นายสุทธิรักษ์ เสถียรภาพอยุทธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ธนาสิริ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ THANA เปิดเผยว่า บริษัทวางเป้าหมายยอดโอนกรรมสิทธิ์ในปี 2568 จะเติบโตประมาณ 15% จากปีก่อนที่มียอดโอนกรรมสิทธิ์ 1,200-1,300 ล้านบาท จากการมีโครงการสำหรับรองรับความต้องการในมือแล้วทั้งหมด ซึ่งล่าสุดบริษัทมีสินค้าเหลือขาย (สต๊อก) ในมือมูลค่ารวมเกือบ 5,000 ล้านบาท

    โดยปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนการโอนกรรมสิทธิ์จากโครงการร่วมทุนอยู่ที่ประมาณ 60% และเป็นยอดโอนกรรมสิทธิ์จากโครงการที่บริษัทได้พัฒนาเองประมาณ 40% ขณะที่ในปี 2569 บริษัทคาดว่าสัดส่วนยอดโอนกรรมสิทธิ์จากโครงการที่บริษัทได้พัฒนาเองจะลดลงเหลือ 30% เนื่องจากสินค้าที่บริษัทได้พัฒนาเองเติมเข้ามาไม่ทัน ซึ่งบริษัทมีนโยบายที่จะสร้างสมดุลย์ให้กับยอดโอนกรรมสิทธิ์จากโครงการที่บริษัทพัฒนาเอง 50% และจากโครงการร่วมทุนอยู่ที่ระดับ 50% ภายใน 3 ปีหลังจากปี 2569

    ขณะที่ในปี 2568 บริษัทวางเป้าหมายยอดขาย (Presale) จะเติบโต 15% จากปีก่อนที่ทำได้ประมาณ 950 ล้านบาท โดยบริษัทมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ในปี 2568 จำนวน 1 โครงการ คือ โครงการอนาบูกิ ธนาเรสซิเดนซ์ กาญจนาภิเษก-พระราม 9 มูลค่าโครงการ 1,500 ล้านบาท ซึ่งจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในช่วงครึ่งปีหลัง ซึ่งบริษัทยังอยู่ระหว่างการติดตามสถานการณ์ของตลาดอสังหาริมทรัพย์อย่างใกล้ชิด เพื่อจะพิจารณาลงทุนเปิดตัวโครงการใหม่เพิ่มในช่วงครึ่งปีหลัง

    สำหรับโครงการอนาบูกิ ธนาเรสซิเดนซ์ กาญจนาภิเษก-พระราม 9 เป็นโครงการบ้านเดี่ยวระดับพรีเมียม จำนวน 74 ยูนิต บนเนื้อที่กว่า 22 ไร่ ในระดับราคาตั้งแต่ 18-30 ล้านบาท โดยปัจจุบันมีบ้านสร้างเสร็จพร้อมโอนกรรมสิทธิ์ทันทีภายในไตรมาส 2/2568 จำนวน 6 ยูนิต ซึ่งมีจำนวนผู้แสดงความสนใจเข้ามาแล้วกว่า 30 ราย

    ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวเป็นการร่วมทุนกับ “อนาบูกิ กรุ๊ป” บริษัทผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์อันดับ 7 ของประเทศญี่ปุ่น โดยร่วมกันจัดตั้งบริษัท อนาบูกิ ธนาสิริ (ประเทศไทย) จำกัด เพื่อพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยร่วมกัน ซึ่ง THANA ได้ร่วมทุนกับ “อนาบูกิ กรุ๊ป” มาแล้ว 5 ปี (ตั้งแต่ปี 2563–2567) ได้ร่วมทุนกันแล้ว 4 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 3,400 ล้านบาท ทั้งโซนนนทบุรี และบางนา-บางบ่อ สำหรับโครงการอนาบูกิ ธนาเรสซิเดนซ์ กาญจนาภิเษก-พระราม 9 เป็นโครงการร่วมทุนลำดับที่ 5

    นายสุทธิรักษ์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการสรุปผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2568 โดยจะมีการประชุมคณะกรรมการบริษัทเพื่ออนุมัติงบไตรมาส 1/2568 ในวันที่ 6 พฤษภาคมนี้ ขณะที่ในช่วงไตรมาส 2/2568 บริษัทเริ่มเห็นสัญญาณบวกที่ดีขึ้น หลังจากที่ดอกเบี้ยลดลง มีการประกาศผ่อนคลายมาตรการ LTV รวมถึงการลดค่าธรรมเนียมโอนและจดจำนอง ทำให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ฟื้นกลับมาได้บ้าง ทั้งนี้ ในช่วงไตรมาส 2/2568 บริษัทมีสินค้าพร้อมโอนกรรมสิทธิ์ได้ทันทีในมือมูลค่ารวมประมาณ 400-500 ล้านบาท