SRTA เตรียมจับสลาก 'บ้านเพื่อคนไทย' พ.ย.นี้
วันที่ : 14 พฤษภาคม 2568
SRTA เซ็น MOU สำนักงานสลากกำหนดวิธีจับสลาก "บ้านเพื่อคนไทย" ใน พ.ย.นี้ ล่าสุดผ่านเกณฑ์ 1.36 แสนราย ชิง 5,000 ยูนิต 4 พื้นที่นำร่อง "สุรพงษ์" ยันคัดเลือกโปร่งใส SRTA เตรียมประมูลจ้างศึกษา EIA และออกแบบรายละเอียดคาด ต.ค.ชง ครม.อนุมัติก่อสร้าง ด้านคลังยัน ธอส.พร้อมให้กู้
ปชช.ผ่านเกณฑ์1.36แสนราย ชิง5,000ยูนิตนำร่อง
วันที่ 13 พฤษภาคม 2568 นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ การจับฉลากเพื่อหาผู้ได้รับสิทธิโครงการบ้านเพื่อคนไทย ระหว่าง สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล กับ บริษัท เอสอาร์ที แอสเสท จำกัด (SRTA) ว่า จากที่ได้เปิดตัว "โครงการบ้านเพื่อคนไทย" อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 17 ม.ค.2568 ที่ผ่านมา โดยโครงการในระยะแรกมีแผนนำร่องในพื้นที่ศักยภาพ 4 แห่ง ได้แก่ 1.พื้นที่โครงการบางซื่อ กม.11 (วิภาวดี) 2.พื้นที่ในจังหวัดเชียงใหม่ 3.พื้นที่โครงการเชียงราก (ปทุมธานี) 4.พื้นที่ธนบุรี ซึ่งประชาชนให้การตอบรับอย่างดี โดยลงทะเบียนจองสิทธิ์ทางออนไลน์ ร่วมโครงการมากกว่า 260,000 คน และในจำนวนนี้มีผู้ผ่านการพิจารณาเบื้องต้นจากธนาคารอาคารสงเคราะห์แล้วกว่า 136,699 คน แสดงให้เห็นถึงความต้องการที่แท้จริงของประชาชนในการเข้าถึงที่อยู่อาศัยที่มีคุณภาพในราคาที่เหมาะสม
จากนี้จะเป็นขั้นตอนการคัดเลือกผู้ได้รับสิทธิ์ ซึ่งในระยะแรกมีประมาณ 5,000-6,000 ห้อง ซึ่งน้อยกว่าความต้องการที่ลงทะเบียนไว้ ดังนั้น เพื่อให้การคัดเลือกเป็นธรรม โปร่งใสและตรวจสอบได้ SRTA จึงลงนามร่วมกับสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เพื่อให้เข้ามาช่วยดำเนินการ กระบวนการจับสลากคัดเลือกด้วยวิธีการที่เหมาะสม กระบวน การโปร่งใส ตรวจสอบได้และเป็นที่ยอมรับ สร้างความเชื่อมั่นกับประชาชนได้เพราะสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เป็นผู้เชี่ยวชาญ และเป็นคนกลางที่ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับโครงการ
นายสุรพงษ์ กล่าวว่า ตามแผนงานคาดว่าจะนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในช่วงเดือนต.ค. 2568 เพื่อขออนุมัติเพื่อดำเนินโครงการ และจับสลากได้ประมาณเดือนพ.ย. 2568 ทั้งนี้เนื่องจาก โครงการบ้านเพื่อคนไทย เป็นโครงการใหม่ที่ยังไม่มีรูปแบบมาก่อน และเป็นนโยบายของรัฐบาล ดังนั้น ขั้นตอนการดำเนินการต่างๆ จะต้องถูกต้องตามกฎหมาย สามารถตอบสังคมได้ว่าทำไมต้องทำโครงการนี้ ขณะนี้ยังมีกระบวนการที่ต้องเตรียมความพร้อมรายละเอียดก่อนเข้า ครม. เช่น ศึกษารายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ให้เสร็จ และออกแบบรายละเอียด การรื้อย้ายผู้เช่า หรือผู้บุกรุกในบางพื้นที่ โดยยืนยันว่าจะสามารถเริ่มส่งมอบให้ผู้ได้รับสิทธิ์ได้ตั้งแต่กลางปี 2569
ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีสัญญาเช่า 99 ปี ซึ่งตามระเบียบการรถไฟฯไม่สามารถดำเนินการได้นั้น นายสุรพงษ์กล่าวว่า ขณะนี้ทาง SRTA ยังไม่ได้มีการทำสัญญากับประชาชนที่จะเช่าแต่อย่างใด ยอมรับว่า เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับกฎหมายหลายฉบับ เช่น พ.ร.บ.ทรัพย์อิงสิทธิฯ, พ.ร.บ.การรถไฟฯ ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการให้ชัดเจน เชื่อว่าภายในสิ้นปี 2568 กฎหมายเหล่านี้จะตกผลึกชัดเจน ซึ่งการแก้ไขกฎหมายต่างๆ เป็นหน้าที่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ส่วน SRTA มีฐานะเป็นผู้ปฏิบัติตามกฎหมาย โดยปลายปีนี้ เชื่อว่าจะประกาศให้ประชาชนเข้าร่วมและทำสัญญาได้ และยืนยันยันว่า SRTA มีฐานะเป็นบริษัทลูกที่การรถไฟฯ ถือหุ้น 100% สามารถนำพื้นที่การรถไฟฯมาดำเนินการเพื่อให้เกิดความคล่องตัว
"ตามไทม์ไลน์ขณะนี้ เดือน ต.ค. 68 เข้า ครม.ขออนุมัติดำเนินโครงการ ก็เข้าสู่กระบวนการประมูลก่อสร้าง และเดือน พ.ย. 68 มีการจับสลากในพื้นที่นำร่อง และมีการศึกษาดีมานด์ พื้นที่ระยะที่ 2 ที่จะเปิดและให้ผู้สนใจทยอยลงทะเบียนจะทำไปต่อเนื่อง"
ส่วนก่อนหน้านี้ที่เกิดแผ่นดินไหว จึงให้ธอส.ตรวจสอบความเห็นประชาชนอีกครั้ง ซึ่งประชาชนยังคงยืนยันเข้าร่วมโครงการ อีกทั้งในหลักการโครงการจะเพิ่มเติมสิ่งที่เกี่ยวข้องเพื่อรองรับการเกิดแผ่นดินไหวเพิ่มเติมไปด้วยซึ่งเป็นข้อดีเพราะเป็นโครงการใหม่ ทำให้ผู้อยู่อาศัยมั่นใจได้
คลังยันพร้อมจัดสินเชื่อหนุนโครงการฯ
นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาลกล่าวว่า ในส่วนของ ธอส.มีความพร้อมและมีสภาพคล่องเพียงพอ ในการจัดการสินเชื่อทั้งด้านการก่อสร้างและสินเชื่อสำหรับผู้อยู่อาศัยในโครงการ ซึ่งประเมินผู้ร่วมโครงการเฟส 1 และ 2 ประมาณ 7,000-8,000 คน
SRTA เตรียมจ้างศึกษา EIA ออกแบบรายละเอียดก่อสร้าง 4 พื้นที่
พันตำรวจเอก ศุภกร ศุภศิณเจริญ กรรมการบริษัท รักษาการในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสอาร์ที แอสเสท จำกัด (SRTA) กล่าวว่า ความร่วมมือระหว่าง SRTA และสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้การจับสลากผู้ได้รับสิทธิ์ในโครงการบ้านเพื่อคนไทย เป็นไปด้วยความโปร่งใส ตรวจสอบได้ในทุกขั้นตอน โดยสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เป็นหน่วยงานที่มีความเชี่ยว ชาญในการบริหารคัดเลือกที่มีมาตรฐานเป็นปัจจัยในการสร้างความเชื่อมั่นของผู้เข้าร่วมโครงการ โดยการจับสลาก จะมีการทำดาต้าข้อมูลผู้ผ่านคุณสมบัติ จัดกลุ่มเป็นพื้นที่ และแบ่งตามขนาดห้องลงไปอีก ซึ่งจะแจ้งขั้นตอนและวิธีการให้ทราบ
โดยขณะนี้ SRTA อยู่ระหว่างจัดทำร่าง TOR เพื่อประมูลจ้างที่ปรึกษาศึกษารายงาน EIA และ ออกแบบรายละเอียดก่อสร้าง (Detail & Design) จำนวน 8 สัญญา ใช้งบประมาณรวม 114 ล้านบาท โดยจะเปิดประมูลพื้นที่ละ 2 สัญญา คือ สัญญาจ้างศึกษา EIA และจ้างออกแบบรายละเอียด คาดว่าจะได้ตัวที่ปรึกษาในปลายเดือน มิ.ย. 2568
อย่างไรก็ตาม โครงการระยะนำร่อง จำนวน 4 โครงการ 5,700 ยูนิต ประกอบด้วย บางซื่อ กม.11 พื้นที่ประมาณ 5 ไร่ จำนวน 2,000 ยูนิต เป็นรูปแบบคอนโดมิเนียม 26 ชั้น, ธนบุรี พื้นที่ประมาณ 21 ไร่ คอนโดมิเนียม 8 ชั้น, เชียงราก พื้นที่ประมาณ 3 ไร่ คอนโดมิเนียม 8 ชั้น และพื้นที่เชียงใหม่ พื้นที่ประมาณ 7 ไร่ มีคอนโดมิเนียม 8 ชั้น และบ้านเดี่ยว จำนวน 34 หลัง
พันโท หนุน ศันสนาคม ผู้อำนายการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวว่า ตามที่สำนักงานสลากกินแบ่งฯได้เคยดำเนินการสุ่มตัวแทนสลากซึ่งมีผู้สมัครกว่า 9 แสนราย ใช้วิธีการคัดเลือกจับสลาก มีขั้นตอนที่โปร่งใส และประสบความสำเร็จ ครั้งนั้นใช้เวลา 4 ชั่วโมงแล้วเสร็จ โดยจะใช้โปรแกรมที่มีอยู่แล้ว แต่ขึ้นอยู่ที่วิธีการและขั้นตอนที่จะตกลงกับทาง SRTA และประกาศให้ประชาชนได้รับทราบ โดยจะมีการถ่ายทอดสดด้วย ดังนั้นสามารถตรวจสอบได้ย้อนหลัง แก้ไขไม่ได้ ซึ่งสำนักงานสลากฯไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับโครงการบ้านเพื่อคนไทย
วันที่ 13 พฤษภาคม 2568 นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ การจับฉลากเพื่อหาผู้ได้รับสิทธิโครงการบ้านเพื่อคนไทย ระหว่าง สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล กับ บริษัท เอสอาร์ที แอสเสท จำกัด (SRTA) ว่า จากที่ได้เปิดตัว "โครงการบ้านเพื่อคนไทย" อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 17 ม.ค.2568 ที่ผ่านมา โดยโครงการในระยะแรกมีแผนนำร่องในพื้นที่ศักยภาพ 4 แห่ง ได้แก่ 1.พื้นที่โครงการบางซื่อ กม.11 (วิภาวดี) 2.พื้นที่ในจังหวัดเชียงใหม่ 3.พื้นที่โครงการเชียงราก (ปทุมธานี) 4.พื้นที่ธนบุรี ซึ่งประชาชนให้การตอบรับอย่างดี โดยลงทะเบียนจองสิทธิ์ทางออนไลน์ ร่วมโครงการมากกว่า 260,000 คน และในจำนวนนี้มีผู้ผ่านการพิจารณาเบื้องต้นจากธนาคารอาคารสงเคราะห์แล้วกว่า 136,699 คน แสดงให้เห็นถึงความต้องการที่แท้จริงของประชาชนในการเข้าถึงที่อยู่อาศัยที่มีคุณภาพในราคาที่เหมาะสม
จากนี้จะเป็นขั้นตอนการคัดเลือกผู้ได้รับสิทธิ์ ซึ่งในระยะแรกมีประมาณ 5,000-6,000 ห้อง ซึ่งน้อยกว่าความต้องการที่ลงทะเบียนไว้ ดังนั้น เพื่อให้การคัดเลือกเป็นธรรม โปร่งใสและตรวจสอบได้ SRTA จึงลงนามร่วมกับสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เพื่อให้เข้ามาช่วยดำเนินการ กระบวนการจับสลากคัดเลือกด้วยวิธีการที่เหมาะสม กระบวน การโปร่งใส ตรวจสอบได้และเป็นที่ยอมรับ สร้างความเชื่อมั่นกับประชาชนได้เพราะสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เป็นผู้เชี่ยวชาญ และเป็นคนกลางที่ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับโครงการ
นายสุรพงษ์ กล่าวว่า ตามแผนงานคาดว่าจะนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในช่วงเดือนต.ค. 2568 เพื่อขออนุมัติเพื่อดำเนินโครงการ และจับสลากได้ประมาณเดือนพ.ย. 2568 ทั้งนี้เนื่องจาก โครงการบ้านเพื่อคนไทย เป็นโครงการใหม่ที่ยังไม่มีรูปแบบมาก่อน และเป็นนโยบายของรัฐบาล ดังนั้น ขั้นตอนการดำเนินการต่างๆ จะต้องถูกต้องตามกฎหมาย สามารถตอบสังคมได้ว่าทำไมต้องทำโครงการนี้ ขณะนี้ยังมีกระบวนการที่ต้องเตรียมความพร้อมรายละเอียดก่อนเข้า ครม. เช่น ศึกษารายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ให้เสร็จ และออกแบบรายละเอียด การรื้อย้ายผู้เช่า หรือผู้บุกรุกในบางพื้นที่ โดยยืนยันว่าจะสามารถเริ่มส่งมอบให้ผู้ได้รับสิทธิ์ได้ตั้งแต่กลางปี 2569
ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีสัญญาเช่า 99 ปี ซึ่งตามระเบียบการรถไฟฯไม่สามารถดำเนินการได้นั้น นายสุรพงษ์กล่าวว่า ขณะนี้ทาง SRTA ยังไม่ได้มีการทำสัญญากับประชาชนที่จะเช่าแต่อย่างใด ยอมรับว่า เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับกฎหมายหลายฉบับ เช่น พ.ร.บ.ทรัพย์อิงสิทธิฯ, พ.ร.บ.การรถไฟฯ ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการให้ชัดเจน เชื่อว่าภายในสิ้นปี 2568 กฎหมายเหล่านี้จะตกผลึกชัดเจน ซึ่งการแก้ไขกฎหมายต่างๆ เป็นหน้าที่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ส่วน SRTA มีฐานะเป็นผู้ปฏิบัติตามกฎหมาย โดยปลายปีนี้ เชื่อว่าจะประกาศให้ประชาชนเข้าร่วมและทำสัญญาได้ และยืนยันยันว่า SRTA มีฐานะเป็นบริษัทลูกที่การรถไฟฯ ถือหุ้น 100% สามารถนำพื้นที่การรถไฟฯมาดำเนินการเพื่อให้เกิดความคล่องตัว
"ตามไทม์ไลน์ขณะนี้ เดือน ต.ค. 68 เข้า ครม.ขออนุมัติดำเนินโครงการ ก็เข้าสู่กระบวนการประมูลก่อสร้าง และเดือน พ.ย. 68 มีการจับสลากในพื้นที่นำร่อง และมีการศึกษาดีมานด์ พื้นที่ระยะที่ 2 ที่จะเปิดและให้ผู้สนใจทยอยลงทะเบียนจะทำไปต่อเนื่อง"
ส่วนก่อนหน้านี้ที่เกิดแผ่นดินไหว จึงให้ธอส.ตรวจสอบความเห็นประชาชนอีกครั้ง ซึ่งประชาชนยังคงยืนยันเข้าร่วมโครงการ อีกทั้งในหลักการโครงการจะเพิ่มเติมสิ่งที่เกี่ยวข้องเพื่อรองรับการเกิดแผ่นดินไหวเพิ่มเติมไปด้วยซึ่งเป็นข้อดีเพราะเป็นโครงการใหม่ ทำให้ผู้อยู่อาศัยมั่นใจได้
คลังยันพร้อมจัดสินเชื่อหนุนโครงการฯ
นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาลกล่าวว่า ในส่วนของ ธอส.มีความพร้อมและมีสภาพคล่องเพียงพอ ในการจัดการสินเชื่อทั้งด้านการก่อสร้างและสินเชื่อสำหรับผู้อยู่อาศัยในโครงการ ซึ่งประเมินผู้ร่วมโครงการเฟส 1 และ 2 ประมาณ 7,000-8,000 คน
SRTA เตรียมจ้างศึกษา EIA ออกแบบรายละเอียดก่อสร้าง 4 พื้นที่
พันตำรวจเอก ศุภกร ศุภศิณเจริญ กรรมการบริษัท รักษาการในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสอาร์ที แอสเสท จำกัด (SRTA) กล่าวว่า ความร่วมมือระหว่าง SRTA และสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้การจับสลากผู้ได้รับสิทธิ์ในโครงการบ้านเพื่อคนไทย เป็นไปด้วยความโปร่งใส ตรวจสอบได้ในทุกขั้นตอน โดยสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เป็นหน่วยงานที่มีความเชี่ยว ชาญในการบริหารคัดเลือกที่มีมาตรฐานเป็นปัจจัยในการสร้างความเชื่อมั่นของผู้เข้าร่วมโครงการ โดยการจับสลาก จะมีการทำดาต้าข้อมูลผู้ผ่านคุณสมบัติ จัดกลุ่มเป็นพื้นที่ และแบ่งตามขนาดห้องลงไปอีก ซึ่งจะแจ้งขั้นตอนและวิธีการให้ทราบ
โดยขณะนี้ SRTA อยู่ระหว่างจัดทำร่าง TOR เพื่อประมูลจ้างที่ปรึกษาศึกษารายงาน EIA และ ออกแบบรายละเอียดก่อสร้าง (Detail & Design) จำนวน 8 สัญญา ใช้งบประมาณรวม 114 ล้านบาท โดยจะเปิดประมูลพื้นที่ละ 2 สัญญา คือ สัญญาจ้างศึกษา EIA และจ้างออกแบบรายละเอียด คาดว่าจะได้ตัวที่ปรึกษาในปลายเดือน มิ.ย. 2568
อย่างไรก็ตาม โครงการระยะนำร่อง จำนวน 4 โครงการ 5,700 ยูนิต ประกอบด้วย บางซื่อ กม.11 พื้นที่ประมาณ 5 ไร่ จำนวน 2,000 ยูนิต เป็นรูปแบบคอนโดมิเนียม 26 ชั้น, ธนบุรี พื้นที่ประมาณ 21 ไร่ คอนโดมิเนียม 8 ชั้น, เชียงราก พื้นที่ประมาณ 3 ไร่ คอนโดมิเนียม 8 ชั้น และพื้นที่เชียงใหม่ พื้นที่ประมาณ 7 ไร่ มีคอนโดมิเนียม 8 ชั้น และบ้านเดี่ยว จำนวน 34 หลัง
พันโท หนุน ศันสนาคม ผู้อำนายการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวว่า ตามที่สำนักงานสลากกินแบ่งฯได้เคยดำเนินการสุ่มตัวแทนสลากซึ่งมีผู้สมัครกว่า 9 แสนราย ใช้วิธีการคัดเลือกจับสลาก มีขั้นตอนที่โปร่งใส และประสบความสำเร็จ ครั้งนั้นใช้เวลา 4 ชั่วโมงแล้วเสร็จ โดยจะใช้โปรแกรมที่มีอยู่แล้ว แต่ขึ้นอยู่ที่วิธีการและขั้นตอนที่จะตกลงกับทาง SRTA และประกาศให้ประชาชนได้รับทราบ โดยจะมีการถ่ายทอดสดด้วย ดังนั้นสามารถตรวจสอบได้ย้อนหลัง แก้ไขไม่ได้ ซึ่งสำนักงานสลากฯไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับโครงการบ้านเพื่อคนไทย
ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาครัฐ อื่นๆ