“โนเบิล” ชี้ตลาดอสังหาฯ ครึ่งหลังฟื้น! เล็งเปิดใหม่ 6 โครงการ มูลค่ารวม 23,000-24,000 ล้านบาท หวังดันยอดขายสิ้นปีเข้าเป้า 12,000 ล้านบาท หลังครึ่งปีแรกทำได้แล้ว 3,000 ล้านบาท ส่งซิกยอดโอนครึ่งปีหลังพุ่ง บุ๊กโอนคอนโดฯ สร้างเสร็จใหม่ 3 โครงการ มูลค่าเกือบ 10,000 ล้านบาท

          นายธงชัย บุศราพันธ์ ประธานกรรมการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม และกรรมการผู้จัดการ บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NOBLE เปิดเผยว่า แนวโน้มตลาดอสังหาริมทรัพย์ในช่วงครึ่งปีหลังน่าจะปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เริ่มเป็น “New Normal” มากขึ้น ขณะที่ตลาดหุ้นเริ่มฟื้นตัวกลับมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งน่าจะส่งผลให้กำลังซื้อของผู้บริโภคดีขึ้น

          โดยแนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังของ NOBLE จะดีขึ้นกว่าช่วงครึ่งปีแรก ทั้งยอดขาย (Presale) และยอดโอนกรรมสิทธิ์โครงการ เนื่องจากจะมีจำนวนโครงการเปิดตัวใหม่มากกว่าช่วงครึ่งปีแรก ขณะเดียวกันจะมีโครงการสร้างเสร็จใหม่ จำนวน 3 โครงการ มูลค่าโครงการรวมเกือบ 10,000 ล้านบาท ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทมีสินค้าพร้อมขายในพอร์ตเพิ่มขึ้น

          ส่วนแผนงานในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2563 บริษัทมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ จำนวน 6 โครงการ มูลค่าโครงการรวมประมาณ 23,000-24,000 ล้านบาท เป็นโครงการคอนโดมิเนียมทั้งหมด โดยเป็นโครงการร่วมทุน จำนวน 2 โครงการ ในทำเลถนนรัชดา และทำเลถนนวิทยุ ซึ่งหากบริษัทสามารถเปิดตัวโครงการใหม่ในช่วงครึ่งปีหลังได้ตามแผน จะส่งผลให้ทั้งปี 2563 มีการเปิดตัวโครงการใหม่รวม 7 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 25,000 ล้านบาท

          สำหรับในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2563 บริษัทมียอดขายรวมแล้วที่ระดับ 3,000 ล้านบาท คิดเป็น 25% ของเป้าหมายยอดขายรวมทั้งปีที่ตั้งไว้ 12,000 ล้านบาท เป็นยอดขายจากการขายสินค้าเดิมที่เป็นสินค้าพร้อมโอนกรรมสิทธิ์ (สต๊อก) กว่า 2,000 ล้านบาท ซึ่งสามารถโอนกรรมสิทธิ์ได้ทันที และเป็นยอดขายจากการเปิดตัวโครงการใหม่เกือบ 1,000 ล้านบาท ซึ่งในช่วงไตรมาส 1/2563 บริษัทมีการเปิดตัวโครงการใหม่เพียงจำนวน 1 โครงการ มูลค่าโครงการประมาณ 1,000-2,000 ล้านบาท

          นายธงชัย กล่าวอีกว่า ในช่วงครึ่งปีหลังจะมีโครงการคอนโดมิเนียมสร้างเสร็จใหม่ จำนวน 3 โครงการ ได้แก่ 1.โครงการ โนเบิล บี19 (Noble BE19) มูลค่าโครงการ 5,900 ล้านบาท 2.โครงการ นิว โนเบิล แจ้งวัฒนะ (Nue Noble Chaengwattana) มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท และ 3.โครงการ โนเบิล อะราวนด์ สุขุมวิท 33 (Noble Around Sukhumvit 33) มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท ซึ่งจะช่วยผลักดันให้ยอดโอนกรรมสิทธิ์ในช่วงครึ่งปีหลังเติบโตกว่าช่วงครึ่งปีแรก และหนุนรายได้รวมในปี 2563 ให้เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 10,000 ล้านบาท

          โดยในช่วงไตรมาส 2/2563 แนวโน้มรายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์โครงการจะอยู่ที่ประมาณ 1,600-1,700 ล้านบาท ลดลงจากช่วงไตรมาส 1/2563 ที่มีรายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์ 2,083 ล้านบาท เนื่องจากในช่วงไตรมาส 2/2563 บริษัทมีสินค้าพร้อมโอนในพอร์ตน้อยลง ไม่สมดุลกับความต้องการของลูกค้า