"ศุภาลัย" มองปัจจัยปี 64 หนุนภาคอสังหาฯ เติบโต การจัดการ โควิด-19 ได้ดีเศรษฐกิจโลกโดยรวมดีขึ้น แต่ยังห่วงปมแบงก์เข้มปล่อยกู้ กระทบลูกค้าขอสินเชื่อ ปรับพอร์ตลงทุนปีหน้า ดันโครงการต่างจังหวัดแรงขับเคลื่อนการเติบโต

          นายประทีป ตั้งมติธรรม ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงปัจจัยบวกต่อภาคอสังหาริมทรัพย์ในปี 2564 ว่า มีในเรื่องของทิศทางการเติบโตทางเศรษฐกิจเริ่มดีขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากการที่ประเทศไทยสามารถบริหารจัดการเรื่องการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ดี ส่งผลต่อสถานการณ์โดยรวมที่ดีขึ้น ประกอบกับภาพใหญ่ของเศรษฐกิจโลกค่อยๆ ดีขึ้น

          "ภาคอสังหาริมทรัพย์ในปีหน้าต้องดีกว่าปีนี้อย่างแน่นอน ส่วนปัจจัยลบคงยังเป็นเรื่องที่ภาคอสังหาฯ ประสบอยู่ คือ การปล่อยสินเชื่อของธนาคารที่เข้มงวด ทำให้ผู้ที่คิดอยากมีบ้านก็ยากขึ้น ขณะที่ภาคธุรกิจที่จะต้องปรับตัว คงจะเป็นผู้ประกอบการในกลุ่มวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม การท่องเที่ยว และธุรกิจสายการบิน เป็นหลัก" นายประทีปกล่าว

          สำหรับแผนธุรกิจของศุภาลัยในปีหน้า คงต้องรอการประชุมภายในเดือนธันวาคมนี้ แต่ในเบื้องต้นจะมีการลงทุนเปิดโครงการใหม่ประมาณ 20 โครงการ อยู่ในกลุ่มสินค้าคอนโดมิเนียมเพียง 2-3 โครงการ เนื่องจากซัปพลายในตลาดยังมีปริมาณที่ล้นเกินความต้องการ คงต้องรอให้มีการดูดซับสินค้า ออกไปก่อน นอกนั้นจะให้น้ำหนักกับโครงการ แนวราบ เน้นจับกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่เพิ่งสร้างครอบครัว เพราะมีความต้องการสูง

          "ปีหน้าลงทุนในตลาดต่างจังหวัดมากขึ้น เช่นจังหวัดลำพูน, ฉะเชิงเทรา, เพชรบุรี, ประจวบคีรีขันธ์ และที่เลือกเพิ่มจังหวัดลำพูน เพราะมีที่ดินสะสมอยู่ ถนนกลางเมืองมีการขยายออกเป็น 6 เลน คู่แข่งน้อย อยู่ไม่ไกลจากโครงการของศุภาลัยในจังหวัดเชียงใหม่ เหมือนเป็นชานเมืองของเชียงใหม่ก็ว่าได้" นายประทีปกล่าว

          ปัจจุบัน บริษัทมีแลนด์แบงก์อยู่ในพอร์ตมากพอที่จะสามารถรองรับการพัฒนาโครงการต่อเนื่องได้ถึง 3 ปี