นางสาวกวิตา ม้าชัย นักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2568 จะเติบโตกว่าครึ่งปีแรก ซึ่งในไตรมาส 4 จะเป็นไตรมาสที่มีรายได้สูงสุดของปี โดยคาดว่ารายได้จะเติบโตระดับ Double Digit (ตัวเลขสองหลัก) จากช่วงครึ่งปีแรก  คาดว่ากลุ่มธุรกิจศูนย์การค้าจะเติบโตในอัตราเลขตัวเดียวระดับกลาง (Mid-single digit growth) จากครึ่งปีแรกที่มีรายได้ 21,516 ล้านบาท ซึ่งจะมาจากศูนย์การค้าเดิมที่ยังเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ขณะเดียวกันจะมีการเปิดให้บริการศูนย์การค้าใหม่เพิ่ม ทำให้พื้นที่เช้าเพิ่มขึ้น

    ขณะที่กลุ่มธุรกิจโรงแรม ในช่วงครึ่งปีหลังคาดว่าจะเติบโตในอัตราเลขตัวเดียวระดับกลางจากช่วงครึ่งปีแรกที่มีรายได้ 970 ล้านบาท ส่วนกลุ่มธุรกิจที่อยู่อาศัยคาดว่าจะเติบโต 190% จากช่วงครึ่งปีแรกที่มีรายได้ 1,095 ล้านบาท โดย ณ สิ้นไตรมาส 2/2568 บริษัทมียอดขายรอโอน (Backlog) มูลค่ารวม 6,324 ล้านบาท จะทยอยรับรู้ในช่วงครึ่งปีหลังประมาณ 1,741 ล้านบาท คิดเป็น 28% ของ Backlog ทั้งหมด และส่วนที่เหลือจะรับรู้ถึงปี 2570

    นอกจากนี้ ในช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทยังมีแผนเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยใหม่ มูลค่าโครงการรวม 12,000 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนรายได้มาจากกลุ่มธุรกิจเช่าและบริการ (ศูนย์การค้า) ที่ 94%, กลุ่มธุรกิจโรงแรมที่ 4% และกลุ่มธุรกิจที่อยู่อาศัยที่ 2% ของรายได้รวม

    ส่วนในวันที่ 4 กันยายนนี้ CPN จะเปิดให้บริการ “เซ็นทรัล พาร์ค” ศูนย์การค้าและอาคารสำนักงานแห่งใหม่ โดยจะเป็นแลนด์มาร์กที่ดีที่สุดใจกลางกรุงเทพฯ ดึงดูดทราฟฟิกและรายได้มหาศาล พร้อมอาคารสำนักงานที่มอบประสบการณ์การใช้ชีวิตและการทำงานรูปแบบใหม่ ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมืองทุกมิติ ซึ่งปัจจุบันเริ่มมีผู้เช่าทยอยเข้าพื้นที่แล้ว แต่จะเห็นมากขึ้นในปี 2569 และในวันที่ 24 ตุลาคม เตรียมเปิดตัวศูนย์การค้า “เซ็นทรัล กระบี่” ศูนย์การค้าลำดับที่ 44 ของ CPN เป็นโครงการมิกซ์ยูสแห่งดียวในจังหวัดกระบี่ นอกจากนี้ ช่วงไตรมาส 3 และ 4 ปี 2568 บริษัทเตรียมเผยโฉมใหม่เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า หลังประกาศ Transformation ต้อนรับแบรนด์ดังเต็มพื้นที่ ดึงดูดทราฟฟิกมหาศาล รวมทั้งเซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ ที่ทราฟฟิกโตต่อเนื่องจากกลุ่มลูกค้ากำลังซื้อสูงในย่าน

    ด้านผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2568 บริษัทมีกำไรสุทธิ 4,304.93 ล้านบาท ลดลง 6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 4,555.79 ล้านบาท และมีรายได้รวม 12,147 ล้านบาท ลดลง 10% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 13,483 ล้านบาท  ส่งผลงวดครึ่งปีแรกของปี 2568 บริษัทมีกำไรสุทธิ 8,532.14 ล้านบาท ลดลง 2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 8,709.96 ล้านบาท และมีรายได้รวม 24,308 ล้านบาท ลดลง 5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 25,717 ล้านบาท เนื่องจากรายได้ธุรกิจโรงแรม การขายอสังหาริมทรัพย์ และรายได้อื่น ๆ ลดลง ซึ่งโดยหลักเป็นผลกระทบทางบัญชีจากอัตราแลกเปลี่ยนของการดําเนินงานในต่างประเทศและการลงทุนอื่น ๆ ของบริษัทลดลง