นายวิบูลย์ กรมดิษฐ์ กรรมการและเจ้าหน้าที่การตลาด บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) (AMATA) เปิดเผยว่า ภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกในภาพรวมขณะนี้เริ่มผ่อนคลายจากการเปิดประเทศ แม้ต้องเผชิญกับภาวะเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้น ที่เกิดจากปัจจัยของราคาน้ำมัน ล่าสุดอมตะได้วางแผนการดำเนินธุรกิจ และรักษาฐานกลุ่มลูกค้าทั้งในด้านการเชิญชวนนักลงทุนเข้ามาลงทุน การเจรจาเพื่อให้เกิดการศึกษาพื้นที่การลงทุน ซึ่งในส่วนทิศทางของไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ จะเป็นช่วงเวลาการเซ็นสัญญาซื้อขายที่ดินคาดว่ามีนักลงทุนเริ่มตัดสินใจและเซ็นสัญญา และทำให้ยอดขายปีนี้เป็นไปตามเป้าหมายว่าจะขายพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมอมตะให้ได้ 1,000 ไร่

          "ทิศทางการลงทุนในไตรมาส 3-4 นี้เป็นช่วงเวลาที่ลูกค้าจะเข้ามาเซ็นสัญญาหลังจากที่เข้ามาดูพื้นที่จริงก่อนหน้านี้ ที่แม้ว่าปีนี้สถานการณ์ทางด้านเศรษฐกิจต่างๆ ไม่ดีมากนักแต่อมตะได้มีการติดต่อ และให้การบริการลูกค้าแบบครบวงจรมาอย่างต่อเนื่อง"

          สำหรับยอดขายที่รอรับรู้รายได้จากการโอน (Backlog) ปัจจุบันมีอยู่ 5,176 ล้านบาท ในนิคมฯของอมตะในประเทศไทยและเวียดนามแบ่งเป็นในประเทศไทย 3,300 ล้านบาท ที่จะสามารถบันทึกเป็นรายได้ในปีนี้ประมาณ 60% ส่วนที่เหลือสามารถรับรู้เป็นรายได้ในปี 2566 และในเวียดนามจำนวน 1,800 ล้านบาท

          "ขณะนี้นิคมฯอมตะฯ มีความพร้อมรองรับการเข้ามาลงทุน และขยายการลงทุนด้วยพื้นที่ 14,000 ไร่ แบ่งเป็นพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมพื้นที่พาณิชยกรรม และพื้นที่ดินที่ยังรอการพัฒนา โดยเป็นพื้นที่ของนิคมฯอมตะซิตี้ ชลบุรี 9,800 ไร่ และที่เหลือเป็นของนิคมฯอมตะซิตี้ระยอง  2,400 ไร่ จึงเพียงพอต่อความต้องการของนักลงทุน"