สร้างความคึกคักให้กับจังหวัดนครปฐมเป็นอย่างมาก สำหรับโครงการมิกซ์ยูส มูลค่า 8,200 ล้านบาท ของบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN ที่สร้างเมืองใหม่บนที่ดิน 100 ไร่ ใจกลางเมือง มีทุกอย่างครบทั้งศูนย์การค้า โรงแรม คอนโดมิเนียม บ้านหรู และ Urban Park 4 ไร่

    หลังกดปุ่มเปิดบริการศูนย์การค้า เซ็นทรัล นครปฐม ด้วยพื้นที่รวม 133,000 ตารางเมตร เมื่อวันที่ 30 มีนาคมที่ผ่านมา เรียกว่าสร้างปรากฏการณ์ห้างแตกไปแบบไม่เหนือความคาดหมาย มีคนเข้าใช้บริการในวันแรกกว่า 80,000 คน

    คอนโด เอสเซ็นท์ โกยยอด 86%

    ขณะที่โครงการคอนโดมิเนียม เอสเซ็นท์ นครปฐม ที่เปิดขายในวันเดียวกันนั้น มียอดขายถล่มทลายกว่า 86% เพียงแค่ 4 วันที่ผ่านมา โดยรูปแบบเป็นคอนโดมิเนียมอยู่ใกล้ห้าง สูง 21 ชั้น มีพื้นที่กว่า 3 ไร่ จำนวน 425 ยูนิต มีให้เลือกแบบ 1 ห้องนอน และ 2 ห้องนอน ขนาดพื้นที่ 24-56 ตารางเมตร และที่จอดรถ 151 ช่องจอด ราคาเริ่มต้น 1.99 ล้านบาท

    จากคอนโดมิเนียมตามแผนของ CPN หมุดหมายต่อไปภายในไตรมาส 3 และไตรมาส 4 ของปีนี้ เตรียมเปิดขายโครงการบ้านนิรติ นครปฐม ระดับราคา 8-15 ล้านบาท เป็นบ้านเดี่ยวพรีเมียม สำหรับครอบครัวเริ่มต้น มีขนาดที่ดินเริ่มต้น 60 ตารางวา กว่า 200 ยูนิต จากนั้นเป็นคิวของโรงแรม คาดจะพัฒนาทั้งโครงการเสร็จภายใน 5 ปี

    ด้วยจังหวัดนครปฐมอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ยังมีระบบการคมนาคมสะดวกทั้งถนนและทางรถไฟ รวมถึงมอเตอร์เวย์บางใหญ่-กาญจนบุรีที่จะเปิดเต็มรูปแบบในปี 2568 ทำให้นครปฐมเป็นอีกทำเลที่โดดเด่นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ล่าสุดราคาที่ดินปรับขึ้นกว่า 24% ติดท็อป 5 ทำเลกรุงเทพฯและปริมณฑลที่มีอัตราการขยายตัวของราคาที่ดินเพิ่มขึ้นสูงสุด

    ทำให้มียักษ์อสังหาฯเข้าไปปักหมุดพัฒนาโครงการอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าบริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) ที่เปิดทีเดียว 2 โครงการรวด มูลค่ารวม 1,750 ล้านบาท ภายใต้โครงการศุภาลัย วิลล์ สามพราน-เพชรเกษม พื้นที่กว่า 40 ไร่ เป็นบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮม 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 119-208 ตารางเมตร เริ่มต้น 2.59-7 ล้านบาท และศุภาลัย ปาล์มวิลล์ บางแขม-นครปฐม พื้นที่กว่า 42 ไร่ จำนวน 166 ยูนิต เป็นบ้านเดี่ยว บ้านแฝด 2 ชั้น ราคาเริ่มต้น 5.19-8 ล้านบาท

    ยังมีคอนโดพร้อมอยู่โครงการเดอะ ทรัสต์ นครปฐม ของเครือควอลิตี้เฮ้าส์ ที่เข้าไปปักหลักมานานหลายปี โดยโครงการตั้งอยู่ติดถนนเพชรเกษม ใกล้เทสโก้ โลตัส บนเนื้อที่กว่า 5 ไร่ เป็นคอนโดมิเนียมสูง 8 ชั้น 2 อาคาร 405 ยูนิต มูลค่าโครงการ 632 ล้านบาท ขนาดพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 23.4-29.5 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้นที่ 1.09 ล้านบาท

     เอพี ชี้รีเจ็กต์เรตทำสะดุด

    ด้านบริษัท เอพี ไทยแลนด์ จำกัด (มหาชน) ได้เปิดโครงการ อภิทาวน์ นครปฐม บนถนนเพชรเกษมนครชัยศรี มูลค่าโครงการ 850 ล้านบาท มีทั้งบ้านเดี่ยวหรู บ้านแฝด ทาวน์โฮม ราคาเริ่มต้น 3.59-8 ล้านบาท

     ล่าสุด เมธา รักธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานพัฒนาธุรกิจกลุ่มสินค้าทาวน์โฮม กล่าวว่า มียอดขายค่อนข้างดีในช่วงปี 2566 แต่เริ่มแผ่วช่วงไตรมาส 4 ของปี 2566 ถึงไตรมาสแรก ปี 2567 ตามภาวะเศรษฐกิจและกำลังซื้อที่ชะลอตัว รวมถึงยอดรีเจ็กต์เรตสูง 40-50% ในส่วนของบ้านแฝดและทาวน์โฮม ส่งผลให้ยอดขายช้า โดยลูกค้ามาซื้อเป็นคนที่อยู่ในเมืองนครปฐมและนครชัยศรี มีทั้งเจ้าของกิจการ ธุรกิจ และคนทำงานในจังหวัดนครปฐม

     ASW ผุดคอนโดโลว์ไรส์ใกล้ห้าง

     ขณะที่บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASW ไม่ตกขบวน ในลิสต์โครงการใหม่ในไตรมาส 2 ที่มีคิวเปิด 2 โครงการ มูลค่ารวม 2,460 ล้านบาท โดยเป็นคอนโดมิเนียมทั้งหมด นอกจาก เคฟ ลูมินัส บางมด จำนวน 617 ยูนิต มูลค่า 1,300 ล้านบาท ยังมีเคฟ เจเนซิส นครปฐม จำนวน 627 ยูนิต มูลค่า 1,160 ล้านบาท

     กรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวว่า บริษัทซื้อที่ดินอยู่ตรงข้ามเซ็นทรัล นครปฐม จะพัฒนาคอนโดสูง 8 ชั้น 3 อาคาร ขนาดพื้นที่ 25 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 1.69-2.5 ล้านบาท จะเปิดขายภายใน 2 เดือนนี้ รองรับคนทำงาน นักศึกษา อีกทั้งยังอยู่ระหว่างพัฒนาโครงการเอสต้า ซีรีนิตี้ บรมราชชนนี บ้านเดี่ยวและบ้านแฝด 137 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 4.69 ล้านบาท มูลค่า 800 ล้านบาท ซึ่งนครปฐมเป็นทำเลมีศักยภาพ มีมหาวิทยาลัยถึง 4 แห่ง และมองว่านครปฐมยังเป็นตลาดที่มีกำลังซื้อสูง และยังมีซัพพลายไม่มาก บริษัทจึงเข้าไปพัฒนาโครงการ

     REIC ชี้แนวราบเปิดตัวพุ่ง

    ด้าน วิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (REIC) กล่าวว่า ฉายภาพรวมของตลาดอสังหาริมทรัพย์ประเภทที่อยู่อาศัยของจังหวัดนครปฐม ในไตรมาส 4 ปี 2566 มีที่อยู่อาศัยที่เสนอขายในตลาดจำนวน 4,718 หน่วย มูลค่า 17,270 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่ประมาณ 90% เป็นบ้านแนวราบ 4,292 หน่วย มูลค่า 16,285 ล้านบาท และอีกประมาณ 10% เป็นห้องชุด 426 หน่วย มูลค่า 985 ล้านบาท

     "วิชัย" ระบุว่า ในช่วงปี 2566 ที่ผ่านมา มีการเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยใหม่รวม 1,943 หน่วย มูลค่า 7,417 ล้านบาท มีจำนวนหน่วยปรับตัวลดลงจากปี 2565 ประมาณ 11.5% ซึ่งพบว่าทั้งหมดที่เปิดตัวใหม่ เป็นโครงการบ้านแนวราบ โดยมียอดขายได้ใหม่รวม 3,130 หน่วย มูลค่า 10,953 ล้านบาท มีจำนวนหน่วยขยายตัวถึง 51.7% และยังพบว่ายอดขายใหม่ที่เกิดขึ้นในปี 2566 ส่วนใหญ่บ้านแนวราบ

      ปี'66 เหลือขาย 1.4 หมื่นล้าน

      "การที่หน่วยเปิดตัวใหม่ในจังหวัดนครปฐมลดลง ขณะที่หน่วยเปิดตัวใหม่มีน้อยกว่าหน่วยที่ขายได้ใหม่ ส่งผล ให้หน่วยเหลือขายในจังหวัดนครปฐมในช่วงสิ้นปี 2566 มีเหลืออยู่ 4,029 หน่วย มูลค่า 14,600 ล้านบาท โดยจำนวนหน่วยเหลือขายลดลงจากสิ้นปี 2565 ประมาณ 23.6% และส่วนใหญ่เป็นบ้านแนวราบ" วิชัยกล่าว

       พร้อมขยายความว่า จากตัวเลขข้างต้นสะท้อนให้เห็นว่า สถานการณ์ของยอดขาย มียอดขายใหม่ที่ปรับตัวดีขึ้นในจังหวัดนครปฐม เนื่องจากที่อยู่อาศัยนครปฐมได้รับความสนใจจากผู้ที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยที่ราคาไม่แพงมาก และมีการพัฒนาในระบบสาธารณูปโภค สาธารณูปการ และระบบคมนาคมขนส่งที่ดี ทำให้ผู้ซื้อมองว่าแม้ปัจจุบันจะไกลหน่อย แต่การเดินทางในอนาคตก็จะได้รับความสะดวกมากขึ้น รวมถึงมีการพัฒนาห้างสรรพสินค้าใหม่ในพื้นที่อำเภอเมืองนครปฐมทำให้เกิดความเจริญในพื้นที่มากขึ้นด้วย