"คอนโดเมืองท่องเที่ยวเติบโตอย่างต่อเนื่อง ต่างชาติแห่ซื้อเต็มโควตา 49% พื้นที่ ภูเก็ต พัทยา หัวหิน บิ๊กอสังหาฯเปิดตัวกว่า 8,000 ยูนิต"

     ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์เมืองท่องเที่ยวในปีนี้ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งฟื้นตัวกลับมาเกือบเท่าก่อนช่วงวิกฤตโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ เนื่องจากนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าสู่ประเทศไทยมากกว่า 12 ล้านคน สร้างมูลค่าจากการท่องเที่ยวกว่า 5.83 แสนล้านบาท ช่วงไตรมาสแรกของปี 2567 ตลาดคอนโดมิเนียมในภูเก็ต พัทยา และหัวหิน เป็นพื้นที่ที่ได้รับความนิยมจากนักลงทุนทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยมีคอนโดฯเปิดตัวโครงการใหม่รวมกันราว 8,500 ยูนิต

     ฝ่ายวิจัยและการสื่อสาร คอลลิเออร์ส ประเทศไทย คาดว่ากำลังซื้อยังคงให้ความนิยมคอนโดฯโดยเฉพาะต่างชาติ เช่น รัสเซีย เป็นกลุ่มที่มีบทบาทสำคัญในการผลักดันเม็ดเงินลงทุนคอนโดหรูในเมืองท่องเที่ยวเหล่านี้ และมียอดขายเต็มโควตาที่ 49%

      นายภัทรชัย ทวีวงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและการสื่อสาร คอลลิเออร์ส กล่าวว่า ช่วง 4 เดือนแรกของปี 2567 มีเม็ดเงินลงทุนรวมกว่า 56,600 ล้านบาทหลั่งไหลเข้าสู่ตลาดคอนโดฯและบ้านพักตากอากาศในเมืองท่องเที่ยว โดยเฉพาะในพื้นที่ภูเก็ต พัทยา และหัวหิน เมื่อเปรียบเทียบกับกับจำนวนคอนโดฯเปิดตัวใหม่ทั้งก่อนและระหว่างวิกฤตโควิด-19 ระบาดช่วงปี 2563-2565 ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้นักท่องเที่ยวเข้ามาสู่ประเทศไทยน้อยลง และปัจจุบัน พบว่าจำนวนคอนโดฯเปิดใหม่กลับมาฟื้นตัวเทียบเท่าก่อนเกิดโควิด หรืออาจมากกว่าในบางพื้นที่ นับเป็นครั้งแรกในรอบ 10 กว่าปี ที่โครงการเปิดขายใหม่ของตลาดคอนโดฯเมืองท่องเที่ยวอย่างภูเก็ตและพัทยา สูงกว่ากรุงเทพมหานคร ทั้งด้านจำนวนยูนิตและมูลค่า

      ภูเก็ตเป็นจังหวัดที่ได้รับความนิยมที่นักลงทุนส่วนใหญ่เข้าพื้นที่ โดยในไตรมาสนี้ มีคอนโดฯเปิดตัวใหม่ 12 โครงการ มูลค่ากว่า 25,000 ล้านบาท จากผู้ประกอบการรายใหญ่เช่น แสนสิริ, แอสเซทไวส์, ออริจิ้น และฮาบิแทท ซึ่งหลายโครงการปิดการขายได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะจากกำลังซื้อชาวรัสเซีย ทำให้อัตราการขายเฉลี่ยของคอนโดฯในภูเก็ตราคา 3-5 ล้านบาท สูงประมาณ 6.5% ต่อเดือน

      ย้อนกลับไปก่อนเกิดโควิด ช่วงปี 2561 ภูเก็ตมีคอนโดฯเปิดตัวใหม่ 5,249 ยูนิต และปีก่อนๆ เฉลี่ยปีละ 2,000-3,000 ยูนิต ในช่วงระหว่างเกิดโควิดปี 2563-2565 จำนวนคอนโดฯใหม่ลดลงเหลือปีละประมาณ 1,000 ยูนิต แต่ในไตรมาสแรกปีนี้ คอนโดฯในภูเก็ตสูงถึง 3,338 ยูนิต ถือเป็นจำนวนมากที่สุดนับตั้งแต่ก่อนโควิด โดยหลายโครงการพากันเปิดตัวคอนโดฯ ระดับไฮเอนด์เช่นบางเทา ถนนเชิงทะเล รอบลากูน่า เนื่องจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นบวกกับการลงทุนจากภาครัฐและเอกชน จึงเป็นแรงผลักดันสำคัญให้ตลาดคอนโดฯในภูเก็ตมีแนวโน้มที่ดีขึ้น ซึ่งคาดการณ์ว่า ปีนี้อาจมีโครงการใหม่เข้าสู่ตลาดอีกกว่า 8,500 ยูนิต

      ส่วนพัทยาก็เช่นกัน เมื่อปี 2561 มีจำนวนคอนโดฯเปิด 11,000 ยูนิต หลังจากโควิดมีโครงการใหม่เปิดตัวต่ำกว่า 1,000 ยูนิตต่อปี แต่ในไตรมาสนี้พุ่งสูงถึง 4,493 ยูนิต เช่น ออริจิ้น, ริเวียร่าฯ และเนื่องจากคอนโดฯส่วนใหญ่เป็นระดับลักชัวรีทำเลดีริมชายหาด ทั้งยังมีจำนวนจำกัด ทำให้โครงการใหม่หลายแห่งปิดการขายเร็วกว่าที่คาด

      คาดว่าในอีก 3 ไตรมาสที่เหลือปีนี้ จะมีคอนโดฯใหม่เปิดตัว 3,000 ยูนิต ส่งผลให้โครงการขายใหม่สูงกว่า 7,000 ยูนิตจากผู้ประกอบการรายใหญ่ เช่น ออริจิ้น, แสนสิริ, และแอสเซท ไวส์ และมีแผนเปิดตัวต่อเนื่องในอนาคต

      ขณะที่หัวหินถือเป็นพื้นที่ที่มีโครงการคอนโดฯใหม่ไม่มาก เมื่อเทียบกับช่วงก่อนโควิดปี 2561 ที่มีการเปิดตัว 1,000 ยูนิต และช่วงโควิดมีจำนวนลดลง แต่ในไตรมาสนี้มีโครงการใหม่เปิดตัวในพื้นที่หัวหิน 671 ยูนิตอย่าง The Standard Residences Hua Hin มูลค่ากว่า 4,500 ล้านบาท จาก แสนสิริ ซึ่งเป็นโครงการบีชฟร้อนท์แบรนด์เรสซิเด้นซ์แห่งแรกในเอเชีย ตั้งอยู่บนทำเลติดหาดหัวหิน

      ขณะเดียวกัน พื้นที่ใกล้เคียงอย่างชะอำและปราณบุรี มีอัตราการขายใหม่อย่างช้าๆ เนื่องจากยังคงมีโครงการที่ก่อสร้างแล้วเสร็จและรอการขายอยู่ในขณะนี้

      นายอุทัย อุทัยแสงสุข กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.แสนสิริ ระบุว่า อุตสาหกรรมท่องเที่ยวเติบโตแบบก้าวกระโดดส่งผลดีต่อธุรกิจอสังหาฯในหัวเมืองท่องเที่ยว ที่บริษัทมีเป้าหมายชัดเจนเข้าไปเปิดตัวโครงการ จังหวัดหัวเมืองท่องเที่ยว อาทิ เชียงใหม่ ภูเก็ต พัทยา หัวหิน ครอบคลุมทุก เซ็กเมนต์ เจาะกลุ่มทั้งคนไทยและต่างชาติ

     ด้านนาย พีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ออริจิ้น หรือ ORI ประกาศลุยตลาดเมืองท่องเที่ยวต่อเนื่องหลังปีที่ผ่านมา ปักหมุดโครงการคอนโดมิเนียมในภูเก็ต โดยปีนี้ เปิดโครงการพร้อมกัน2 ทำเล ภูเก็ต และ เขาใหญ่ มูลค่ารวม 11,000 ล้านบาท

     ด้านแอสเซทไวส์มีแผนบุกหัวเมืองท่องเที่ยวต่อเนื่อง ล่าสุดมีแผนขยายการลงทุนในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกหรืออีอีซี และภูเก็ตเป็นต้น