รายงานข่าวจาก บล.เอเซีย พลัส เปิดเผยว่า จากการรวบรวมผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ทั้งรายกลางและรายใหญ่ในตลาดรวม 15 บริษัท พบว่า กำไรปรับลดลง จากเศรษฐกิจฟื้นตัวไม่เต็มกำลัง และอัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับสูง จึงส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัย ประกอบกับการเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อของธนาคารนำไปสู่การปฏิเสธสินเชื่อระดับสูง โดยเฉพาะบ้านระดับกลาง-ล่าง

         ทั้งนี้ คาดว่า บมจ.เอพี มีกำไรสุทธิ 1,030 ล้านบาท ลดลง 30% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน หรือต่ำสุดของปี และลดลง 22% จากไตรมาสก่อน เพราะไม่มีการส่งมอบคอนโดมิเนียมใหม่ ส่วนคอนโดฯพร้อมอยู่มีสินค้าเหลือขายน้อย ตลาดอสังหาฯไตรมาส 1 มีแรงกดดันจากเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวช้า ดอกเบี้ยอยู่ในระดับสูง และธนาคารเข้มงวดปล่อยสินเชื่อ จึงกดดันให้ยอดโอน กำไร และส่วนแบ่งกำไรจากพันธมิตรที่ร่วมทุนลดลง

         ด้าน บมจ.ศุภาลัย มีกำไรสุทธิ 742 ล้านบาท ลดลง 31% ต่ำสุดของปี เพราะไม่มีการส่งมอบ คอนโดฯ ใหม่ และภาพรวมตลาดอสังหาฯ ไตรมาส 1 ยังไม่ดีนัก เพราะถูกกดดันจากเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว ไม่เต็มกำลัง การเข้มงวดปล่อยสินเชื่อของธนาคาร และ บมจ.แสนสิริ มีกำไรสุทธิปกติ 1,080 ล้านบาท แม้ยอดโอนจะสูงขึ้น 31% จากการโอนกรรมสิทธิ์กลุ่มแนวราบ โดยเฉพาะบ้านระดับบน แต่กำไรถูกกดดันจากต้นทุนสินค้า ค่าใช้จ่ายพนักงานสูงขึ้น.