นายสาธิต สุดบรรทัด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ผลิตภัณฑ์ตราเพชร จำกัด (มหาชน) หรือ DRT เปิดเผยว่า บริษัทมีแนวทางจะหันมามุ่งให้ความสำคัญกับการขยายฐานลูกค้าในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ให้มากขึ้น หลังช่วงที่ผ่านมาทางธนาคารแห่งประเทศได้มีการผ่อนคลายเกณฑ์การกำกับดูแลสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยและสินเชื่ออื่นที่เกี่ยวเนื่องกับสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (LTV) ซึ่งมี ผลต่อเนื่องจนถึง 30 มิถุนายน 2569 ซึ่งหากทุกอย่างเป็นไปตามที่วางไว้คงช่วยผลักดันให้รายได้จากลูกค้ากลุ่มดังกล่าวขยายตัว จากเดิมที่สัดส่วนรายได้จากกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ราว 10%

    ลุยอัพฐานอาเซียน

    ขณะที่กลยุทธ์การดำเนินธุรกิจครึ่งหลังปีนี้ทาง DRT จะรุกขยายการส่งออกสินค้าอย่างต่อเนื่อง หลังจากสร้างการเติบโตได้ดีในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา โดยจะมุ่งเพิ่มยอดขายในภูมิภาคอาเซียนซึ่งเป็นตลาดหลักที่มีศักยภาพและเศรษฐกิจยังมีแนวโน้มเติบโตได้ดี อาทิ สปป.ลาว, ฟิลิปปินส์, เวียดนาม ฯลฯ ซึ่งนอกจากสินค้ากลุ่มไม้สังเคราะห์และกระเบื้องหลังคาที่มียอดขายอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา

    ดังนั้นบริษัทจึงวางแผนนำเสนอสินค้ากลุ่มอิฐมวลเบาและสินค้าใหม่กลุ่มแผ่นพื้น SPC ที่มีจุดเด่นด้านดีไซน์ที่สวยงาม ติดตั้งรวดเร็ว และแข็งแรงทนทาน เพื่อขยายตลาดไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เช่น สปป.ลาว

    ขณะเดียวกันจะมุ่งขยายตลาดใหม่ภายในประเทศ อาทิ งานราชการ, โรงเรียน, โรงพยาบาล, วัด, รีสอร์ต ฯลฯ การเพิ่มยอดขายผ่านช่องทางอีคอมเมิร์ซการขยายตลาดไปยังจังหวัดหัวเมืองรองให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น การทำกิจกรรมร่วมกับร้านค้าช่วงและกลุ่มผู้รับเหมาก่อสร้าง รวมถึงการทำตลาดเชิงรุกเพื่อเข้าถึงฐานลูกค้าใหม่

    ร่วมพาร์ตเนอร์ต่อยอด

    นายสาธิต กล่าวเสริมว่า ไม่เพียงเท่านั้นบริษัทได้ร่วมมือกับพาร์ตเนอร์เตรียมความพร้อมด้านสินค้าและบริการผ่าน นวัตกรรมกระเบื้องหลังคาดีไซน์พิเศษพร้อมอุปกรณ์ตัวยึดติดตั้งแผง โซลาร์เซลล์ และกระเบื้องร้อยสายไฟ โซลาร์เซลล์ รองรับทั้งการติดตั้งหลังคาใหม่และงานปรับปรุงซ่อมแซม ช่วยแก้ปัญหารั่วซึม ติดตั้งรวดเร็ว

    ปัจจุบันสามารถให้บริการทั่วทุกภาคและติดต่อผ่านร้านค้าผู้แทนจำหน่ายทั่วประเทศ เพื่อตอบสนองความต้องการติดตั้ง Solar Rooftop สำหรับบ้านอยู่อาศัยที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น หลังจากเมื่อเร็วๆ นี้ รัฐบาลได้ออกมาตรการส่งเสริมการติดตั้ง Solar Rooftop บ้านอยู่อาศัย สามารถนำมาหักลดหย่อนภาษีสูงสุด 200,000 บาท ล่าสุดได้ผ่านการพิจารณาอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) แล้ว

    ดังนั้น เชื่อว่าบริษัทสามารถเอาชนะความท้าทายและผลักดันยอดขายรวมถึงอัตรากำไรขั้นต้นที่ดีขึ้นในครึ่งปีหลัง และเป็นหุ้นที่ให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลที่ดีแก่ผู้ถือหุ้นต่อไป

    จ่อเปิดโรงงานอิฐมวลเบา Q3

    ด้านโรงงานอิฐมวลเบาแห่งใหม่ ACC-2 จังหวัดสระบุรี นั้นถือว่าคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันติดตั้งเครื่องจักรแล้วเสร็จและอยู่ระหว่างทดสอบการผลิต ซึ่งจะทำให้บริษัทมีความพร้อม ด้านการผลิตสินค้าได้ทันกับความต้องการ มีต้นทุนการผลิตต่อหน่วยลดลงและลดการสูญเสียในกระบวนการผลิตได้ดียิ่งขึ้น โดยโรงงานอิฐมวลเบา ACC-2 จะเพิ่มโอกาสขยายตลาดงานโครงการภาครัฐจากการผลิตสินค้าได้หลากหลายยิ่งขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการ จากโครงการก่อสร้างภาครัฐและภาคเอกชน

    ทั้งนี้ หากโรงงานดังกล่าวมีเปิดผลิตเชิงพาณิย์ได้เต็มกำลังการผลิตแล้วจะส่งผลให้ DRT มีกำลังการผลิตอิฐมวลเบารวมเพิ่มขึ้นเป็น 8.7 ล้านตารางเมตรต่อปี อีกทั้งโรงงานดังกล่าวใช้เทคโนโลยีการผลิต The Green Cake Separating Technology โดยจะแยกอิฐมวลเบาก่อนเข้ากระบวนการอบ ช่วยลดการใช้พลังงานในกระบวนการผลิตและเป็นโรงงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มีระบบดักฝุ่น หมุนเวียนไอน้ำและไอร้อน กลับมาใช้ การนำน้ำกลับมาใช้ในกระบวนการผลิ