แสงฟ้า คาดก่อสร้างปี63หดตัว30-40% ชี้โควิดฉุดกำลัง-อสังหาฯชะลอโครงการใหม่
วันที่ : 8 มิถุนายน 2563
แชร์ :
พิษโควิด กระทบ ก่อสร้างหดตัวต่อเนื่อง
เผยแนวโน้มอุตฯก่อสร้างปี 63 หดตัวต่อเนื่อง คาดทั้งปีตลาดรวมหดตัว 30-40% เหตุบริษัท อสังหาฯ ชะลอแผนก่อสร้าง-ลงทุนโครงการใหม่ หลังโควิด-19 ฉุดความ เชื่อมั่น-กำลังซื้อ "แสงฟ้า" ขยับรับงานภาครัฐเพิ่ม หลังภาคเอกชนงานหดตัว
นพ.เชิดศักดิ์ อัมพรสุขสกุล กรรมการ ผู้จัดการ บริษัท แสงฟ้าก่อสร้าง จำกัด เปิดเผยว่า สถานการณ์ตลาดอุตสาหกรรมก่อสร้าง ณ ปัจจุบัน ยังคงมีแนวโน้มหดตัวลงอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ปลายปี 2562 โดยสัญญาณการหดตัวของภาคอุตสาหกรรมก่อสร้าง เริ่มมีให้เห็นตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา หลังได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าจีนและสหรัฐอเมริกา ต่อเนื่องมาถึงมาตรการ LTV ส่งผล กระทบต่อความเชื่อมั่นและแผนการลงทุนพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมของผู้ประกอบการ อสังหาริททรัพย์ โดยเฉพาะช่วงต้นปี 2563 หลังเกิดเหตุการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ยิ่งส่งผลให้ผู้ประกอบการ อสังหาฯ ชะลอการพัฒนาโครงการใหม่ คาดว่าจะมีผลให้ตลาดก่อสร้างปรับตัวลดลงกว่า 30-40%
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าต้นปี 63 บริษัทอสังหาฯมีการชะลอการลงทุนโครงการใหม่ แต่ในส่วนของกลุ่มอุตสาหกรรมก่อสร้าง ยังคงมีงานอยู่ในมืออย่างต่อเนื่อง ส่วนใหญ่มีงานจากโครงการที่ประมูลไปในช่วงปลายปี 62 ส่วนผล กระทบจากการชะลอการลงทุนพัฒนาโครงการใหม่ของบริษัท อสังหาฯ จะเริ่มส่งผลให้จำนวนงานก่อสร้างลดลงอย่างชัดเจนในช่วงกลางปีนี้เป็นต้นไป จากสถานการณ์ดังกล่าวทำให้บริษัทก่อสร้างต้องมีการปรับตัวในช่วงครึ่งหลังปี 63 มากขึ้น
"แม้ว่าในช่วงต้นปี งานก่อสร้างของภาคเอกชนจะลดลง แต่ภาครัฐก็พยายามผลักดันโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ออกมาอย่างต่อเนื่อง เช่น งานก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้า โครงการรถไฟความเร็วสูง คาดว่าจะมีการเปิดประมูลในเร็วๆ นี้ ซึ่งจะส่งผลให้อุตสาหกรรมก่อสร้างยังคงมีงานเข้าสู่ระบบ"
ทั้งนี้ ในส่วนของแสงฟ้า ปัจจุบัน 80% เป็นงานภาคเอกชน และจะขยับเข้าไปรับงานก่อสร้างภาครัฐให้มากขึ้น ขณะเดียวกันพยายามจะรักษาพอร์ตงานก่อสร้างของภาคเอกชนไว้ให้ได้มากที่สุด โดยปีนี้บริษัทตั้งเป้าว่าจะรักษาแบ็กล็อกงานก่อสร้างในมือ 10,000 ล้านบาท และมีรายได้อยู่ที่ 8,000 ล้านบาท ใกล้เคียงกับปี 62 ที่ผ่านมา โดยนับจากไตรมาส 2 เป็นต้นไปถึง สิ้นปี บริษัทจะทยอยรับรู้รายได้ตามงวดงานก่อสร้างเข้ามาเพิ่มประมาณ 5,000 ล้านบาท
สำหรับความคืบหน้าโครงการคอนโดมิเนียมเพื่อขายในอำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ขณะนี้งานก่อสร้างเสร็จสิ้น 100% แล้ว และอยู่ระหว่างกันทำการตลาด แต่เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ยัง ส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจซื้อและตลาดโดยรวม ทำให้ด้านยอดขายห้องชุดในโครงการทรงตัวอยู่ที่ 40% จากสถานการณ์ดังกล่าว ทำให้บริษัทเตรียมปรับแผนการทำตลาดใหม่อีกครั้งหนึ่ง หลังสถานการณ์โควิด-19 มีแนวโน้มดีขึ้น
นพ.เชิดศักดิ์ อัมพรสุขสกุล กรรมการ ผู้จัดการ บริษัท แสงฟ้าก่อสร้าง จำกัด เปิดเผยว่า สถานการณ์ตลาดอุตสาหกรรมก่อสร้าง ณ ปัจจุบัน ยังคงมีแนวโน้มหดตัวลงอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ปลายปี 2562 โดยสัญญาณการหดตัวของภาคอุตสาหกรรมก่อสร้าง เริ่มมีให้เห็นตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา หลังได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าจีนและสหรัฐอเมริกา ต่อเนื่องมาถึงมาตรการ LTV ส่งผล กระทบต่อความเชื่อมั่นและแผนการลงทุนพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมของผู้ประกอบการ อสังหาริททรัพย์ โดยเฉพาะช่วงต้นปี 2563 หลังเกิดเหตุการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ยิ่งส่งผลให้ผู้ประกอบการ อสังหาฯ ชะลอการพัฒนาโครงการใหม่ คาดว่าจะมีผลให้ตลาดก่อสร้างปรับตัวลดลงกว่า 30-40%
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าต้นปี 63 บริษัทอสังหาฯมีการชะลอการลงทุนโครงการใหม่ แต่ในส่วนของกลุ่มอุตสาหกรรมก่อสร้าง ยังคงมีงานอยู่ในมืออย่างต่อเนื่อง ส่วนใหญ่มีงานจากโครงการที่ประมูลไปในช่วงปลายปี 62 ส่วนผล กระทบจากการชะลอการลงทุนพัฒนาโครงการใหม่ของบริษัท อสังหาฯ จะเริ่มส่งผลให้จำนวนงานก่อสร้างลดลงอย่างชัดเจนในช่วงกลางปีนี้เป็นต้นไป จากสถานการณ์ดังกล่าวทำให้บริษัทก่อสร้างต้องมีการปรับตัวในช่วงครึ่งหลังปี 63 มากขึ้น
"แม้ว่าในช่วงต้นปี งานก่อสร้างของภาคเอกชนจะลดลง แต่ภาครัฐก็พยายามผลักดันโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ออกมาอย่างต่อเนื่อง เช่น งานก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้า โครงการรถไฟความเร็วสูง คาดว่าจะมีการเปิดประมูลในเร็วๆ นี้ ซึ่งจะส่งผลให้อุตสาหกรรมก่อสร้างยังคงมีงานเข้าสู่ระบบ"
ทั้งนี้ ในส่วนของแสงฟ้า ปัจจุบัน 80% เป็นงานภาคเอกชน และจะขยับเข้าไปรับงานก่อสร้างภาครัฐให้มากขึ้น ขณะเดียวกันพยายามจะรักษาพอร์ตงานก่อสร้างของภาคเอกชนไว้ให้ได้มากที่สุด โดยปีนี้บริษัทตั้งเป้าว่าจะรักษาแบ็กล็อกงานก่อสร้างในมือ 10,000 ล้านบาท และมีรายได้อยู่ที่ 8,000 ล้านบาท ใกล้เคียงกับปี 62 ที่ผ่านมา โดยนับจากไตรมาส 2 เป็นต้นไปถึง สิ้นปี บริษัทจะทยอยรับรู้รายได้ตามงวดงานก่อสร้างเข้ามาเพิ่มประมาณ 5,000 ล้านบาท
สำหรับความคืบหน้าโครงการคอนโดมิเนียมเพื่อขายในอำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ขณะนี้งานก่อสร้างเสร็จสิ้น 100% แล้ว และอยู่ระหว่างกันทำการตลาด แต่เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ยัง ส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจซื้อและตลาดโดยรวม ทำให้ด้านยอดขายห้องชุดในโครงการทรงตัวอยู่ที่ 40% จากสถานการณ์ดังกล่าว ทำให้บริษัทเตรียมปรับแผนการทำตลาดใหม่อีกครั้งหนึ่ง หลังสถานการณ์โควิด-19 มีแนวโน้มดีขึ้น
ข่าววัสดุก่อสร้าง-เฟอร์นิเจอร์ อื่นๆ
