บุษกร ภู่แส

    กรุงเทพธุรกิจ

     ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) ระบุการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดคนต่างชาติ เดือน ม.ค.-ธ.ค.2566 สูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ ชลบุรี 5,935 หน่วย สัดส่วน 41.1% กรุงเทพฯ 5,484 หน่วย สัดส่วน 38% ตามมาด้วย เชียงใหม่ ภูเก็ต และสมุทรปราการ "ชลบุรี" มีจำนวนหน่วยโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุด/คอนโดมิเนียมคนต่างชาติมากกว่ากรุงเทพฯ! เป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปี อย่างไรก็ดี "มูลค่า" โอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดคนต่างชาติมากสุด ยังคงเป็นกรุงเทพฯ 5,484 หน่วย มูลค่า 44,250 ล้านบาท สัดส่วน 60.5% ของมูลค่าทั้งหมด รองลงมาเป็นชลบุรี 5,935 หน่วย มูลค่า 18,221 ล้านบาท สัดส่วน 24.9% ของมูลค่าทั้งหมด

    วิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) วิเคราะห์ว่า ชลบุรี มีดีมานด์จากภาคอุตสาหกรรมในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ดึงดูดเงินลงทุนจากต่างประเทศอย่างเป็นรูปธรรมทำให้เกิดกำลังซื้อมหาศาลจากภาคอุตสาหกรรมที่กำลังขยายตัวอย่างมากในย่านนี้ โดยเฉพาะ "จีน" สอดคล้องแผนการพัฒนาอุตสาหกรรมในโซนอีอีซี 5 คลัสเตอร์หลัก ได้แก่ 1.อุตสาหกรรมการแพทย์ 2.อุตสาหกรรมดิจิทัล 3.อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV) 4.อุตสาหกรรมกลุ่ม BCG และ 5.อุตสาหกรรมบริการ กระตุ้นให้เกิดดีมานด์ที่อยู่อาศัยจากคนต่างชาติที่เป็นผู้เชี่ยวชาญเข้ามาทำงาน

     ชลบุรี ยังเป็นจังหวัดริมฝั่งทะเล ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ จึงเป็นสถานที่พักผ่อนยอดนิยมเพราะมีสถานที่ท่องเที่ยวรองรับ หลากหลายกลุ่ม ทั้งชายหาด สถานบันเทิง อาหารทะเล มีจุดท่องเที่ยวสำคัญอย่างบางแสน พัทยา และเกาะล้าน เป็นปัจจัยสำคัญทำให้จังหวัดชลบุรีมีจำนวนหน่วยโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุด/คอนโดมิเนียมคนต่างชาติมากกว่ากรุงเทพฯ! เป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปี

     "การท่องเที่ยวและภาคอุตสาหกรรม นิคมอุตสาหกรรมกลับมาฟื้นตัว ทำให้ดีมานด์ต่างชาติในชลบุรีแซงกรุงเทพฯ ส่วนปี 2567 ต้องจับตาดูเศรษฐกิจจะฟื้นตัวดีมากน้อยแค่ไหน โดยเฉพาะตลาดจีนจะกลับมาซื้อและโอนคอนโดในกรุงเทพฯ เพิ่มขึ้นหรือไม่"

     วัฒนพล ผลชีวิน นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ชลบุรี กล่าวว่า "ทาวน์โฮม" ขายดีอันดับหนึ่งของชลบุรี โดยทำเลยอดนิยม คือ อ.พานทอง เพราะเป็นเมืองที่มีนิคมอุตสาหกรรมขนาดใหญ่อย่างอมตะ มีคนทำงานราว 2 แสนคน รวมทั้ง อ.เมือง อ่างศิลา และบางแสน

     ทั้งนี้ แนวโน้มอุตสาหกรรมนิวเอสเคิร์ฟไม่ค่อยใช้แรงงานเหมือนอุตสาหกรรมดั้งเดิมทำให้ดีมานด์ที่อยู่อาศัยในชลบุรีโซนอีอีซี เปลี่ยนเป็นกลุ่มแรงงานชั้นสูงมีรายได้มากขึ้น ขณะที่ดีมานด์กลุ่มรายได้น้อยถึงปานกลางหายไปจากทาวน์โฮมราคา 2 ล้านบาท กลายเป็น บ้านเดี่ยวระดับราคา 5-10 ล้านบาท บ้านแฝดราคา 3.5-4 ล้านบาทได้รับความนิยมมากขึ้น

     "การแข่งขันในตลาดอสังหาฯ ชลบุรี เป็น Red Ocean ไม่แพ้กรุงเทพฯ โดยเฉพาะ อ.พานทอง อ.เมือง ศรีราชา บางละมุง เป็นทำเลยอดนิยม"

      ทั้งนี้ต่างชาติสนใจซื้ออสังหาฯ ในชลบุรีมากขึ้นทั้งคอนโดและแนวราบ ที่สำคัญมี โปรเจกต์เกิดใหม่ที่ "พัทยา" เป็นการร่วมทุนกับต่างชาติ เช่น จีน รัสเซีย อิสราเอล อังกฤษ ส่วนใหญ่เป็นคอนโดทำเลเขาพระตำหนัก จอมเทียน ส่วน "แนวราบ" มีผู้ประกอบการจีนเข้ามาร่วมทุนพัฒนาพูลวิลล่า ราคา 10-15 ล้านบาท ขายได้ดี ในทำเลฝั่งภูเขา ซอยอ่างเก็บน้ำชากนอก หนองปรือ บางละมุง บางชัน อ.เมือง รองรับดีมานด์ต่างชาติที่ต้องการบ้านหลังที่สอง

     "ปีที่ผ่านมาตัวเลขโอนคอนโดของชาวต่างชาติสูงสุดเป็นคนจีนที่ซื้อไว้ก่อนโควิด-19 แต่ปีนี้คอนโดเปิดใหม่มีไม่มาก เน้นพัฒนาแนวราบขนาดเล็กมากกว่า ส่วนใหญ่มีลูกค้าต่างชาติซื้อถูกต้องตามกฎหมาย"