นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง เปิดเผยภายหลังการตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายให้คณะกรรมการ (บอร์ด) และผู้บริหารธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ว่า ได้เร่งรัดให้ ธอส.ช่วยแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนของประชาชน โดยเฉพาะหนี้ค้างชำระ 1-3 เดือน หรือ SM เพื่อไม่ให้ขยับลงเป็นหนี้เสีย (NPL) ขณะที่ ธอส.ได้เจาะกลุ่มตลาดสินเชื่อบ้านระดับสูงมากกว่า 7 ล้านบาทขึ้นไป เพื่อทำให้สถาบันการเงินอื่นๆลงมาแข่งขันด้วย เนื่องจากประชาชนมีทางเลือกในการขอสินเชื่อมากขึ้น

   สำหรับสัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ของไทยปรับลดลงมาเล็กน้อย เนื่องจากมีการออกมาตรการแก้หนี้อย่างต่อเนื่อง ขณะที่ปัจจุบันกระทรวงการคลังอยู่ระหว่างปรับเกณฑ์โครงการคุณสู้เราช่วยหรือคุณสู้เราช่วย เฟส 2 โดยจะขยายเกณฑ์เพื่อให้ลูกหนี้เข้าร่วมมาตรการได้มากขึ้น เช่น มาตรการ "จ่าย ปิดจบ" จากเดิมที่กำหนดหนี้เสียไม่เกิน 5,000 บาท ปรับเป็นหนี้เสียแบบไม่มีหลักประกันภาระหนี้ไม่เกิน 10,000 บาทต่อบัญชี โดยคาดว่าจะเสนอโครงการคุณสู้เราช่วยเฟส 2 เข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ภายใน 2 สัปดาห์

   "ปัจจุบันหนี้เสียในระบบอยู่ที่ 1.22 ล้านล้านบาท โดยเป็นส่วนที่ต่ำกว่า 100,000 บาท ประมาณ 65-66% หรือคนที่เป็นเอ็นพีแอลรวมมีอยู่ 5 ล้านกว่าบัญชี เป็นหนี้ที่ต่ำกว่า 100,000 บาท ประมาณ 3 ล้านบัญชี ดังนั้น ถ้าแก้หนี้ต่ำกว่า 100,000 บาท ได้หนี้ส่วนนี้ก็จะลดลง นอกจากนี้ยังอยู่ระหว่างหาแนวทางที่ทำให้ลูกหนี้ที่หลุดจากการเป็นหนี้เสียแล้วหลุดจากประวัติของเครดิตบูโรด้วยเพื่อให้สามารถเข้าถึงสินเชื่อใหม่ ได้และหารือกับสถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคาร (นอน-แบงก์) เพื่อให้ร่วมทำมาตรการแก้หนี้และลดหนี้ครัวเรือนด้วย"