวสต์เกต ซึ่งจะมี่ขนาดใหญ่ 7,000-8,000 ตร.ม.

          ฮาร์เบอร์แลนด์ วางแผนขยาย 2-3 แห่งต่อปี พร้อมเปิดเกมรุกตลาด ในกรุงเทพฯ และหัวเมืองใหญ่ มากขึ้น เน้นย่านที่มีประชากรเด็กและกลุ่มครอบครัวซึ่งเป็นเป้าหมายหลัก ขณะนี้นับเป็นหนึ่งในแม่เหล็กที่แลนด์ลอร์ดหรือเจ้าของพื้นที่ ต่างๆ ให้ความสนใจฮาร์เบอร์แลนด์เข้าเปิดให้บริการรองรับความต้องการของครอบครัวยุคใหม่ที่ให้ความสำคัญกับเครื่องเล่นเสริมทักษะสำหรับบุตรหลาน