นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASW เปิดเผยว่า บริษัทคาดการณ์ผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 2/2568 มีแนวโน้มทรงตัวต่อเนื่องจากงวดไตรมาส 1/2568 (QoQ) ที่ผ่านมา หนุนจาก 1.การทยอยโอนกรรมสิทธิ์คอนโดมิเนียม 2 โครงการ ประกอบด้วย "แอทโมซ พาลาซิโอ" ลาดพร้าว-วังหิน และ "แอทโมซ แคนวาส" ระยอง รวมมูลค่ากว่า 3 พันล้านบาท ทั้งยังมีโครงการคอนโดมิเนียมและแนวราบสร้างเสร็จพร้อมอยู่ ทุกระดับราคา มูลค่ารวม 9,968 ล้านบาท

    มาตรการฟื้นอสังหา

    ขณะเดียวกัน ทุกภาคส่วนร่วมกันกระตุ้นอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ โดยธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ผ่อนคลายเกณฑ์การกำกับดูแลสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยและสินเชื่ออื่นที่เกี่ยวเนื่องกับสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (เกณฑ์ LTV) ให้สามารถกู้สินเชื่อที่อยู่อาศัยได้ 100% ในทุกสัญญา ควบคู่กับการที่กรมที่ดิน ประกาศมาตรการลดค่าธรรมเนียมการโอน-จดจำนอง เหลือ 0.01% สำหรับผู้ซื้อ อสังหา หรือ ห้องชุด ราคาไม่เกิน 7 ล้านบาท รวมถึงอัตราดอกเบี้ยนโยบายอยู่ในช่วง "ขาลง" ซึ่งจะเป็นจิตวิทยากระตุ้นให้ลูกค้าที่จองซื้ออสังหาริมทรัพย์ ตัดสินใจเข้ามาทยอยโอนกรรมสิทธิ์

    "ทำเลที่ตั้งโครงการของบริษัทอยู่ในภูเก็ตราว 44% ในกรุงเทพฯราว 46% และในพื้นที่ EEC อีกราว 10% เป็นการกระจายความเสี่ยง เข้าสู่ทุกทำเลศักยภาพทั้งใกล้ชิดธรรมชาติ สะดวกสบายใกล้ห้างสรรพสินค้า สถาบันการศึกษา โดยตลอดเดือนเมษายน 2568 ที่ผ่านมาบริษัทพร้อมทีมวิศวกรเข้าตรวจสอบโครงสร้างอาคารเรียบร้อย พร้อมทยอยโอนกรรมสิทธิ์อย่างต่อเนื่อง"

    จ่อเปิดตัวโครงการ

    พร้อมกันนี้ บริษัทอยู่ระหว่างพัฒนาโครงการ เดอะ ไทเทิล เลเจนดารี บางเทา คอนโดมิเนียมระดับลักซ์ชัวรีใกล้หาดบางเทา จ.ภูเก็ต ภายใต้การพัฒนาของบริษัท ร่มโพธิ์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ TITLE บริษัทย่อยในเครือ ที่มีกำหนดทยอยโอนกรรมสิทธิ์ในงวดไตรมาส 3/2568 เป็นปัจจัยหนุนผลการดำเนินงานให้เร่งตัวขึ้นได้อย่าง ต่อเนื่อง

    อีกทั้งยังอยู่ระหว่างเตรียมเปิดตัวโครงการแนวราบ 2 โครงการ ได้แก่ โครงการดิ อาเบอร์ รามอินทรา-วัชรพล และโครงการฌาน เดอะ ริเวอร์ไซด์ บรมราชชนนี รวมถึงเตรียมเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียม "อควารัส" จอมเทียน พัทยา ในช่วงไตรมาส 4/2568

    นอกจากนี้ TITLE ยังขยายการพัฒนาเข้าสู่โครงการ Vila ในโครงการ เดอะไตเติ้ล เอสเตลลา วิลล่า ในยาง จ.ภูเก็ต ที่จะเริ่มรับรู้ส่วนแบ่งรายได้ที่ราว 30% ตั้งแต่ไตรมาส 4/2568 เช่นกัน

    จับตาทิศทางเศรษฐกิจ

    นายกรมเชษฐ์ กล่าวว่า บริษัทยังคงติดตามปัจจัยกดดันการขยายตัวของเศรษฐกิจในประเทศ และเศรษฐกิจโลกอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะแนวทางการดำเนินมาตรการตอบโต้ทางภาษีระหว่างประเทศ อัตราเงินเฟ้อ ความผันผวนของค่าเงินสกุลสำคัญทั่วโลก รวมถึงการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อของสถาบันการเงิน ฯลฯ เพื่อประกอบการปรับกลยุทธ์ให้ยืดหยุ่นสอดรับกับสถานการณ์ได้อย่างทันท่วงที

    แต่อย่างไรก็ดีบริษัทยังคงมั่นใจว่า ผลการดำเนินงานปี 2568 จะบรรลุ เป้าหมาย โดยมียอดขายที่ 19,500 ล้านบาท และรายได้ 10,500 ล้านบาท