PF คาดครึ่งปีหลังรายได้เพิ่มขึ้น เล็งเปิด 9 โครงการ มูลค่ารวม 13,250 ล้าน
วันที่ : 4 กันยายน 2566
แชร์ :
PF คาดผลงานครึ่งปีหลังดีขึ้น รับยอดขายและยอดโอนอสังหาฯ เพิ่มขึ้น บวกกับโรงแรมเริ่มเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น หนุนรายได้เพิ่มขึ้น เล็งเปิดใหม่ 9 โครงการ มูลค่ารวม 13,250 ล้านบาท
ตุนแบ็กล็อก 4,288 ล้านบาท ทยอยรับรู้ทั้งหมดปีนี้
นายธีรธัชช์ สิงห์ณรงค์ธร ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่กลุ่มสนับสนุน บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) หรือ PF เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2566 จะดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยจะเห็นการฟื้นตัวขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 3/2566 ซึ่งในกลุ่มของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ บริษัทมีแผนที่ชัดเจนจะเปิดตัวโครงการใหม่ ทั้งยอดขาย (Presale) และยอดโอนกรรมสิทธิ์จะสูงขึ้นตามภาพรวมของบรรยากาศที่เริ่มดีขึ้น ขณะที่ธุรกิจโรงแรมเริ่มเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น ส่งผลให้มีรายได้เพิ่มขึ้นด้วย
“ตอนนี้เราได้นายกรัฐมนตรีใหม่แล้ว และเชื่อว่าในไม่ช้าเราจะได้คณะรัฐมนตรีชุดใหม่เข้ามา ซึ่งนโยบายหลัก ๆ ที่เร่งน่าจะเป็นการมุ่งพลิกฟื้นเศรษฐกิจ ส่งผลดีโดยรวมด้วย ขณะเดียวกันแผนของเราจะเปิดตัวโครงการใหม่ ๆ เพิ่มขึ้น เลือกช่องทางในการทำการสื่อสารโฆษณาให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้ามากขึ้น” นายธีรธัชช์ กล่าว
ทั้งนี้ ณ วันที่ 30 มิถุนายนที่ผ่านมา บริษัทมียอดขายรอโอน (Backlog) ในมือมูลค่ารวม 4,288 ล้านบาท แบ่งเป็นจากโครงการแนวราบ 1,878 ล้านบาท จากโครงการคอนโดมิเนียม 383 ล้านบาท และจากโครงการร่วมทุน 2,027 ล้านบาท ซึ่ง Backlog ทั้งหมดจะทยอยรับรู้ในช่วงครึ่งปีหลัง
โดยในช่วงครึ่งปีหลังบริษัทมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ จำนวน 9 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 13,250 ล้านบาท โดยในช่วงไตรมาส 3/2566 จะเปิดตัว 3 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 3,200 ล้านบาท และในช่วงไตรมาส 4/2566 บริษัทมีแผนจะเปิดตัวโครงการใหม่ จำนวน 6 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 10,050 ล้านบาท
ส่วนธุรกิจโรงแรมมีการฟื้นตัวต่อเนื่องอย่างชัดเจน จากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ในช่วงไตรมาส 4 จะเป็นช่วง High season ของการท่องเที่ยว ส่งผลให้รายได้มีการฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยคาดค่าเฉลี่ย RevPar ของกลุ่มโรงแรมจะกลับขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 3,000 บาทต่อห้องต่อคืน ซึ่งเป็นระดับที่ทำได้ก่อนช่วงเกิดโควิด-19 ในปี 2562 พร้อมคาดการณ์รายได้จากธุรกิจโรงแรมในปี 2566 จะอยู่ที่ระดับ 3,000 ล้านบาท
นายธีรธัชช์ กล่าวอีกว่า บริษัทปรับลดเป้าหมายรายได้ปี 2566 ลง เพื่อให้สะท้อนกับสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน แต่ยังคงเติบโตขึ้นกว่าปีก่อน โดยได้ปรับลดเป้าหมายรายได้ปีนี้ลงอยู่ที่ระดับ 13,550 ล้านบาท (จากเดิมที่ตั้งเป้าหมายไว้ 15,970 ล้านบาท) ซึ่งเป้าหมายยอดขายใหม่ยังคงเติบโต 38% จากปีก่อน ขณะที่ได้ปรับลดยอดขาย (Presale) อยู่ที่ 11,600 ล้านบาท จากเดิมที่ตั้งเป้าหมายไว้ 19,000 ล้านบาท ซึ่งเป้าหมายยอดขายใหม่เติบโต 26% จากปีก่อน
นายธีรธัชช์ สิงห์ณรงค์ธร ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่กลุ่มสนับสนุน บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) หรือ PF เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2566 จะดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยจะเห็นการฟื้นตัวขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 3/2566 ซึ่งในกลุ่มของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ บริษัทมีแผนที่ชัดเจนจะเปิดตัวโครงการใหม่ ทั้งยอดขาย (Presale) และยอดโอนกรรมสิทธิ์จะสูงขึ้นตามภาพรวมของบรรยากาศที่เริ่มดีขึ้น ขณะที่ธุรกิจโรงแรมเริ่มเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น ส่งผลให้มีรายได้เพิ่มขึ้นด้วย
“ตอนนี้เราได้นายกรัฐมนตรีใหม่แล้ว และเชื่อว่าในไม่ช้าเราจะได้คณะรัฐมนตรีชุดใหม่เข้ามา ซึ่งนโยบายหลัก ๆ ที่เร่งน่าจะเป็นการมุ่งพลิกฟื้นเศรษฐกิจ ส่งผลดีโดยรวมด้วย ขณะเดียวกันแผนของเราจะเปิดตัวโครงการใหม่ ๆ เพิ่มขึ้น เลือกช่องทางในการทำการสื่อสารโฆษณาให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้ามากขึ้น” นายธีรธัชช์ กล่าว
ทั้งนี้ ณ วันที่ 30 มิถุนายนที่ผ่านมา บริษัทมียอดขายรอโอน (Backlog) ในมือมูลค่ารวม 4,288 ล้านบาท แบ่งเป็นจากโครงการแนวราบ 1,878 ล้านบาท จากโครงการคอนโดมิเนียม 383 ล้านบาท และจากโครงการร่วมทุน 2,027 ล้านบาท ซึ่ง Backlog ทั้งหมดจะทยอยรับรู้ในช่วงครึ่งปีหลัง
โดยในช่วงครึ่งปีหลังบริษัทมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ จำนวน 9 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 13,250 ล้านบาท โดยในช่วงไตรมาส 3/2566 จะเปิดตัว 3 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 3,200 ล้านบาท และในช่วงไตรมาส 4/2566 บริษัทมีแผนจะเปิดตัวโครงการใหม่ จำนวน 6 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 10,050 ล้านบาท
ส่วนธุรกิจโรงแรมมีการฟื้นตัวต่อเนื่องอย่างชัดเจน จากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ในช่วงไตรมาส 4 จะเป็นช่วง High season ของการท่องเที่ยว ส่งผลให้รายได้มีการฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยคาดค่าเฉลี่ย RevPar ของกลุ่มโรงแรมจะกลับขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 3,000 บาทต่อห้องต่อคืน ซึ่งเป็นระดับที่ทำได้ก่อนช่วงเกิดโควิด-19 ในปี 2562 พร้อมคาดการณ์รายได้จากธุรกิจโรงแรมในปี 2566 จะอยู่ที่ระดับ 3,000 ล้านบาท
นายธีรธัชช์ กล่าวอีกว่า บริษัทปรับลดเป้าหมายรายได้ปี 2566 ลง เพื่อให้สะท้อนกับสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน แต่ยังคงเติบโตขึ้นกว่าปีก่อน โดยได้ปรับลดเป้าหมายรายได้ปีนี้ลงอยู่ที่ระดับ 13,550 ล้านบาท (จากเดิมที่ตั้งเป้าหมายไว้ 15,970 ล้านบาท) ซึ่งเป้าหมายยอดขายใหม่ยังคงเติบโต 38% จากปีก่อน ขณะที่ได้ปรับลดยอดขาย (Presale) อยู่ที่ 11,600 ล้านบาท จากเดิมที่ตั้งเป้าหมายไว้ 19,000 ล้านบาท ซึ่งเป้าหมายยอดขายใหม่เติบโต 26% จากปีก่อน
ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ
