อสังหาฯ ตระกูลเตชะไกรศรี ซูเปอร์ลักเซอรี่ วินด์เชลล์ นราธิวาส คอนโดฯที่นี่...มีแต่เพนต์เฮาส์
วันที่ : 5 กุมภาพันธ์ 2563
"ใหญ่-ยิ่ง-ยง" สามทายาทธุรกิจตระกูลเตชะไกรศรี ในวงการธุรกิจ อุตสาหกรรม และอสังหาริมทรัพย์ นามสกุลนี้อยู่ใน ทำเนียบแถวหน้าเมืองไทยอย่างไม่ต้อง สงสัย
"ใหญ่-ยิ่ง-ยง" สามทายาทธุรกิจตระกูลเตชะไกรศรี ในวงการธุรกิจ อุตสาหกรรม และอสังหาริมทรัพย์ นามสกุลนี้อยู่ใน ทำเนียบแถวหน้าเมืองไทยอย่างไม่ต้อง สงสัย
เพดาน 7 เมตรสูงเท่า 40 ชั้น
ล่าสุดเป็นคิวของ "ใหญ่-โชติพล เตชะไกรศรี" ดีเวลอปเปอร์พ่อลูกอ่อน และเอ็มดี YLP บริษัทธุรกิจอสังหาฯ ลงทุนพัฒนาคอนโดมิเนียมระดับ ลักเซอรี่ บนทำเลใจกลางเมืองอย่างถนนนราธิวาส โซนพระราม 3
แบรนด์ใหม่หมาด "วินด์เชลล์ นราธิวาส" มูลค่าโครงการ 3,000 ล้านบาทถ้วน
โครงการที่มีความสูงเพียง 28 ชั้น แต่วัดความสูงเป็นเมตรออกมากลับพบว่ามีความสูงเทียบเท่าตึก 40 ชั้น
คำเฉลยเรียกความสนใจก็คือ "...คนเข้าใจผิดเยอะมาก คิดว่าเราดาวน์ไซซ์โครงการ แต่ความจริงออกแบบ 28 ชั้นตั้งแต่แรก เพียงแต่ทุกยูนิตมีความสูงพื้นชนเพดาน 7 เมตร ทำให้เป็นอาคารที่มีความสูงมากกว่าห้องชุดปกติ"
รายละเอียด วินด์เชลล์ นราธิวาส เกิดจากแนวคิดที่ต้องการมองต่าง เพื่อสร้างความแตกต่าง
ปัจจุบัน ฟาซาดหรือภาพลักษณ์ห้องชุด ในมหานครกรุงเทพฯ หยิบแนวคิดต่างประเทศมาดีไซน์ทำให้ยิ่งนับวันยิ่งคล้ายห้องกระจกหรือ glass box มากขึ้นเรื่อย ๆ
มุมที่มองต่างคือ การออกแบบเช่นนี้ ไม่เหมาะกับภูมิอากาศเมืองร้อนของประเทศไทย การมีตึกปิดล้อมรอบไปด้วยกระจกทำให้ผู้อยู่อาศัยขาดความใกล้ชิดกับธรรมชาติ อากาศธรรมชาติไม่ค่อยถ่ายเท แถมมีข้อจำกัดเรื่องพื้นที่ใช้สอยอีกต่างหาก นำไปสู่บทสรุปแบบฟันธงว่า คอนโดฯ ตัวเมืองในปัจจุบันมีความสวยงามที่เป็นแค่เปลือก แต่ไม่ตอบโจทย์การใช้สอย เช่น ระเบียงไม่มีพื้นที่ตากผ้า ไม่สามารถทำอาหารได้เพราะไม่มีครัวไทย หรือไม่มีหน้าต่างระบายกลิ่น
โปรดักต์เปรียบเทียบคือบ้านเดี่ยวทำเลนอกเมือง มีพื้นที่ใช้สอยเยอะแต่ไม่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนเมือง เช่น การเข้าสังคม ไกลจากสถานศึกษา ศูนย์การค้า และเจอกับปัญหารถติด ฯลฯ
เป้าลูกค้าซูเปอร์ลักเซอรี่ 21 ราย
โจทย์ธุรกิจมีจุดโฟกัสกลุ่มลูกค้า เป้าหมาย niche market ต้องการอยู่ในเมืองถาวร แต่ไม่สามารถหาโปรดักต์ที่ตอบโจทย์ได้ จึงจำเป็นต้องเลือกระหว่างอยู่คอนโดฯในเมืองกับบ้านอยู่นอกเมือง
นำไปสู่ดีไซน์คิดต่าง ทำห้องชุดพักอาศัยอารมณ์บ้านเดี่ยวบิ๊กไซซ์ เหตุผลที่ต้องทำขนาดนั้นเพราะตั้งราคาขาย เริ่มต้น 78-100 กว่าล้านบาท
ประเมินจากราคาขายอาจเป็นตลาด ซูเปอร์ลักเซอรี่ ราคาน่าจะแพงโอเวอร์ ? รึป่าว
คำตอบแบบคิดต่างก็คือ ราคา "บาท/ตารางเมตร" ไม่ได้สูงเหนือตลาด อยู่ที่ 1.6-1.9 แสนบาท/ตารางเมตร เฉลี่ยทั้งโครงการอยู่ที่ 1.8 แสน/ตารางเมตร
แต่สาเหตุที่ทำให้ห้องชุดมีราคาแพงเป็นเพราะแต่ละห้องให้พื้นที่ใช้สอยถึง 453-562 ตารางเมตร
เฉพาะค่าส่วนกลาง 100 บาท/ตารางเมตร คำนวณตกเดือนละ 45,300-56,200 บาท หรือปีละ 543,600-674,400 บาท
วินด์เชลล์ นราธิวาส มีห้องชุดให้เลือกเพียง 2 ไซซ์ คือ ไซซ์ S ขนาด 453 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 78 ล้านบาท จำกัดจำนวน 18 ยูนิต กับห้องไซซ์ L 562 ตารางเมตร เริ่มต้น 88 ล้านบาท อีก 18 ยูนิต
โดยธรรมชาติ พฤติกรรมผู้บริโภคตลาดซูเปอร์ลักเซอรี่ชอบความเป็นส่วนตัว ดังนั้น แต่ละฟลอร์ซึ่งมีจำนวนเพียง 2 ยูนิต จึงสามารถรวมห้องหรือคอมไบน์ให้มีพื้นที่รวม 1,015 ตารางเมตรได้
"วินด์เชลล์มี 36 ห้องก็จริง แต่ ยอดขาย 40% หรือ 15 ห้องแรกมีออร์เดอร์ให้รวมห้องพอสมควร เพราะฉะนั้น ผมคาดว่าลูกค้าทั้งโครงการ น่าจะมีเพียง 21 รายเท่านั้น"
ห้องชุดพักอาศัยเริ่มต้นชั้น 10 จนถึงชั้น 27 สนนราคาบวกเพิ่มฟลอร์ละ 8 แสนบาท/ยูนิต
ปลูกต้นไม้ใหญ่ 5 เมตรทุกห้อง
ฟังก์ชั่นดีไซน์นอกจากหรูเริ่ดยังต้องเนี้ยบเฉียบ เริ่มจาก 1 ฟลอร์มี 2 ยูนิตพร้อมลิฟต์ 2 ตัว แต่ละยูนิตประกอบด้วย living room แบบ double volume เพดานสูง 7 เมตร
ไฮไลต์อยู่ที่เป็นห้องชุดดูเพล็กซ์ หมายถึงห้องชุด 2 ชั้น เพดานชั่นล่างชั้นบน สูง 3.1-3.2 เมตร
ห้องชุดอารมณ์บ้านเดี่ยวดีไซน์ให้มีระเบียงขนาด 30-50 ตารางเมตร ที่เป็นบ่อลึก 1.1 เมตรทั้งด้านหน้า และด้านหลัง เจ้าของบ้านสามารถทำ บ่อบัวหรือลงดินปลูกต้นไม้ใหญ่สูง 5 เมตร
ฟังก์ชั่นแบบนี้คงต้องท้าพิสูจน์ว่ามีห้องชุดยกโครงการที่ไหนบ้าง สามารถปลูกต้นไม้ใหญ่ 5 เมตรได้ทุกห้อง
และแน่นอนว่าแยกส่วนเซอร์วิสแอเรีย ของห้องพักแม่บ้านที่มีโซนครัวไทยและโซนซักล้าง
การขายมี 2 ออปชั่น ซื้อแบบห้องเปล่า- bare shell หรือห้องพร้อมตกแต่ง ซึ่งหมายถึงต้องเตรียมบัดเจตอีกต่างหากตั้งแต่ 20-30 ล้านบาท/ห้อง
โดยห้องเปล่าใช้เทคนิคออกแบบล้ำ ๆ ที่เรียกว่า column free หรือไม่มีเสา โดยมีหน้าต่าง บานเกล็ด ประตูกระจกสูง 5.50 เมตร ทำให้ลมพลิ้วผ่านหน้าบ้าน ทะลุหลังบ้าน ช่วยลดการเกิดเชื้อราที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพได้
ถ้ายังไม่จุใจพอ ห้องชุดที่นี่เตรียมความพร้อมระบบท่อน้ำที่สามารถปรับเปลี่ยนและย้ายห้องน้ำได้
คำถามสำคัญและเป็นปัญหา โลกแตกสำหรับการอยู่คอนโดฯ คือ เรื่องที่จอดรถ
ห้องชุดเริ่มต้น 78 ล้านบาท มอบสิทธิ์ฟิกซ์ที่จอดรถยูนิตละ 3 คัน โดยทั้งโครงการเตรียมที่จอดรถมากกว่าจำนวนยูนิตถึง 500% หรือจำนวน 209 ช่องจอด
ไลฟ์สไตล์ชอบปาร์ตี้หรือจัดประชุมบ่อยครั้งแค่ไหนไม่ใช่ปัญหา เพราะดีไซน์ที่เตรียมไว้ให้เท่ากับมีที่จอดรถรองรับแขก วี.ไอ.พี.ได้ถึง 100 คัน
โครงการก่อสร้าง 3 ปีเต็ม ปัจจุบันสร้างเสร็จพร้อมอยู่ มียอดพรีเซลแล้ว 15 ยูนิต คิดเป็นสัดส่วน 40%
จึงเหลือขายอีก 21 ยูนิต ที่ตั้งเป้าปิดการขายได้ภายในไตรมาส 1/64
เจาะคนรุ่นใหม่-ครอบครัวใหญ่
ตามไปดูแผนธุรกิจ กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย คือใคร พบคำตอบ 3 กลุ่มหลัก
1.คนรุ่นใหม่ที่อยู่คอนโดฯในเมืองอยู่แล้ว และวางแผนจะย้ายออกไปอยู่บ้านเมื่อเริ่มสร้างครอบครัว แต่สุดท้ายไม่ได้ย้ายเพราะคุ้นเคยกับการอยู่ในเมืองมากกว่า
2.คนที่ย้ายไปอยู่บ้านนอกเมืองแล้ว แต่ต้องกลับมาอยู่คอนโดฯในเมืองเพราะไม่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การเข้าสังคมและการทำงาน
และ 3.ครอบครัวใหญ่ที่มี 2-3 รุ่น อยู่บ้านชานเมืองขนาดใหญ่ แต่ต้องแยกกันอยู่กับลูกหลานที่เรียนและทำงานในเมือง
ก่อนจบ มีคำอธิบายเหตุผลทำเลนราธิวาส มองว่าอยู่ตรงกลางระหว่าง CBD สาทร-สีลม กับสุขุมวิท ใกล้ทางด่วนพระราม 3 ด้านหลังโครงการติดซอยเก่งชวนที่เป็นซอยเก่าแก่มีต้นไม้หนาแน่น
หลักคิดโดยอัตโนมัติต้องการสื่อสารว่า วินด์เชลล์ นราธิวาส ถือได้ว่าเป็นบ้านหลังสุดท้ายของซอยนี้
เพดาน 7 เมตรสูงเท่า 40 ชั้น
ล่าสุดเป็นคิวของ "ใหญ่-โชติพล เตชะไกรศรี" ดีเวลอปเปอร์พ่อลูกอ่อน และเอ็มดี YLP บริษัทธุรกิจอสังหาฯ ลงทุนพัฒนาคอนโดมิเนียมระดับ ลักเซอรี่ บนทำเลใจกลางเมืองอย่างถนนนราธิวาส โซนพระราม 3
แบรนด์ใหม่หมาด "วินด์เชลล์ นราธิวาส" มูลค่าโครงการ 3,000 ล้านบาทถ้วน
โครงการที่มีความสูงเพียง 28 ชั้น แต่วัดความสูงเป็นเมตรออกมากลับพบว่ามีความสูงเทียบเท่าตึก 40 ชั้น
คำเฉลยเรียกความสนใจก็คือ "...คนเข้าใจผิดเยอะมาก คิดว่าเราดาวน์ไซซ์โครงการ แต่ความจริงออกแบบ 28 ชั้นตั้งแต่แรก เพียงแต่ทุกยูนิตมีความสูงพื้นชนเพดาน 7 เมตร ทำให้เป็นอาคารที่มีความสูงมากกว่าห้องชุดปกติ"
รายละเอียด วินด์เชลล์ นราธิวาส เกิดจากแนวคิดที่ต้องการมองต่าง เพื่อสร้างความแตกต่าง
ปัจจุบัน ฟาซาดหรือภาพลักษณ์ห้องชุด ในมหานครกรุงเทพฯ หยิบแนวคิดต่างประเทศมาดีไซน์ทำให้ยิ่งนับวันยิ่งคล้ายห้องกระจกหรือ glass box มากขึ้นเรื่อย ๆ
มุมที่มองต่างคือ การออกแบบเช่นนี้ ไม่เหมาะกับภูมิอากาศเมืองร้อนของประเทศไทย การมีตึกปิดล้อมรอบไปด้วยกระจกทำให้ผู้อยู่อาศัยขาดความใกล้ชิดกับธรรมชาติ อากาศธรรมชาติไม่ค่อยถ่ายเท แถมมีข้อจำกัดเรื่องพื้นที่ใช้สอยอีกต่างหาก นำไปสู่บทสรุปแบบฟันธงว่า คอนโดฯ ตัวเมืองในปัจจุบันมีความสวยงามที่เป็นแค่เปลือก แต่ไม่ตอบโจทย์การใช้สอย เช่น ระเบียงไม่มีพื้นที่ตากผ้า ไม่สามารถทำอาหารได้เพราะไม่มีครัวไทย หรือไม่มีหน้าต่างระบายกลิ่น
โปรดักต์เปรียบเทียบคือบ้านเดี่ยวทำเลนอกเมือง มีพื้นที่ใช้สอยเยอะแต่ไม่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนเมือง เช่น การเข้าสังคม ไกลจากสถานศึกษา ศูนย์การค้า และเจอกับปัญหารถติด ฯลฯ
เป้าลูกค้าซูเปอร์ลักเซอรี่ 21 ราย
โจทย์ธุรกิจมีจุดโฟกัสกลุ่มลูกค้า เป้าหมาย niche market ต้องการอยู่ในเมืองถาวร แต่ไม่สามารถหาโปรดักต์ที่ตอบโจทย์ได้ จึงจำเป็นต้องเลือกระหว่างอยู่คอนโดฯในเมืองกับบ้านอยู่นอกเมือง
นำไปสู่ดีไซน์คิดต่าง ทำห้องชุดพักอาศัยอารมณ์บ้านเดี่ยวบิ๊กไซซ์ เหตุผลที่ต้องทำขนาดนั้นเพราะตั้งราคาขาย เริ่มต้น 78-100 กว่าล้านบาท
ประเมินจากราคาขายอาจเป็นตลาด ซูเปอร์ลักเซอรี่ ราคาน่าจะแพงโอเวอร์ ? รึป่าว
คำตอบแบบคิดต่างก็คือ ราคา "บาท/ตารางเมตร" ไม่ได้สูงเหนือตลาด อยู่ที่ 1.6-1.9 แสนบาท/ตารางเมตร เฉลี่ยทั้งโครงการอยู่ที่ 1.8 แสน/ตารางเมตร
แต่สาเหตุที่ทำให้ห้องชุดมีราคาแพงเป็นเพราะแต่ละห้องให้พื้นที่ใช้สอยถึง 453-562 ตารางเมตร
เฉพาะค่าส่วนกลาง 100 บาท/ตารางเมตร คำนวณตกเดือนละ 45,300-56,200 บาท หรือปีละ 543,600-674,400 บาท
วินด์เชลล์ นราธิวาส มีห้องชุดให้เลือกเพียง 2 ไซซ์ คือ ไซซ์ S ขนาด 453 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 78 ล้านบาท จำกัดจำนวน 18 ยูนิต กับห้องไซซ์ L 562 ตารางเมตร เริ่มต้น 88 ล้านบาท อีก 18 ยูนิต
โดยธรรมชาติ พฤติกรรมผู้บริโภคตลาดซูเปอร์ลักเซอรี่ชอบความเป็นส่วนตัว ดังนั้น แต่ละฟลอร์ซึ่งมีจำนวนเพียง 2 ยูนิต จึงสามารถรวมห้องหรือคอมไบน์ให้มีพื้นที่รวม 1,015 ตารางเมตรได้
"วินด์เชลล์มี 36 ห้องก็จริง แต่ ยอดขาย 40% หรือ 15 ห้องแรกมีออร์เดอร์ให้รวมห้องพอสมควร เพราะฉะนั้น ผมคาดว่าลูกค้าทั้งโครงการ น่าจะมีเพียง 21 รายเท่านั้น"
ห้องชุดพักอาศัยเริ่มต้นชั้น 10 จนถึงชั้น 27 สนนราคาบวกเพิ่มฟลอร์ละ 8 แสนบาท/ยูนิต
ปลูกต้นไม้ใหญ่ 5 เมตรทุกห้อง
ฟังก์ชั่นดีไซน์นอกจากหรูเริ่ดยังต้องเนี้ยบเฉียบ เริ่มจาก 1 ฟลอร์มี 2 ยูนิตพร้อมลิฟต์ 2 ตัว แต่ละยูนิตประกอบด้วย living room แบบ double volume เพดานสูง 7 เมตร
ไฮไลต์อยู่ที่เป็นห้องชุดดูเพล็กซ์ หมายถึงห้องชุด 2 ชั้น เพดานชั่นล่างชั้นบน สูง 3.1-3.2 เมตร
ห้องชุดอารมณ์บ้านเดี่ยวดีไซน์ให้มีระเบียงขนาด 30-50 ตารางเมตร ที่เป็นบ่อลึก 1.1 เมตรทั้งด้านหน้า และด้านหลัง เจ้าของบ้านสามารถทำ บ่อบัวหรือลงดินปลูกต้นไม้ใหญ่สูง 5 เมตร
ฟังก์ชั่นแบบนี้คงต้องท้าพิสูจน์ว่ามีห้องชุดยกโครงการที่ไหนบ้าง สามารถปลูกต้นไม้ใหญ่ 5 เมตรได้ทุกห้อง
และแน่นอนว่าแยกส่วนเซอร์วิสแอเรีย ของห้องพักแม่บ้านที่มีโซนครัวไทยและโซนซักล้าง
การขายมี 2 ออปชั่น ซื้อแบบห้องเปล่า- bare shell หรือห้องพร้อมตกแต่ง ซึ่งหมายถึงต้องเตรียมบัดเจตอีกต่างหากตั้งแต่ 20-30 ล้านบาท/ห้อง
โดยห้องเปล่าใช้เทคนิคออกแบบล้ำ ๆ ที่เรียกว่า column free หรือไม่มีเสา โดยมีหน้าต่าง บานเกล็ด ประตูกระจกสูง 5.50 เมตร ทำให้ลมพลิ้วผ่านหน้าบ้าน ทะลุหลังบ้าน ช่วยลดการเกิดเชื้อราที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพได้
ถ้ายังไม่จุใจพอ ห้องชุดที่นี่เตรียมความพร้อมระบบท่อน้ำที่สามารถปรับเปลี่ยนและย้ายห้องน้ำได้
คำถามสำคัญและเป็นปัญหา โลกแตกสำหรับการอยู่คอนโดฯ คือ เรื่องที่จอดรถ
ห้องชุดเริ่มต้น 78 ล้านบาท มอบสิทธิ์ฟิกซ์ที่จอดรถยูนิตละ 3 คัน โดยทั้งโครงการเตรียมที่จอดรถมากกว่าจำนวนยูนิตถึง 500% หรือจำนวน 209 ช่องจอด
ไลฟ์สไตล์ชอบปาร์ตี้หรือจัดประชุมบ่อยครั้งแค่ไหนไม่ใช่ปัญหา เพราะดีไซน์ที่เตรียมไว้ให้เท่ากับมีที่จอดรถรองรับแขก วี.ไอ.พี.ได้ถึง 100 คัน
โครงการก่อสร้าง 3 ปีเต็ม ปัจจุบันสร้างเสร็จพร้อมอยู่ มียอดพรีเซลแล้ว 15 ยูนิต คิดเป็นสัดส่วน 40%
จึงเหลือขายอีก 21 ยูนิต ที่ตั้งเป้าปิดการขายได้ภายในไตรมาส 1/64
เจาะคนรุ่นใหม่-ครอบครัวใหญ่
ตามไปดูแผนธุรกิจ กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย คือใคร พบคำตอบ 3 กลุ่มหลัก
1.คนรุ่นใหม่ที่อยู่คอนโดฯในเมืองอยู่แล้ว และวางแผนจะย้ายออกไปอยู่บ้านเมื่อเริ่มสร้างครอบครัว แต่สุดท้ายไม่ได้ย้ายเพราะคุ้นเคยกับการอยู่ในเมืองมากกว่า
2.คนที่ย้ายไปอยู่บ้านนอกเมืองแล้ว แต่ต้องกลับมาอยู่คอนโดฯในเมืองเพราะไม่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การเข้าสังคมและการทำงาน
และ 3.ครอบครัวใหญ่ที่มี 2-3 รุ่น อยู่บ้านชานเมืองขนาดใหญ่ แต่ต้องแยกกันอยู่กับลูกหลานที่เรียนและทำงานในเมือง
ก่อนจบ มีคำอธิบายเหตุผลทำเลนราธิวาส มองว่าอยู่ตรงกลางระหว่าง CBD สาทร-สีลม กับสุขุมวิท ใกล้ทางด่วนพระราม 3 ด้านหลังโครงการติดซอยเก่งชวนที่เป็นซอยเก่าแก่มีต้นไม้หนาแน่น
หลักคิดโดยอัตโนมัติต้องการสื่อสารว่า วินด์เชลล์ นราธิวาส ถือได้ว่าเป็นบ้านหลังสุดท้ายของซอยนี้
ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ