รอซื้อบ้าน-คอนโดลดราคาหนีภาษี
Loading

รอซื้อบ้าน-คอนโดลดราคาหนีภาษี

วันที่ : 30 ตุลาคม 2562
นายวิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า ช่วงครึ่งปีแรกตลาดอสังหาริมทรัพย์ซบเซามากจากปัจจัยหลายอย่าง ทั้งภาวะเศรษฐกิจธนาคารเข้มงวดปล่อยสินเชื่อ แต่ในช่วงปลายปีนี้คาดว่าตลาดภาคอสังฯจะปรับตัวดีขึ้น
        นายวิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า ช่วงครึ่งปีแรกตลาดอสังหาริมทรัพย์ซบเซามากจากปัจจัยหลายอย่าง ทั้งภาวะเศรษฐกิจธนาคารเข้มงวดปล่อยสินเชื่อ แต่ในช่วงปลายปีนี้คาดว่าตลาดภาคอสังฯจะปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากรัฐบาลมีมาตรการออกมาช่วยเหลือภาคอสังฯ อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ต้องจับตาคือสต๊อกของบ้านและคอนโดฯในกรุงเทพฯและปริมณฑลที่เหลืออยู่จำนวน 150,000 หน่วย แบ่งเป็นคอนโดฯ 67,000 หน่วย และบ้านจัดสรร 83,000 หน่วย ที่กำลังก่อสร้างและยังรอการขายจำนวนมาก ทั้งนี้ผู้ประกอบการจะต้องรีบระบายสต๊อกที่มีออกไปให้หมดก่อนเพราะถ้ายังโอนหรือขายทรัพย์สินไม่ได้ ในช่วงต้นปีหน้าผู้ประกอบการจะต้องรับภาระภาษีเพิ่มขึ้นจากพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ 1 ม.ค.2563 "ในปีหน้าผู้ประกอบการจะไม่เร่งก่อสร้างในทันที แต่จะเร่งระบายสต๊อกที่มีก่อน โดยอาจต้องทำโปรโมชันจูงใจคนซื้อ เช่น ลดราคาขายบ้านจากเดิมราคา 3.1-3.2 ล้านบาท เหลือ 3 ล้านบาท เพื่อให้เข้าเงื่อนไขของรัฐบาลที่ช่วยเหลือผู้กู้ซื้อที่อยู่อาศัยราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท ทั้งเรื่องค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนองจากที่รวมกันเสีย 3% เหลือเพียง 0.01% และให้กู้ซื้อที่อยู่อาศัย ดอกเบี้ย 2.5% คงที่ 3 ปี เป็นต้น"

          ทั้งนี้ ที่อยู่อาศัยรอขายช่วงครึ่งปีแรกในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ จังหวัดนครราชสีมา ขอนแก่น อุดรธานี อุบลราชธานี และมหาสารคาม มีหน่วยเหลือขาย จำนวน 13,372 หน่วย คิดเป็นมูลค่า 50,967 ล้านบาท เช่น จังหวัดนครราชสีมา มีบ้านรอขาย 4,549 หน่วย โดยบ้านจัดสรรที่เหลือขายสะสมมากที่สุด คือ 1.ทำเลจอหอ 2.ทำเลบ้านใหม่-โคกกรวด และ 3.ทำเลหัวทะเล 600 หน่วย มูลค่า 1,831 ล้านบาท ส่วนทำเลบ้านจัดสรรที่ขายได้มากที่สุด ได้แก่ ทำเลหัวทะเล ทำเลบ้านใหม่-โคกกรวด 205 หน่วย และทำเลจอหอ 186 หน่วย มูลค่า 519 ล้านบาท" 

          นครราชสีมาและขอนแก่น มีโครงการบ้านและที่อยู่อาศัยขายได้มากที่สุด เนื่องจากเป็นเมืองใหญ่ มีการลงทุนพัฒนาด้านโครงสร้างพื้นฐานเยอะ ต่างจากอุดรธานี อุบลราชธานี และมหาสารคาม ที่ตลาดไม่หวือหวา"