DCC เล็งทุ่มงบราว 484 ล้านบาท เนรมิตสาขาใหม่-รีโนเวตไลน์ผลิต ปูทางรับทรัพย์ พร้อมส่งซิกผลงาน Q2/2565 ฟอร์มหรู รับดีมานด์สร้างใหม่หนุน แถมปักธงปี 2565 รายได้ทะยาน 5% จากปีก่อน รับพอร์ตลูกค้าขยายตัว

          นายมารุต แสงศาสตรา ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไดนาสตี้เซรามิค จำกัด (มหาชน) หรือ DCC เปิดเผยว่า ในปี 2565 บริษัทมีแผนทุ่มงบลงทุนราว 484 ล้านบาท แบ่งเป็นการขยายสาขาใหม่ในทำเลต่างๆ อาทิ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา, สระบุรี, กาญจนบุรี, ราชบุรี, ฯลฯ คิดเป็นมูลค่าอยู่ที่ 300 ล้านบาท ส่วนที่เหลือนั้นจะเป็นการปรับปรุงไลน์การผลิตและอื่นๆ หวังเสริมศักยภาพการดำเนินงานให้ดียิ่งขึ้น

          อสังหาหนุน

          ขณะที่โครงการพัฒนาโชว์รูม ในจังหวัดนครปฐม ซึ่งมีขนาดพื้นที่ราว 1,200 ตารางเมตรนั้นความคืบหน้าไปค่อนข้างมากแล้ว คาดว่าจะสามารถทยอยเปิดบริการบางส่วนได้ตั้งแต่สิงหาคม 2565 และเต็มรูปแบบไม่เกินประมาณตุลาคม 2565

          อย่างไรก็ดี ในแง่ของทิศทางผลงานในไตรมาส 2/2565 บริษัทคาดน่าจะทรงตัวจากช่วงเดียวกันปีก่อน แม้มีปัจจัยทางด้านพลังงานกดดัน แต่ตลาดในกลุ่มสร้างใหม่ยังดีขึ้นต่อเนื่อง เพราะผู้ประกอบการนั้นมีการเร่งพัฒนาโครงการและจัดซื้อวัสดุต่างๆ เพื่อให้สามารถบริหารต้นทุนได้อย่างเหมาะสม นอกเหนือจากการขยายช่องทางขายของธุรกิจ เพื่อขยายฐานให้ลูกค้าให้กว้างขึ้น

          ปีนี้รายได้โต 5%

          สำหรับผลประกอบการปี 2565 บริษัทตั้งเป้าหมายการเติบโตของรายได้ไว้ที่ 5% จากปีก่อนมีรายได้ 8.48 พันล้านบาท แม้จะมีปัจจัยต่างๆ กดดัน แต่จากการที่ธุรกิจสามารถบริหารจัดการต้นทุนต่างๆ ประกอบกับมีการทำตลาดและนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ต่อเนื่อง จึงเชื่อคงช่วยสนับสนุนให้ภาพรวมธุรกิจเป็นไปตามที่วางไวั

          "ในแง่ประเด็นเกี่ยวกับต้นทุน เชื้อเพลิงที่ขยับสูงขึ้นนั้น ช่วงที่ผ่านมาเราได้ขยับราคาขายไปแล้วบางส่วน และเบื้องต้นหลังจากนี้อาจจะยังไม่มีแนวทางขยับเพิ่ม แต่จะหันมามุ่งเน้นการบริหารจัดการต้นทุนภายในให้มีประสิทธิภาพก่อน" นายมารุตกล่าว

          ด้านนักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ฝ่ายวิเคราะห์ให้คำแนะนำ "ซื้อ" หุ้น DCC ราคาพื้นฐาน 3.30 บาท หลังบริษัทประกาศกำไรไตรมาส 1/2565 เติบโตตามที่คาดไว้ โดยมีกำไรสุทธิขยายตัว 38% จากไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้น 8% จากช่วงเดียวกันปีก่อน

          โดยมีปัจจัยหนุนดังกล่าว คือ การปรับ Product mix, ปรับขึ้นราคาขาย และปรับระบบขนส่งให้มีประสิทธิภาพขึ้น แม้ต้นทุนก๊าซเพิ่มมาก แต่อัตรากำไรขั้นต้นก็ดีขึ้นต่อเนื่อง ในไตรมาส 1/2565 กำไรขั้นต้นเพิ่มสู่ 44.2% จาก 42.7% ในช่วงเดียวกันปีก่อน และขยายตัว 43% จากไตรมาสก่อนหน้า ตลอดจนธุรกิจยังมีการปรับขึ้นราคาขายสะท้อนต้นทุนที่สูงขึ้น

          แย้ม Q2 ฟอร์มดี

          นอกจากนี้ล่าสุดทาง DCC ได้ประกาศจ่ายปันผลสำหรับงวดไตรมาส 1/2565 เท่ากับ 0.055 บาทต่อหุ้น คิดเป็น 94% ของกำไรสุทธิ (ณ ราคา 3.04 บาท คิดเป็น DY ไตรมาสนี้ 1.6%) และจะมีการขึ้นเครื่องหมายไม่ได้รับสิทธิ์ปันผล (XD) วันที่ 13 พฤษภาคม 2565 และกำหนดชำระเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้น 21 พฤษภาคมนี้

          ส่วนแนวโน้มฝ่ายวิเคราะห์มองยังไปได้ดี แม้ว่าในไตรมาส 2/2565 จะเผชิญต้นทุนก๊าซและค่าขนส่งเพิ่มขึ้น (ราคาน้ำมันดีเซลปรับขึ้น 2 บาทต่อลิตร ตั้งแต่ 1 พ.ค. 65) แต่บริษัทก็สามารถรับมือได้ด้วยการปรับ Product mix, ขยับราคาขาย และบริหารต้นทุน & ค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ ในเบื้องต้นคาดว่ากำไรสุทธิไตรมาส 2/2565 ยังเติบโตจากช่วงเดียวกันปีก่อน