รายงานข่าวจาก ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า ได้จัดทำรายงานภาพรวมของตลาดที่อยู่อาศัยในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ประกอบด้วย 3 จังหวัด ได้แก่ ชลบุรี ระยอง และฉะเชิงเทรา ทั้งในด้านการขออนุญาตจัดสรรที่ดิน การขออนุญาตก่อสร้าง และการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัย โดยพบว่าได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจของประเทศอย่างชัดเจน เห็นได้จากการปรับตัวลงของความต้องการที่อยู่อาศัย ทั้งการโอนกรรมสิทธิ์ที่ลดลงจำนวนหน่วยและมูลค่า

    "ภาพรวมการโอนที่อยู่อาศัยในช่วงครึ่งแรกของปี 67 ปรับตัวลงทั้งจำนวนหน่วยถึง 10.3% และมูลค่าถึง 12.1% โดยมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยแนวราบปรับลดลง 11.1% แบ่งเป็นบ้านสร้างใหม่ยอดโอนเหลือ 6,001 หน่วย มูลค่า 18,439 ล้านบาท ยอดโอนบ้านมือสอง 8,976 หน่วย มูลค่า 19,795 ล้านบาท ส่วนยอดโอนอาคารชุดปรับตัวลดลง 14.2% แบ่งเป็นคอนโดฯใหม่ 3,644 หน่วย มูลค่า 10,258 ล้านบาท คอนโดฯ มือสอง 3,559 หน่วย มูลค่า 6,789 ล้านบาท

    สำหรับ 5 พื้นที่ในอีอีซีที่มีการโอนกรรมสิทธิ์สูงสุด อันดับ 1.บางละมุง 7,169 หน่วย มูลค่า 20,561 ล้านบาท รองลงมาเป็น ศรีราชา 2,829 หน่วย มูลค่า 6,538 ล้านบาท อำเภอเมืองชลบุรี 2,597 หน่วย มูลค่า 6,452 ล้านบาท อำเภอเมืองระยอง 1,725 หน่วย มูลค่า 3,693 ล้านบาท สัตหีบ 1,138 หน่วย มูลค่า 3,119 ล้านบาท

    ทั้งนี้ การปรับตัวลงของการโอนได้ส่งผลให้จำนวนโครงการอสังหาฯ ลดลงอย่างชัดเจน ซึ่งไตรมาส 2 ปี 67 มีโครงการที่ได้รับใบอนุญาตจัดสรรที่ดินปรับตัวลดลง 46.5% ลดลงต่อเนื่องจากไตรมาส 1 ปี 67 ที่ลดลง 15.7% และจำนวนพื้นที่ได้รับอนุญาตก่อสร้างลดลง 23.4% ลดต่อเนื่องจากไตรมาส 1 ที่ลดลง 8% และส่งผลให้ภาพรวมอุปทานในครึ่งแรกของปี 67 มีจำนวนโครงการที่ได้รับใบอนุญาตจัดสรรที่ดินลดลง 29.8%

    "ขณะที่พื้นที่ได้รับใบอนุญาตก่อสร้างในภาพรวม 3 จังหวัดอีอีซี ครึ่งแรกปี 67 ลดลง 15.3% โดยลดลงทั้งแนวราบ 10.9% และอาคารชุดลดลงที่ 60.8% ตามลำดับ ส่วน 5 พื้นที่ในอีอีซีที่มีพื้นที่อนุญาตการก่อสร้างมากสุด อันดับหนึ่งเป็นอำเภอบางละมุง 238,163 ตารางเมตร รองลงมาอำเภอเมืองชลบุรี 201,667 ตารางเมตร ศรีราชา 177,588 ตารางเมตร อำเภอเมืองระยอง 137,375 ตารางเมตร และอำเภอพานทอง 111,116 ตารางเมตร"