นายบุญ ชุน เกียรติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชีวาทัย จำกัด (มหาชน) หรือ CHEWA เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังไม่เห็นสัญญาณบวก หรือแนวโน้มที่จะทำให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2568 เติบโตขึ้นได้ ซึ่งปัจจุบันไม่มีปัจจัยที่จะซัพพอร์ต หรืออำนวยความสะดวกในการตัดสินใจซื้อบ้าน ขณะที่ความต้องการที่อยู่อาศัยจริงยังมีอยู่ตลอดเวลาและมีมาก แต่ไม่สามารถกู้สินเชื่อได้ ทำให้ลูกค้าเข้าถึงสินเชื่อได้ยาก

    สำหรับกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจในปีนี้ บริษัทยังคงเดินหน้าซื้อที่ดิน ซึ่งเป็นการซื้อที่ดินต่อเนื่องจากปี 2567 เพื่อจะนำมาพัฒนาโครงการใหม่ในปี 2568 ขณะที่ปี 2567 บริษัทไม่ได้ซื้อที่ดินตามแผน เนื่องจากมีความล่าช้าในเรื่องของการทำสัญญา ซึ่งบริษัทต้องการที่จะลงทุนด้วยความระมัดระวัง จึงต้องใช้เวลาในการพิจารณา โดยคาดว่าภายในไตรมาส 1/2568  น่าจะสามารถปิดดีลซื้อที่ดินได้ จำนวน 2 แปลง และจะนำไปพัฒนาเป็นโครงการคอนโดมิเนียม ซึ่งจะเปิดเผยข้อมูลอีกครั้งในงานแถลงแผนปี 2568 วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2568 นี้

    ด้านเซกเตอร์ของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2568 บริษัทมองว่าในกลุ่มสินค้าประเภทคอนโดมิเนียมจะดีกว่ากลุ่มสินค้าประเภทแนวราบ เนื่องจากเริ่มเห็นสัญญาณการกู้สินเชื่อของทาวน์โฮม และสินค้าในในกลุ่มระดับราคาที่ต่ำกว่า 7-8 ล้านบาท ได้รับผลกระทบจากการเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงินมากขึ้น จากเดิมที่พบผลกระทบในกลุ่มสินค้าที่มีระดับราคาต่ำกว่า 3-4 ล้านบาท อย่างไรก็ตามสินค้าในกลุ่มคอนโดมิเนียมของ CHEWA ยังคงมียอดขายอย่างต่อเนื่อง

   "พื้นฐานของการกู้สินเชื่อได้ คือ วินัยของคน คนที่กู้สินเชื่อบ้านไม่ได้ในปัจจุบันเป็น คือ การขาดวินัยในการใช้เงิน มองว่าปัจจุบันมาตรการของภาครัฐยังไม่ตรงจุด และเข้าใจว่ายากมาก ๆ อาจจะต้องกลับมาดูถึงพื้นฐานที่แท้จริง นั่นคือ วินัยของประชาชน อย่างไรก็ตาม หากเศรษฐกิจโลกดีขึ้น อาจจะดึงให้ทุกอย่างดีขึ้นได้ แต่ด้วยปัจจุบันปัจจัยภายนอกหลาย ๆ อย่าง จึงคาดเดาสถานการณ์ได้ยาก CHEWA เอง ก็มีการปรับแผนอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้ล้อไปกับสถานการณ์ในช่วงเวลานั้น ๆ"

    ทั้งนี้ บริษัทมองว่าภาพรวมของผลการดำเนินงานในปี 2568 ของ CHEWA น่าจะทำได้ดี ส่วนทางกับสภาพเศรษฐกิจและตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ยังไม่เห็นสัญญาณฟื้นตัว เนื่องจากปัจจุบันบริษัทมียอดขายรอโอน (Backlog) รองรับการโอนกรรมสิทธิ์ในมือแล้ว ประกอบกับยังมีสินค้าพร้อมขายพร้อมโอนที่จะสามารถตอบโจทย์ความต้องการได้ นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนขยายโครงการใหม่ ๆ เพิ่มอย่างต่อเนื่องด้วย

    นอกจากนี้ บริษัทจะมีการประชุมคณะกรรมการบริษัทเพื่ออนุมัติงบปี 2567 ในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2568 สำหรับผลการดำเนินงานในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2567 บริษัทมีรายได้รวมแล้ว 1,516.71 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 23.17 ล้านบาท ขณะที่ผลการดำเนินงานในปี 2566 บริษัทมีรายได้รวม 1,899.04 ล้านบาท และมีผลขาดทุนสุทธิ 69.11 ล้านบาท