กวาดยอดขายมูลค่ารวมกว่า 3 พันล้านบาท

    นายณัฐวุฒิ มัธยมจันทร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการพัฒนาธุรกิจพักอาศัย บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ S เปิดเผยว่า ล่าสุดบริษัทได้ปิดการขาย 2 โครงการ รวมมูลค่าโครงการกว่า 3,000 ล้านบาท ซึ่งได้รับความสนใจและประสบ ความสำเร็จในช่วงเดือนมิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา ได้แก่ โครงการ ศิรนินทร์ เรสซิเดนเซส พัฒนาการ เป็นโครงการ บ้านเดี่ยว 2 ชั้น จำนวน 28 ยูนิต และ โครงการ เซนท์เทอร์ พัฒนาการ เป็นโครงการพรีเมียมลักชูรีโฮมออฟฟิศสไตล์ โมเดิร์น 3 ชั้นครึ่ง จำนวน 4 ยูนิต

    สำหรับความสำเร็จของโครงการ ศิรนินทร์ เรสซิเดนเซส พัฒนาการ และ โครงการ เซนท์เทอร์ พัฒนาการ ตอกย้ำความเชื่อมั่นของลูกค้าที่มีต่อคุณภาพงานออกแบบและมาตรฐานการพัฒนาโครงการภายใต้แนวคิด Craft to Last ของกลุ่มสิงห์ เอสเตท

    "เราเชื่อว่าการอยู่อาศัยที่ดีไม่ได้เป็นเพียงที่พักอาศัย แต่ต้องส่งมอบคุณค่าประสบการณ์ และความสุขที่ยั่งยืนให้กับทุกคนในครอบครัว เราพร้อมเดินหน้าอย่างมั่นคงในการพัฒนาโครงการที่สะท้อนอัตลักษณ์แห่งความลักซูรีอย่างยั่งยืน ที่ส่งต่อความสุขและคุณค่าที่แท้จริงให้กับสังคมและทุกครอบครัว" นายณัฐวุฒิ กล่าว

     นอกจากนี้ สิงห์ เอสเตท ยังมีโครงการอสังหาริมทรัพย์อื่น ๆ ที่ตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพ รวมมูลค่าโครงการกว่า 24,000 ล้านบาท ได้แก่ โครงการ สมิทธ์ เกษตร-นวมินทร์ มูลค่าโครงการกว่า 1,300 ล้านบาท, โครงการ สมิทธ์ รามอินทรา มูลค่าโครงการกว่า 500 ล้านบาท, โครงการ สริน ราชพฤกษ์- สาย 1 มูลค่าโครงการกว่า 3,600 ล้านบาท

    ขณะเดียวกันยังมีโครงการ ฌอน ปัญญาอินทรา มูลค่าโครงการกว่า 1,800 ล้านบาท, โครงการ ฌอน วงแหวน- จตุโชติ มูลค่าโครงการกว่า 2,800 ล้านบาท, โครงการ ดิ เอส สุขุมวิท 36 มูลค่า โครงการกว่า 5,900 ล้านบาท และโครงการ ดิ เอ็กซ์โทร พญาไท-รางน่า มูลค่าโครงการกว่า 4,000 ล้านบาท

    ทั้งนี้ ล่าสุดมีโครงการบ้านเดี่ยวระดับพรีเมียมลักชูรีใหม่ ภายใต้ชื่อโครงการสริน พรานนก-กาญจนา มูลค่าโครงการรวมกว่า 4,300 ล้านบาท ซึ่งโดดเด่นด้วยการออกแบบพื้นที่ใช้สอยให้เชื่อมต่อกันอย่างโปร่งสบาย พร้อมมุมพักผ่อนกลางแจ้งที่รองรับไลฟ์สไตล์ของครอบครัวใหญ่ หลายเจเนอเรชัน ด้วยแนวคิด "Universal Design" ที่ใส่ใจในทุกรายละเอียดของทุกช่วงวัย ตอบโจทย์ทั้งฟังก์ชันการอยู่อาศัยร่วมกันได้อย่างลงตัว

    "ความสำเร็จจากการปิดการขายในครั้งนี้ คือบทพิสูจน์ถึงความไว้วางใจที่ลูกค้ามีต่อกลุ่มสิงห์ เอสเตท ในฐานะผู้พัฒนาและลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ระดับนานาชาติที่ไม่เพียงคำนึงถึงดีไซน์และฟังก์ชัน แต่ยังใส่ใจในทุกมิติของการใช้ชีวิต เพื่อส่งต่อคุณค่าแห่งการอยู่อาศัยที่ยั่งยืนจากรุ่นสู่รุ่น" นายณัฐวุฒิ กล่าว