" นายพิพัฒน์พงศ์ โปษยานนท์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ในปี 64 ธนาคารจะเน้นขยายธุรกิจไปต่างประเทศมากขึ้น เพื่อสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยยืนยันการเติบโตของธุรกิจในช่วงวิกฤติยังต้องมี และสินเชื่อยังเติบโตแน่นอน แต่จะเติบโตเท่าไรนั้น จะยังอยู่ในช่วงที่รับได้ เพราะส่วนหนึ่งจะได้แรงสนับสนุนด้านสินเชื่อจากต่างประเทศที่ยังคงเป้าหมายขยายไปเออีซีบวกสาม และสนับสนุนสินเชื่อผู้ประกอบการ ซึ่งยังต้องให้ความสำคัญกับการช่วยเหลือลูกค้าให้อยู่รอดต่อไปในปีหน้า

          "การออกหุ้นกู้เอทีวัน เป็นส่วนหนึ่งที่จะเป็นเงินทุนเพื่อใช้ในการขยายการเติบโตในต่างประเทศ เพราะมองว่าในตอนนี้ต่างประเทศยังมีความสามารถที่จะขยายและเติบโตได้ จึงจะเน้นเติบโตต่างประเทศค่อนข้างมาก ซึ่งจะขยายไปเออีซีบวกสาม"

          ขณะที่ธนาคารพยายามสนับสนุนภาคธุรกิจในการปล่อยสินเชื่อ แต่จะต้องขึ้นอยู่กับกฎระเบียบทาง ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ว่า สามารถทำได้แค่ไหน ส่วนแนวโน้มการปล่อยสินเชื่อจะเข้มงวดมากขึ้นหรือไม่ โดยเฉพาะธุรกิจรายใหญ่ ในอสังหาริมทรัพย์ หรือโรงแรม ซึ่งเรื่องนี้มองว่าต้องขึ้นอยู่กับรายได้และความสามารถชำระหนี้เป็นหลัก โดยธนาคารต้องการช่วยเหลือผู้ประกอบการให้อยู่รอด ผ่านพ้นวิกฤติอยู่แล้ว ไม่ว่าจะมาตรการใดก็พร้อมสนับสนุนทุกรูปแบบ เพื่อให้ทำอย่างไรจะ ประคับประคองกันไปให้ได้ เช่น การยืดหนี้ ปรับโครงสร้างหนี้ เป็นต้น

          ส่วนคุณภาพหนี้เชื่อว่าจะทรงตัวกันหมด ซึ่งคุณภาพหนี้จะด้อยลงหรือไม่ ตอนนี้ยังบอกไม่ได้ เพราะบางผู้ประกอบการยังแข็งแรง เช่นเดียวกับภาคธุรกิจท่องเที่ยว ที่ยังเป็นบางพื้นที่เท่านั้น เนื่องจากหากพื้นที่นั้น มีนักท่องเที่ยวอยู่ไม่ว่าจะเป็นคนไทยหรือต่างชาติที่เข้ามาอยู่ยาวได้ พื้นที่นั้นก็ยังดีอยู่ เว้นแต่บางพื้นที่ที่มีอุปทานส่วนเกิน (โอเวอร์ซัพพลาย) สูง อาจจะมีปัญหาได้

          นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า ธนาคารอยู่ระหว่างจัดทำแผนธุรกิจปี 64 โดยยังให้ความสำคัญกับการดูแลคุณภาพสินทรัพย์ไม่ให้เป็นเอ็นพีแอลและลูกค้าควบคู่กันไป ซึ่งยังจำเป็นต้องประคับประคองลูกค้าอย่างต่อเนื่อง เพราะในช่วงปี 63 เศรษฐกิจไทยติดลบมาก แต่ในช่วงปีหน้าเศรษฐกิจไทยมีโอกาสที่จะทยอยเติบโตขึ้นได้

          ทั้งนี้ ในส่วนของสินเชื่อธนาคารในช่วงปี 64 ยังคงต้องดูตามภาวะตลาดเป็นหลัก ซึ่งธนาคารมองว่าสินเชื่อภาครัฐยังคงเติบโตได้ดี ตามโครงการภาครัฐต่าง ๆ ที่ออกมาเพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไทย ส่วนเรื่องของการปรับโครงสร้างหนี้ แต่ละธนาคารมีมาตรการที่แตกต่างกันไป  ขึ้นอยู่กับแต่ละกลุ่มของลูกค้า และมีการดูแลลูกค้าอย่างใกล้ชิด

          "แผนธุรกิจธนาคารยังคงเน้นเรื่องการประคองลูกค้าเป็นหลัก ซึ่งจะควบคู่ไปกับการดูแลคุณภาพสินทรัพย์ อย่างปีนี้เศรษฐกิจไทยติดลบมาก สถานการณ์ยังคงเปราะบาง ธนาคารยังคงต้องระวังเรื่องนี้อย่างมาก ส่วนการประคองลูกค้านั้นจะเป็นเรื่องของการลดภาระเพื่อให้ลูกค้ามีเวลาหายใจให้ได้มากที่สุด ทั้งระบบต่างก็ให้ความสำคัญเกี่ยวกับเรื่องนี้ค่อนข้างมาก"

          นายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ กล่าวว่า ผลประกอบการของธนาคารช่วงไตรมาส 3 ที่ผ่านมา ธนาคารมองว่าไม่ได้ออกมาแย่นัก ส่วนแนวโน้มการจ่ายเงินปันผลนั้น ขึ้นอยู่กับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เป็นผู้พิจารณา