นายภัทรชัย ทวีวงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและการสื่อสาร บริษัท คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากเปิดประเทศในปี 2565 ส่งผลให้นักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวนมากเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย และส่วนใหญ่เลือกจังหวัดภูเก็ตเป็นจุดหมายปลายทางแรกของการท่องเที่ยวหลังวิกฤตโควิด-19 และมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติมากกว่า 8 ล้านคน เดินทางเข้าสู่จังหวัดภูเก็ตในปีที่ผ่านมา สำหรับหาดยามูซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแหลมยามู หาดดังที่ฝรั่งทำร้ายหมอกลายเป็นที่พูดถึงในวงกว้างเป็นอย่างมากในเวลานี้นั้น จากการสำรวจข้อมูลพบว่า ย่านนี้เป็นอีกทำเลที่ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ มีการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย ทั้งโครงการคอนโดมิเนียมและบ้านพักตากอากาศ ขณะที่กำลังซื้อต่างชาติยังมีดีมานด์ต่อเนื่อง โดยพบว่าต่างชาติอีกจำนวนมากยังมองหาบ้านพักอากาศเป็นที่พักอาศัยหรือเป็น บ้านหลังที่ 2

         นายภัทรชัยกล่าวว่า สำหรับแหลมยามูตั้งอยู่ที่ตำบลป่าคลอก อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต โดยเมื่อสิ้นปี 2566 มีบ้านพักตากอากาศที่อยู่ระหว่างการขายเหลือแค่ 1 โครงการเท่านั้น คือ โครงการ เฮด แลนด์ แอท โคโม พอยท์ เป็นวิลล่าหรูจำนวน 8 ยูนิต ตั้งอยู่บนที่ดินมากกว่า 25 ไร่ เป็นบ้านเดี่ยวขนาดใหญ่มี 4-6 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอยมากถึง 2,000-2,500 ตารางเมตร อยู่บนที่ดินขนาด 781.25-2,000 ตารางวา ขณะที่ราคาขายสูงถึง 230-440 ล้านบาทต่อยูนิต และพบว่าในช่วงก่อนหน้านี้ ยังมีโครงการบ้านยามู เรสซิเดนซ์ และโครงการเดอะ เบย์ แอท เคปยามู ซึ่งประกอบด้วยคอนโดมิเนียมและวิลล่าตากอากาศ โดยทุกโครงการปัจจุบันปิดการขายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

         นายภัทรชัยกล่าวว่า สำหรับตลาดเช่ามีวิลล่าตากอากาศในบางโครงการ มีราคาเสนอเช่าสูงถึง 280,000-1,000,000 บาทต่อเดือน ส่วนคอนโดมิเนียมมีราคาเสนอเช่าอยู่ที่ 85,000-200,000 บาทต่อเดือน เนื่องจากหาดยามูเป็นชายหาดที่เงียบสงบ มีวิวทิวทัศน์สวยงาม สามารถมองเห็นเกาะแก่งต่างๆ ในทะเลได้อย่างชัดเจน จึงเหมาะสำหรับการพักผ่อน เพราะมีความเป็นส่วนตัวสูง จึงตอบโจทย์กำลังซื้อชาวต่างชาติจำนวนมากที่มองหาวิลล่าหรูและคอนโดมิเนียมสำหรับพักอยู่อาศัย