เค.อี.กรุ๊ป รุกออฟฟิศเกรดA ผุด 111ประดิษฐ์มนูธรรม
Loading

เค.อี.กรุ๊ป รุกออฟฟิศเกรดA ผุด 111ประดิษฐ์มนูธรรม

วันที่ : 25 เมษายน 2563
เค.อี.กรุ๊ป รุกตลาดออฟฟิศเกรดA
          แม้ว่าสถานการณ์แพร่ระบาดไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือโรคโควิด-19 จะส่งผลกระทบ ต่อเศรษฐกิจและกำลังซื้อทำให้อสังหาริมทรัพย์ชะลอตัว แต่สำหรับ "เค.อี.กรุ๊ป"เจ้าของอาณาจักร CDC หรือที่คุ้นเคยกันในนามของคริสตัล ดีไซน์ เซ็นเตอร์ บนทำเลถนนเลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา ของตระกูล "เอี่ยมสกุลรัตน์" ไม่ได้หยุดยั้งที่ลงทุนเพื่อก้าวต่อไปข้างหน้า

          กวินทร์ เอี่ยมสกุลรัตน์ ทายาทคนคนโตของครอบครัวเอี่ยมสกุลรัตน์ กล่าวว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ นอกจากการพัฒนาที่อยู่อาศัยประเภทบ้าน และคอนโดมิเนียมแล้วโครงการประเภทคอมเมอร์เชียลในส่วน ของตลาดสำนักงานให้เช่าไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เมื่อเทียบกับตลาดอสังหาฯเพื่อขายที่ชะลอตัวตามภาวะเศรษฐกิจและกำลังซื้อลดลง เนื่องจากซัพพลายในตลาดสำนักงานให้เช่าไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้เช่า โดยเฉพาะตลาดออฟฟิศเกรดAทำให้ปัจจุบันมีการพัฒนาอาคารสำนักงานให้เช่า มากขึ้น คาดว่าจะมีซัพพลายใหม่ เข้ามาในย่านศูนย์กลางธุรกิจภายใน 3-4 ปีข้างหน้าจำนวนมาก จากจุดนี้ทำให้เขามองเห็นถึง "โอกาส" ที่พัฒนาโครงการ 111ประดิษฐ์ มนูธรรม อาคารสำนักงานเกรด A มูลค่า 1,000 ล้านบาที่มีพื้นที่อาคารรวม 20,000 ตารางเมตร บนที่ดิน กว่า 6ไร่บนถนนประดิษฐ์มนูธรรม (เอกมัย-รามอินทรา)ซึ่งเป็นอาคาร 6 ชั้น 1 ชั้นใต้ดิน พื้นที่ให้เช่า 10,700 ตารางเมตร ความสูงเพดานสำนักงาน 3 เมตร สามารถจอดรถได้กว่า 400 คัน ซึ่งขณะนี้

          ทั้งนี้เพราะผลสำรวจพบว่า เขตลาดพร้าว เขตวังทองหลาง ในย่านนี้ มีบริษัทจดทะเบียนกว่า 40,000 บริษัท หรือคิดเป็น 20% ของจำนวนบริษัททั้งหมดในกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่ เป็นขนาดกลางและขนาดเล็ก มีรายได้ปีละประมาณ 10 ล้านบาท ที่ทำธุรกิจในอุตสาหกรรมนิวอีโคโนมี อาทิ สตาร์อัพเทคโนโลยี, มีเดีย, ครีเอทีฟ,ดีไซน์ และอี-คอมเมิร์ซ ที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และ อนาคตทำเลในย่านนี้จะกลายเป็นศูนย์กลางธุรกิจแห่งใหม่ในโซน ตะวันออกเฉียงเหนือ เนื่องจาก มีโครงการรถไฟฟ้าหลายสาย เช่น รถไฟฟ้าสายสีเหลือง, สีชมพู และสีเทา ที่สามารถเชื่อมต่อ กับย่านศูนย์กลางธุรกิจ (ซีบีดี) ได้สะดวก

          "จุดเด่นของโครงการ 111 ประดิษฐ์มนูธรรมมีเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใครแตกต่างจากกว่าพื้นที่สำนักงานทั่วไป เพราะมีสิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลางให้แก่ผู้เช่า เช่น ห้องประชุม พื้นที่จัดเทรนนิ่ง ฟิตเนส บาร์กาแฟ ห้องนั่งสมาธิ พร้อมกันนี้ตัวอาคารจะมีระเบียง สามารถนำสุนัขมาทำงานด้วย ได้รวมทั้งการเปิดบริการตลอด 24 ชั่วโมงโดยคิดค่าไฟฟ้าตามเวลาใช้จริงเพื่อรองรับไลฟ์สไตล์การทำงานของคนรุ่นใหม่"

          ขณะเดียวกัน ยังใช้กลยุทธ์ "ราคา" มาเป็นแม่เหล็กดึงดูดลูกค้าให้ตัดสินใจเข้ามาเช่าพื้นที่ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 750-800 บาทต่อตร.ม.ขึ้นอยู่กับขนาดห้อง ส่วนใหญ่จะเริ่มจากขนาดเล็กตั้งแต่ 60ตร.ม.ขึ้นไป หากลูกค้าเช่า100 ตร.ม.เฉลี่ยจ่าย เดือนละ 80,000 บาท และจากแนวโน้ม ของธุรกิจสมัยใหม่จำนวนพนักงานน้อยลง ส่งผลให้เทรนด์การใช้พื้นที่ลดลงตามไปด้วยเพื่อลดค่าใช้จ่าย โดยเฉพาะธุรกิจเกี่ยวกับเทคโนโลยี สตาร์ทอัพ จากเดิมมีอัตราส่วน 10 ตร.ม.ต่อคนหดตัวลงมาเหลือ 5-6 ตร.ม.ต่อคน

          "สิ่งที่เราใส่เข้าไปตอบโจทย์คนที่ต้องการเช่าพื้นที่ โดยเริ่มจากฐานลูกค้าย่านนี้ก่อนขยายไปกลุ่มลูกค้านอกพื้นที่ เพราะสิ่งสำคัญคือ การทำให้ตึกกลายเป็นชุมชน เครือข่ายที่มีบริการที่ตอบสนอง ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ ในทุกมิติ โดยการก่อสร้างแล้วเสร็จภายในไตรมาส 3 ของปี 2564