พราว เรียลเอสเตทปรับสมดุลพอร์ตรายได้หลังคอนโดฯ สร้างเสร็จโอนปี 64 เล็งเทกโอเวอร์โครงการเล็ก 1-2 โครงการมูลค่า 500-750 ล้าน หวังรับรู้รายได้ภายในปี 63 ตั้งเป้ายอดขาย 1,000 ล้านบาท รับรู้รายได้ 200 ล้านบาท

          นายไพสิฐ แก่นจันทร์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พราว เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างเสนอคณะกรรมการบริษัท (บอร์ด) ในการซื้อคอนโดมิเนียมขนาดเล็กไม่เกิน 100 ยูนิต มูลค่า 200-250 ล้านบาท คาดว่าจะซื้อเข้าพอร์ต 1-3 โครงการ มูลค่ารวม 500-750 ล้านบาทในจังหวัดท่องเที่ยว ภูเก็ต พัทยา และเชียงใหม่ ซึ่งเป็นโครงการที่มีศักยภาพแต่ประสบปัญหาการเงิน ขาดสภาพคล่อง มีอนุญาตก่อสร้าง ผ่าน EIA แล้ว สามารถลงทุนพัฒนาต่อเนื่องได้เลย พัฒนาเสร็จและโอนได้ภายในปี 2563

          ปัจจุบันมีโครงการมาเสนอขาย 4-5 โครงการ โดยบริษัทจะเลือกลงทุนจาก 1. เซกเมนต์จะต้องใกล้เคียงกับตลาดที่พราวทำอยู่หรือระดับกลาง-บน 2. มีใบอนุญาตก่อสร้าง EIA หรือมีการก่อสร้างไปแล้ว บางส่วน เพื่อให้การพัฒนาต่อทำได้เร็วขึ้นโดยไม่ต้องเริ่มขออนุญาตใหม่ และ 3. จะต้องสร้างอัตราผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้น (ROE) 30% มากกว่าลงทุนพัฒนาเองที่จะมี ROE ที่ประมาณ 18%

          "บริษัทต้องการรักษาสมดุลของพอร์ตรายได้ให้มีความสม่ำเสมอ เนื่องจากที่ผ่านมาการลงทุนส่วนใหญ่เป็นคอนโดฯใช้เวลาก่อสร้างนาน 1-2 ปี โดยในปี 63 จะไม่มีโครงการก่อสร้างแล้วเสร็จ มีเพียงยูนิตที่เหลือขายจากโครงการโพกัส เพลินจิต จำนวน 25 ยูนิต มูลค่า 300 ล้านบาท ทำให้รายได้ของบริษัทในช่วงที่งานก่อสร้างยังไม่แล้วเสร็จไม่สม่ำเสมอ จึงต้องพัฒนาโครงการที่โอนได้ภายในปีนี้ เพื่อให้มีรายได้สม่ำเสมอ" นายไพสิฐ กล่าว

          โดยบริษัทตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 1,000 ล้านบาท มาจากโครงการ อินเตอร์คอนติเนนตัล เรสซิเดนเซส หัวหิน ที่จะเปิดขายในเฟสแรก จำนวน 70-80 ยูนิต มูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท และโครงการโฟกัส เพลินจิต ส่วนยอดรับรู้รายได้ตั้งไว้ที่กว่า 200 ล้านบาท มาจากโครงการโฟกัส เพลินจิตที่รับรายได้ได้เลย

          ล่าสุดเตรียมเปิดขายโครงการ อินเตอร์คอนติเนนตัล เรสซิเดนเซส หัวหิน ซึ่งเป็นที่พักอาศัยแห่งแรกในไทยภายใต้แบรนด์ "อินเตอร์ คอนติเนนตัล โฮเต็ล แอนด์ รีสอร์ท" โดยจะจัดงานรอบ วีไอพี ในวันที่ 29 กุมภาพันธ์-1 มีนาคมนี้ ที่ Gaysorn Urban Resort ซึ่งเป็นคอนโดมิเนียมที่บริหารโดยเครืออินเตอร์คอนติเนนตัล มีจำนวน 238 ยูนิต บนพื้นที่ 4 ไร่ ติดชายหาดราคาเริ่มต้น 7.89 ล้านบาท-100 กว่าล้านบาท โดยจะเปิดขายในเฟสแรก 70-80 ยูนิต คาดว่าจะปิดการขายได้กลางปีนี้ โดยปัจจุบันมีลูกค้าลงชื่อจองล่วงหน้าแล้วประมาณ 30 ราย