นายชาคริต ทีปกรสุขเกษม กรรมการผู้จัดการ บริษัทซี แพนเนล จำกัด (มหาชน) หรือ CPANEL ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์แผ่นคอนกรีตสำเร็จรูป เปิดเผยว่า ทิศทางการรับรู้รายได้ช่วงครึ่งปีหลัง 2568 มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องจากครึ่งปีแรกเชื่อว่า ผ่านจุดต่ำสุดในแง่ผลการดำเนินงานไปแล้ว ภายใต้ปัจจัยความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ

   งานในมือเพียบ

    ทั้งนี้ บริษัทมีการแสวงหางานตลาดใหม่ เพิ่มเติม ปัจจุบันบริษัทมีมูลค่างานในมือ (Backlog) อยู่ที่ 1,311.36 ล้านบาท แบ่งเป็นงานภาครัฐ 50% และภาคเอกชน 50% และมั่นใจจะมีการส่งมอบงานโครงการประเภทอาคารที่อยู่อาศัยและสำนักงานของกลุ่มลูกค้าภาครัฐได้ต่อเนื่อง

    โดยยังคงมุ่งเน้นการขยายฐานลูกค้าภาครัฐและเอกชนให้หลากหลาย โครงการภาครัฐ อาทิ อาคารที่พักอาศัยข้าราชการ สถานศึกษา และ โรงพยาบาล ภาคเอกชน อาทิ กลุ่มธุรกิจท่องเที่ยว -บริการ ค้าปลีก และโครงการที่พักอาศัยแนวราบ ลักซ์ชัวรีขนาดกลาง ที่สามารถรับรู้รายได้เร็ว อีกทั้งให้ความสำคัญกับการรักษาฐานลูกค้าเดิมในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ด้วยการสร้างความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่ง และส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพอย่างต่อเนื่อง

    สำหรับการขยายฐานลูกค้าดังกล่าว จะส่งผลให้บริษัทสามารถรับรู้รายได้อย่างสม่ำเสมอ เพิ่มความสามารถทำกำไรให้กลับมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ และบริษัทยังให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการต้นทุนการดำเนินงานทุกด้านอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อคงฐานะการเงินที่แข็งแรงของกิจการ

   โอกาสรับงานรัฐ

    จากข้อมูลการใช้จ่ายภาครัฐคิดเป็น 23% ของ GDP ทำให้บริษัทเล็งเห็นว่าแม้อนาคต งานก่อสร้างอสังหาริมทรัพย์เอกชนขนาดใหญ่น่าจะยังไม่ฟื้นกลับมาเร็ว แต่งานภาครัฐบาลที่จำเป็นต้องกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศจะเข้ามาทดแทนได้อย่างดีมาก ซึ่งงานก่อสร้างภาครัฐบาลเริ่มมีความต้องการมากขึ้นในผลิตภัณฑ์ Precast Concrete ที่มีมาตรฐาน คุณภาพสูง และทนทานต่อแรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหว

    สอดคล้องเป็นจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ CPANEL ที่ผลิตด้วยระบบอัตโนมัติ Fully Automated Precast ช่วยลดข้อผิดพลาดและควบคุมต้นทุนการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถส่งมอบผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงได้ตามมาตรฐาน ในราคาที่แข่งขันได้ ทำให้มั่นใจว่าจะสามารถคว้างานโครงการภาครัฐขนาดกลางและขนาดใหญ่เข้ามาเพิ่มได้อีก จะช่วยสนับให้รายได้ทยอยปรับตัวดีขึ้นในทุกไตรมาสต่อจากนี้

    "ปีก่อนๆ เรียกได้ว่าบริษัทไม่เคยรับงานภาครัฐ และเริ่มรับงานภาครัฐอย่างจริงจังในปีนี้ Backlog ของบริษัทจึงงบประมาณภาครัฐที่ได้รับการอนุมัติ ส่วนงานภาคเอกชนส่วนใหญ่มีการเลื่อนกำหนดการออกไปแต่ไม่ได้ยกเลิก จึงยังน่าจะเป็นฐานรายได้เข้ามาอยู่ และในเอกชนเองก็กลุ่มตลาดใหม่ๆ เช่น Home Builder เพิ่มเข้ามาด้วย"

    จับตาผลงานโต

    อนึ่งก่อนหน้านี้ บริษัทตั้งเป้าหมายจะสามารถพลิกกลับมามีกำไรได้ในไตรมาส 2/2568 จากการปรับกลยุทธ์โดยมุ่งเน้นการขยายฐานลูกค้าภาครัฐบาล หลังจากที่ไตรมาสแรกงบการเงินรายงานขาดทุน 15.26 ล้านบาท และต้นปีที่ผ่านมาบริษัทเคยตั้งเป้าหมาย รายได้ปี 2568 ขยายตัว 100% จากปี 2567 ที่เคยทำได้ 251.23 ล้านบาท อย่างไรก็ตามล่าสุดผู้บริหารยอมรับว่าอาจพิจารณาทบทวนเป้าหมายการเติบโตให้สอดคล้องสภาพเศรษฐกิจขณะนี้

    พร้อมกันนี้ CPANEL ยังเป็นบริษัทจดทะเบียนที่เข้าร่วมการดำเนินงานโครงการ JUMP+ นับแต่วันที่ 10 กรกฎาคม 2568 ที่ผ่านมา และมุ่งหวังการเติบโตเชิงคุณภาพอย่างก้าวกระโดด