เทียบฟอร์มอสังหาฯ ฟื้นเร็ว? ยักษ์ใหญ่โตสนั่น! ดันตลาดบวก
Loading

เทียบฟอร์มอสังหาฯ ฟื้นเร็ว? ยักษ์ใหญ่โตสนั่น! ดันตลาดบวก

วันที่ : 2 มีนาคม 2566
พลัส พร็อพเพอร์ตี้ เผยว่า ปี 2565 นับเป็นปีแรกที่เริ่มเห็นการ ฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของไทยอย่างชัดเจน หลังการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ปัจจัยสำคัญมาจากการได้รับวัคซีน การเปิดรับนักท่องเที่ยว ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจกลับมาดำเนินการได้อย่างเต็มที่
          พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านบริหารและจัดการอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร ประเมินทิศทางอสังหาริมทรัพย์ปีกระต่าย ส่งสัญญาณฟื้นตัวเร็วหรือไม่? หลังรายใหญ่โชว์ฟอร์ม ผลประกอบการ ปี 2565 เติบโตสูง เขย่าตลาดเป็นบวก!

          อนุกูล รัฐพิทักษ์สันติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด กล่าวว่า แม้ปี 2565 จะเป็นปีที่มีความท้าทายของการดำเนินธุรกิจภายใต้ภาวะเศรษฐกิจที่ยังมีความไม่แน่นอน แต่ "Top 5" ของอสังหาฯ ที่ทำกำไรได้สูงสุด ก็สามารถทำกำไรรวมได้เกือบ 30,000 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อนหน้าถึง 28.3%

          โดยแชมป์กำไรสูงสุด คือ "แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์" บริษัทที่มีการเติบโตของกำไรสูงสุด คือ "แสนสิริ" แชมป์รายได้สูงสุดและการเติบโตของรายได้สูงสุด คือ "เอพี ไทยเลนด์"และบริษัทที่มีการจ่ายเงินปันผลในอัตราสูงสุด คือ "แสนสิริ"

          "ปี 2565 นับเป็นปีแรกที่เริ่มเห็นการ ฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของไทยอย่างชัดเจน หลังการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ปัจจัยสำคัญมาจากการได้รับวัคซีน การเปิดรับนักท่องเที่ยว ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจกลับมาดำเนินการได้อย่างเต็มที่"

          ในปี 2566 คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจะกลับมาฟื้นตัวเต็มที่! ทำให้มีทั้งโอกาสทางธุรกิจ อย่างไรก็ดียังมีปัจจัยเสี่ยงที่ต้องเฝ้าติดตามและเตรียมรับมือในอีกหลายประเด็น ทั้งทิศทางการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศต่างๆ ที่จะมีผลกระทบ ต่อประเทศไทย แนวโน้มราคาพลังงานและราคาโภคภัณฑ์ที่ปรับตัวสูงขึ้น กดดันให้ต้นทุนและอัตราเงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้น รวมถึงการปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ยนโยบาย

          พลัส พร็อพเพอร์ตี้ รวบรวมผลประกอบการ ปี 2565 ของยักษ์อสังหาฯ เปรียบเทียบตัวเลข กำไร รายได้ และอัตราการเติบโตมากน้อยแค่ไหน สิ่งเหล่านี้ส่งสัญญาณต่อตลาดอสังหาฯ ปีกระต่ายนี้อย่างไร ต้องติดตาม

          แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ (LH) กลับมา ครองแชมป์บริษัทที่ทำกำไรสูงสุดอีกครั้ง ด้วยกำไรสุทธิ 8,313 ล้านบาท เติบโตจาก ปีที่ผ่านมา 19.8% มีรายได้ 36,732 ล้านบาท อยู่ใน อันดับ 2 ของอุตสาหกรรม และเติบโต จากปีที่ผ่านมา 9.6% จ่ายเงินปันผลประจำปี ให้ผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 0.60 บาท ปีนี้ มีแผนเปิดตัว 17 โครงการใหม่  มูลค่า 35,000 ล้านบาท

          แสนสิริ (SIRI) เป็นประวัติการณ์ รอบ 38 ปีนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท อัตรากำไรสุทธิ เพิ่มขึ้นเป็น 12.2% ของรายได้รวม โตจากปีก่อนที่มีอัตรากำไรสุทธิ 6.8% โดยไฮไลต์กำไรไตรมาส 4/2565 ไตรมาสเดียวทะลัก 1,791 ล้านบาท เติบโต 422% สูงสุดเป็นประวัติการณ์ ประกาศจ่ายเงินปันผลในอัตราหุ้นละ 0.15 บาท คิดเป็นอัตราผลตอบแทน (Dividend yield) 8% สูงสุดในกลุ่มธุรกิจอสังหาฯ ขณะนี้ ขณะที่ยอดขาย ปี 2565 ทะลุ 50,000 ล้านบาท เติบโตเกือบ 50% กวาดรายได้รวม 34,983 ล้านบาท เติบโต 18% เป็นผลจากการขายโครงการโดดเด่นทุกกลุ่มที่อยู่อาศัย ปีนี้มีแผนเปิดตัว 52 โครงการใหม่ มูลค่า 75,000 ล้านบาท

          เอพี ไทยแลนด์ กำไรสุทธิ 5,877 ล้านบาท รายได้รวม 38,706 ล้านบาท อัตราตอบแทนจ่ายปันผล 5.2% ในปีที่ผ่านมาสร้างรายได้สูงสุดในกลุ่มอุตสาหกรรม โดยรายได้รวมจากสินค้าแนวราบ กลุ่มคอนโดมิเนียม และธุรกิจอื่นๆ ได้ 38,706 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21% หากเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้าที่มีรายได้รวมเท่ากับ 31,981 ล้านบาท ด้านกำไรสุทธิ 5,877 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนหน้าที่ มีกำไรสุทธิรวม 4,543 ล้านบาท เท่ากับ 29.4% โดยเมื่อ 21 ก.พ.  มีมติอนุมัติจ่ายปันผล จากกำไรสะสม เป็นเงินสดในอัตรา 0.65 บาท/หุ้น ปีนี้มีแผนเปิดตัว 58 โครงการใหม่  มูลค่า 77,000 ล้านบาท

          ศุภาลัย กวาดรายได้รวมเติบโตแบบ ก้าวกระโดดสูงถึง 35,501 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% จากปี 2564 เกินเป้าหมายที่วางไว้ 29,000 ล้านบาท เป็นรายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์อสังหาฯ  34,221 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18% จากปี 2564 แบ่งเป็นรายได้ จากการโอนกรรมสิทธิ์โครงการแนวราบ 54% และคอนโดมิเนียม 46% กำไรสุทธิ 8,173 ล้านบาท มากเป็นอันดับสองในอุตสาหกรรมและโตกว่า 16% ส่งผลให้อัตราหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยสุทธิต่อส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่ที่ 49% การเติบโตของยอดรายได้และกำไรดังกล่าวที่ประชุม คณะกรรมการมีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผล สำหรับผลประกอบการงวดปี 2565 อัตราหุ้นละ 1.45 บาท จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลไปแล้วในอัตราหุ้นละ 0.70 บาท คงเหลือจ่ายเงินปันผลสำหรับงวด 6 เดือนหลังของปี 2565 อัตราหุ้นละ 0.75 บาท ปีนี้มีแผนเปิดตัว 37 โครงการใหม่ มูลค่า 41,000 ล้านบาท

          พฤกษา ปี 2565 กำไรสุทธิ 2,772 ล้านบาท เติบโต 18% รายได้ 28,640 ล้านบาท ใกล้เคียง ปี 2564 รายได้จากวิมุตเติบโตอย่างก้าวกระโดดเพิ่มขึ้น 4.7 เท่า จากปี 2564 โดยปีนี้วางแผนเพิ่มการลงทุนเชิงกลยุทธ์ เพื่อสร้างรายได้ประจำอย่างต่อเนื่อง ด้านธุรกิจอสังหาฯ  วางแผนเพิ่มสัดส่วนโครงการในเซ็กเมนต์ระดับกลางไปสูง จับกลุ่มลูกค้าพรีเมียมมากขึ้น พร้อมวางแผน เปิดศูนย์สุขภาพแห่งใหม่เพื่อบริการครอบคลุม ทุกมุมเมือง ปีนี้มีแผนเปิดตัว 23 โครงการใหม่ มูลค่า 23,500 ล้านบาท

          ทางด้าน REIC คาดการณ์ทิศทาง ที่อยู่อาศัย ปี 2566 ว่า อุปทานมีสภาวะทรงตัวถึงชะลอเล็กน้อย เพราะได้ผ่านจุดต่ำสุด มาแล้วในปี 2564 แต่ก็เป็นช่วงเวลาของการฟื้นตัวให้แข็งแรง เพื่อที่จะขยายตัวได้ดีในปี 2567
ข่าว reic จากสื่อสิ่งพิมพ์ อื่นๆ