พิษโควิด-19 ทำเศรษฐกิจต่างจังหวัดทรุดหนัก ชาวบ้านระนองตัดใจติดประกาศขายที่เกลื่อนเมือง ขณะกลุ่มทุนเดินสายหาซื้อที่เข้าสต๊อก โดยเฉพาะจุดที่มีศักยภาพการพัฒนา อาทิ ย่านศูนย์กลางเศรษฐกิจเมือง แนวรถไฟรถไฟชุมพร-ท่าเรือระนอง เพื่อรออนาคตการพัฒนาสู่เมืองท่าฝั่งทะเลอันดามัน

          นายนิตย์  อุ่ยเต็กเค่ง รองประธานหอการค้า จังหวัดระนอง เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า จากวิกฤติการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ซ้ำเติมปัญหาเศรษฐกิจที่มีมาก่อนหน้านี้ให้หนักมากขึ้น เวลานี้เริ่มส่งผลกระทบเป็นอย่างมากในกิจการทุกประเภททุกขนาด และลามถึงประชาชนอย่างรุนแรงแล้ว โดยเฉพาะการว่างงานจากกิจการที่ต้องหยุดดำเนินการ ทำให้ครัวเรือนมีปัญหาไม่มีรายได้มาหมุนเวียนใช้จ่ายได้ทัน ขณะที่ธุรกิจก็ไม่มีแรงจะขยายกิจการ หรือสร้างรายได้อย่างที่เคยทำมา จึงต้องดิ้นรนหาช่องทางประคองตัวให้รอดในภาวะที่ยากลำบากนี้ไปให้ได้

          เวลานี้มีปรากฏการณ์การประกาศขายบ้าน ขายที่ โรงงาน คลังสินค้า เกิดขึ้นในหลายที่ รวมทั้งในจังหวัดระนองเองด้วย และมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ กลายเป็นว่าในช่วงเศรษฐกิจทรุดจากวิกฤติโควิด-19 ในอีกด้านสภาวะที่เกิดขึ้นกลับทำให้ตลาดอสังหา ริมทรัพย์กลับมาคึกคัก ในลักษณะทวนกระแสสถานการณ์โควิด-19 เมื่อทั้งกิจการ หรือประชาชนที่ประสบปัญหาไม่มีทางออก สุดท้ายต้องยอมตัดใจขายทรัพย์สินออกไป ขณะที่ผู้ที่ต้องการทรัพย์สิน ไม่ว่าจะเป็นที่ดิน อาคาร บ้านเรือน ที่มีฐานการเงินที่ดี ก็จะเป็นช่วงเวลาและโอกาสดีที่จะเข้าไปซื้อ  ดีกว่าจะรอให้สถานการณ์นี้ผ่านไปก่อน เพราะในช่วงนี้การต่อรองสามารถทำได้มาก และง่ายกว่าในสถานการณ์ปกติ หรือในช่วงเศรษฐกิจขาขึ้น

          บรรยากาศในจังหวัดระนองขณะนี้ จะพบมีการประกาศซื้อขายที่ดิน ทั้งติดป้ายโปสเตอร์ หรือแม้กระทั่งในโซเชียลมีเดียเป็นจำนวนมาก อาทิ "ราคาเจ้าของทรัพย์โดยตรง ที่ดินเนื้อที่ 167.6 ตรว. (ซอย7ท่อ) ที่ดินถมแล้ว เหมาะสร้างที่อยู่อาศัย ทำบ้านเช่า  ใกล้ห้างบิ๊กซี ที่ดินห่างถนนเพชรเกษม 500 เมตร ราคา 2,000,000 บาท" หรือทรัพย์เพื่อการลงทุนและสร้างเพื่ออยู่อาศัย ราคาเจ้าของทรัพย์โดยตรง ที่ดินเนื้อที่ 1ไร่ 3 งาน 89 ตรว. (โฉนด) ในซอยผังเมืองโยธา มีด้านหน้าติดถนน ด้านหลังติดคลองบางนอน และบ้าน 1 หลัง ที่ต้องซ่อมแซม (ตามรูป) พื้นที่จริงเนื้อที่ได้ 2 ไร่กว่า มากกว่าเอกสาร ราคา 6,500,000 บาท"

          หรือรายการประกาศขายทรัพย์แปลงใหญ่ ที่ให้รายละเอียดว่า "ทรัพย์เพื่อการลงทุนและสร้างเพื่ออยู่อาศัย ที่ดินแบ่งขาย (กว้าง 15 เมตร ยาว 30 เมตร) มี 8 แปลง โซน "หงาว-บ้านท่าฉาง" ด้านหน้าติดถนน ด้านหลังติดขุมน้ำ ที่ดินแหล่งชุมชน แปลงละ 750,000 บาท, ที่ดินชานเมือง จ.ระนอง เนื้อที่ 21 ไร่ 3 งาน ติดห้วยน้ำ และมีขุมน้ำในที่ดิน เป็นพื้นที่ราบ เหมาะกับการลงทุนทำรีสอร์ท คาเฟ่ หรือบ้านจัดสรร บรรยา กาศดีมากๆ ใกล้ภูเขาหญ้า, น้ำตกหงาว, ชุมชนบ้านหงาว สะดวกสบายมีตลาดให้ซื้อของ, 7-11, ห่างตัวเมือง 13 กิโล, ห่างสนามบิน 12 กิโล เหมาะลงทุนมาก ๆ ราคาแบบนี้โซนนี้ถือว่าไม่แพงครับ ได้ที่ดินติดน้ำราคา 25,000,000 (ยี่สิบห้าล้านบาท)" เป็นต้น

          นายนิตย์กล่าวต่อว่า การซื้อขายที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดระนองคึกคักมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะหลังจากที่คมนาคมเริ่มเดินหน้าแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในจ.ระนอง เพื่อรองรับยุทธศาสตร์การพัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้อย่างยั่งยืน(SEC) ที่ตั้งเป้าหมายพัฒนาระนองเป็นประตูการค้าทางทะเลด้านตะวันตกสู่ทะเลอันดามัน  ซึ่งเป็นปัจจัยดึงดูดให้กลุ่มทุนต่าง ๆ จนถึงระดับนานาชาติ ส่งตัวแทนลงเก็บข้อมูลในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง อาทิ จีน ญี่ปุ่น อเมริกา

          ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมามีกลุ่มตัวแทนจากกลุ่มทุนเข้ามาติดต่อสอบถาม และหาข้อมูลเกี่ยวกับที่ดิน โดยเฉพาะย่านตัวเมือง ย่านเศรษฐกิจการค้า ย่านแนวสายทางก่อสร้างทางรถไฟจากระนอง-ชุมพร พร้อมเจรจาติดต่อขอซื้อที่ดินเป็นจำนวนมาก และให้ข้อเสนอราคาที่ดี ทำให้ราคาที่ดินระนองเริ่มเพิ่มสูงขึ้นจากปกติกว่า 50 % อาทิ ราคาซื้อขายที่ดินในย่านตัวเมืองระนอง จากเดิมราคาไร่ละ 3-8 ล้านบาท ปัจจุบันพบว่าปรับเพิ่มเป็น 10-20 ล้านบาทต่อไร่ เพื่อรองรับอนาคตการเป็นเมืองท่าที่สำคัญในภูมิภาค