นายจตุภัทร์ ตั้งคารวคุณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ TOA ผู้ประกอบการธุรกิจผลิต จำหน่ายผลิตภัณฑ์สีทาอาคาร ผลิตภัณฑ์สี สารเคลือบผิว และผลิตภัณฑ์ประเภทอื่นที่เกี่ยวเนื่อง เปิดเผยกับ "ทันหุ้น" ว่า ประเมินช่วงที่เหลือของ ปี 2568 รายได้ของบริษัทในปีนี้ยังน่าทรงตัว หรือใกล้เคียงกับทั้งปีที่ผ่านมา เนื่องจากยังไม่มีสัญญาณใดในอุตสาหกรรมสีทาอาคารบ่งชี้ชัดถึงการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกอย่างมีนัยสำคัญ

    สินค้าใหม่

    อย่างไรก็ตาม 1 ในกลยุทธ์ที่บริษัทดำเนินการรับมือ คือการพัฒนาสินค้าคุณภาพสูงใหม่ๆ ที่ ตอบโจทย์ตลาดให้หลากหลายมากขึ้น ที่ผ่านมาบริษัทเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่คือ สีทาอาคารซีรีส์ 2-in-1 แพ็กพิเศษ ที่ให้ประสบการณ์ทั้งแง่ความสะดวกและความทนทานที่เหนือกว่า ในระยะแรกนี้สินค้าซีรีส์ 2-in-1 มียอดขายได้แล้วเกิน 100 ล้านบาท และคาดหวังจะสูงขึ้นกว่านี้ได้ พบผู้ใช้ที่เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่มักให้โอกาสเปิดใจเลือกทดลองใช้โดยมีผลตอบรับที่ดี และอนาคตกลุ่มคนอื่นๆ น่าจะตัดสินใจ ใช้ตามไปด้วย

    อีกทั้งบริษัทยังเพิ่งเปิดตัวผลิตภัณฑ์ปูนอันเดอร์เลย์ และ ปูน 2-in-1 โดยตลาดปูนถือว่ามีโอกาสที่น่าสนใจแต่ในเบื่องต้นสำหรับปูนอันเดอร์เลย์เพิ่งวางตลาดไปไม่กี่วันจึงยังเร็วเกินไปที่จะประเมินผลตอบรับในขณะนี้

    มุ่งบริหารต้นทุน

    ด้านการบริหารต้นทุนบริษัทสามารถทำได้รัดกุม และในปีนี้ยังมีปัจจัยบวกเสริมที่จะผลักดันให้อัตรากำไรสูงขึ้นกว่าปกติ ได้แก่ เงินบาทที่แข็งค่ามาก ผนวกกับราคาน้ำมันปรับตัวลดลงมากเช่นกัน และยังมีแนวโน้มน่าจะลดลงอีก ซึ่งราคาวัตถุดิบปิโตรเคมีผลิตภัณฑ์สีมีความสัมพันธ์ตรงกับราคาน้ำมัน แต่โอกาสที่กำไรบรรทัดสุดท้ายจะเพิ่มขึ้นมากอย่างเต็มที่ อาจเป็นไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ เนื่องจากสต๊อกสินค้า ที่พอมีอยู่ผลิตจากวัตถุดิบในต้นทุนราคาเดิมอยู่

    นายจตุภัทร์ เคยประเมินก่อนหลังงบไตรมาส 2/2568 ประกาศว่า แนวโน้มราคาปิโตรเคมีจะยังคงอยู่ในระดับต่ำอีกนับปี เนื่องจากซัพพลายในตลาดโลกยังพร้อมที่จะทยอยออกมาอย่างต่อเนื่อง

    คนละครึ่งดันศก.

    ส่วนการมีนายกรัฐมนตรีคนใหม่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล และคณะทำงานรัฐบาลใหม่ที่กำลังจัดตั้ง อย่างรวดเร็ว ถือเป็นสิ่งที่ดีช่วยให้ภาคส่วนต่างๆ มองเห็นภาพต่างๆ ที่น่าจะมีผลต่อเศรษฐกิจได้ชัดเจน โดยไว ซึ่งรวมถึงการขับเคลื่อนนโยบายต่างๆ น่าเป็นไปได้อย่างรวดเร็วด้วย

    โดยแม้ขณะนี้ จะยังไม่เห็นภาพนโยบายรัฐบาลใหม่ที่ชัดเจน แต่คาดว่าโครงการ "คนละครึ่ง" ที่มีความพยายามจะรื้อฟื้นกลับมาใหม่น่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้

    กรอสมาร์จิ้นครึ่งหลังสูง

    ด้านบริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ระบุว่า TOA แม้รายได้จะประคองตัว แต่ยังทำได้ดีกว่าภาพรวมอสังหาริมทรัพย์ ต้นทุนวัตถุดิบปรับลงยังอยู่ในจุดที่เอื้อประโยชน์มาก คาดอัตรากำไรขั้นต้น (กรอสมาร์จิ้น) ช่วงครึ่งปีหลังนี้ ยังเป็นระดับสูงในรอบ 9 ปี ประเมินกำไรทั้งไตรมาส 3 และ 4 ปีนี้ เติบโตกว่าช่วงเดียวกันปีก่อนทุกไตรมาส คาดกำไรปกติปี 2568 อยู่ที่ 2.7 พันล้านบาท เพิ่ม 17% แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมายพื้นฐาน 19.80 บาท

    ส่วนบริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด มอง แนวโน้มกำไรจะยังคงแข็งแกร่งในครึ่งปีหลัง 2568 เพิ่มขึ้นเทียบช่วงเดียวกันปีก่อน แต่ลดลงจากครึ่งปีแรกเนื่องจากปัจจัยฤดูกาลและเม็ดเงินโฆษณาที่มากขึ้น ทั้งนี้ TOA น่าจะมีกำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ในปี 2568 แม้ว่ายอดขายจะทรงตัวก็ตาม แนะนำ "ซื้อ" มูลค่าที่เหมาะสม 19.30 บาท