นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย กล่าวในพิธีเปิดงานมหกรรมบ้านและคอนโดฯ ครั้งที่ 45 จัดโดย 3 สมาคมอสังหาริมทรัพย์ ว่าภาคเอกชนมีส่วนร่วมในการ ขับเคลื่อนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศให้เจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง แม้ในสภาวะเศรษฐกิจ ชะลอตัว แต่ที่อยู่อาศัยยังคงเป็นปัจจัย 4 ที่ยังคงมีความต้องการ แต่การจะทำให้ทุกครอบครัวมีที่อยู่อาศัย ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกันทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน

    ในส่วนของภาครัฐ ได้มีการหารือถึงนโยบายเกี่ยวกับเรื่องการจัดผังเมือง การจัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่และดำเนินการให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันให้มากที่สุด อาทิ การวางผังเมืองให้รองรับวิถีชีวิตสังคมผู้สูงอายุไทยในอนาคต ให้เกิดความสะดวกสบาย ตอบโจทย์ผู้คนได้หลายมิติ เกิดการพัฒนาสังคมของการอยู่ร่วมกันอย่างยั่งยืน

    "ภาครัฐพยายามดูความต้องการของพี่น้องประชาชน อะไรที่ทำให้ประชาชนเดือดร้อน ก็จะเลี่ยง ซึ่งที่ผ่านมารัฐบาลก็พยายามฟังผู้ประกอบการอยู่แล้ว เพราะข้าราชการไม่ได้เป็นคนลงทุน อีกทั้งรัฐบาลในวันนี้เป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน ดังนั้นก็ต้องทำทุกอย่างเพื่อตอบแทนประชาชน อีกทั้งนายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน รู้เรื่องอสังหาริมทรัพย์ดีอยู่แล้ว ถ้าท่านให้นโยบายใดมา เราก็พร้อมจะตอบสนองเพื่อเป็นประโยชน์ของประชาชน แต่ไม่ใช่เป็นประโยชน์ของผู้ประกอบการ"

     นายพีระพงศ์ จรูญเอก นายกสมาคมอาคารชุดไทย กล่าวว่ามาตรการกระตุ้นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่นายกรัฐมนตรีรับ 8 ข้อเสนอตามที่ 7 องค์กรอสังหาริมทรัพย์เสนอไปก่อนหน้านี้ ล่าสุดเริ่มชัดเจนที่สุด คือ การปรับปรุงเกณฑ์โครงการบ้านบีโอไอเป็นราคาไม่เกิน 1.5 ล้านบาท จากเดิมไม่เกิน 1.2 ล้านบาท ให้สะท้อนต้นทุนจริง ช่วยกลุ่มผู้มีรายได้ปานกลาง-รายได้น้อย ส่วนเรื่อง อื่นๆ คาดว่ารัฐบาลจะทยอยประกาศมาตรการออกมา ภายในไตรมาส 2 ของปีนี้