BCจ่อผุดรร.หรู4พันล.ปรับโมเดลรุกที่ปรึกษา
วันที่ : 2 ตุลาคม 2568
แชร์ :
BC แย้มแผนลงทุนโรงแรมหรูภูเก็ต 4 พันล้านบาท คาดสร้างเสร็จปลายปี 2570 พร้อมเปลี่ยนโครงสร้างรายได้เน้น สร้าง-บริหาร-ขายทิ้ง ปรับเพิ่มมี Static สร้างรายได้ระยะยาว นั่งที่ปรึกษารับจ้างบริหารเชนระดับโลก ส่งซิกผลงานฟื้นรับไฮซีซัน
นายชูรัช รุ่งทวีวุฒิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน บริษัท บูทิค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BC เปิดเผยว่า ยอมรับภาพรวมธุรกิจโรงแรมปีนี้ท้าทายที่มากกว่าในอดีต ลูกค้าต่างชาติหายไปบางส่วนเพราะจำนวนนักท่องเที่ยวลดลงโดยเฉพาะชาวจีน และเกิดภาวะการแข่งขันด้าน ราคาของในโรงแรมหรู (Luxury Hotel) หลายแห่ง
รับไฮซีซันปลายปี
อย่างไรก็ตาม บริษัทยังสามารถประคองการเติบโตได้ดีกว่าอุตสาหกรรม ภาพรวมผลประกอบการของพอร์ตโฟลิโอตั้งแต่ต้นปี (Year to Date) ยังคงขยายตัวประมาณ 10-15% ส่วนไตรมาส 3/2568 ถือเป็นช่วงโลว์ซีซัน (Low Season) ตามปกติ บริษัทจึงมองหากลุ่มลูกค้าใหม่ ที่ได้รับผลกระทบน้อยมาทดแทนชาวจีนที่น้อยลง กว่า อาทิ กลุ่มอินเดีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) และกลุ่มยุโรป นอกจากนี้ยังมุ่งเน้นกลุ่มคนไทยที่ท่องเที่ยวในประเทศมากขึ้น
ส่วนไตรมาส 4/2568 คาดผลประกอบการ จะฟื้นตัวดีไปเทียบเท่าไตรมาสแรกที่ผ่านมา ด้วยปัจจัยเข้าช่วงไฮซีซัน (High Season)
อีกกลยุทธ์ในแง่การขายคือ ลดการพึ่งพาช่องทางตัวแทนออนไลน์ (OTA) เพื่อหลีกเลี่ยงค่าคอมมิสชันอัตราสูง โดยเพิ่มช่องทางการขายผ่านของโรงแรมเอง และเน้นการขายให้กับกลุ่มลูกค้า (Group) และลูกค้ารายบุคคลโดยตรง ซึ่งบางกลุ่มมีการชำระเงินล่วงหน้า (Pre-Paid) หรือจ่ายเงินมัดจำ (Deposit) ทำให้บริษัทมีฐานรายได้ ที่ไว้วางใจได้มากกว่าประกอบกับได้อัตรากำไร ต่อคนเพิ่มขึ้น และเชื่อว่าส่งผลให้ทั้งปี 2568 รายได้เติบโตได้จากปีก่อนอยู่ที่ 503.75 ล้านบาท
ปรับโครงสร้างธุรกิจ
อย่างไรก็ตาม บริษัทยังอยู่ระหว่างปรับโครงสร้างการหารายได้ธุรกิจ จากปัจจุบันเป็นธุรกิจพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ในรูปแบบสร้าง-ดำเนินงาน-ขาย หรือ BOS อสังหาริมทรัพย์ประเภท โรงแรม เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ ศูนย์การค้า และอาคารสำนักงานให้เช่า รวมถึงมีการให้บริการด้านบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์
สำหรับในระยะยาวโครงสร้างรายได้จะแยกเป็น 2 กลุ่มที่สมดุลกันคือ 1.BOS และ 2. Static หมายถึงโรงแรมที่สร้างรายได้ระยะยาว เพิ่มธุรกิจร้านอาหาร รวมถึงการเป็นที่ปรึกษาและรับจ้างบริหาร หรือ Service Agency ในนามเครือโรงแรมชั้นนำระดับโลก เฉพาะงาน Service Agency ปีนี้ฐานรายได้ยังน้อยในระดับไม่มีนัย และคาดหวังปี 2569 จะมีรายได้เพิ่มเป็นสัดส่วน 3-5% ของรายได้รวม
ปัจจุบันบริษัทบรรลุดีลกับ Accor รับสิทธิ์ที่จะให้บริการกับโรงแรมบุคคลที่สามในลักษณะให้คำปรึกษาแก่ลูกค้าที่มีที่ดินและเงินทุนแต่ขาดความรู้ในการสร้างโรงแรม ครอบคลุมตั้งแต่การ วางแผน (Timing), การเลือกผู้รับเหมา, การเลือก แบรนด์โรงแรม, และทำหน้าที่เป็นตัวแทนโรงแรม (Hotel Representative) โดยรับค่าที่ปรึกษาล่วงหน้า (Front End) และรายได้เป็นรายเดือน
แผนลงทุนยักษ์
ด้านแผนลงทุนอยู่ระหว่างดำเนินการใน 3 พื้นที่ 3 โรงแรม จำแนกเป็นที่ถนนสุขุมวิท (กรุงเทพฯ) 2 แห่งทั้งปรับปรุงและสร้างเพิ่มด้วยวงเงินกู้ราว 600 ล้านบาท และที่จังหวัดภูเก็ต 1 แห่ง ซึ่งเป็นโครงการขนาดใหญ่มูลค่ากว่า 4,000 ล้านบาท โดยซื้อที่ดินและลงนามสัญญากับพันธมิตรทางธุรกิจไปแล้ว เบื้องต้นโครงการนี้ คาดว่าจะก่อสร้างเสร็จและเปิดดำเนินการในช่วงปลายปี 2570 หรือต้นปี 2571
อนึ่ง โครงการนี้จะเป็นการลงทุนเอง 100% และจะเป็นโครงการแรกที่บริษัทบริหารจัดการเองภายใต้สัญญา HMA (Hotel Management Agreement)
รับไฮซีซันปลายปี
อย่างไรก็ตาม บริษัทยังสามารถประคองการเติบโตได้ดีกว่าอุตสาหกรรม ภาพรวมผลประกอบการของพอร์ตโฟลิโอตั้งแต่ต้นปี (Year to Date) ยังคงขยายตัวประมาณ 10-15% ส่วนไตรมาส 3/2568 ถือเป็นช่วงโลว์ซีซัน (Low Season) ตามปกติ บริษัทจึงมองหากลุ่มลูกค้าใหม่ ที่ได้รับผลกระทบน้อยมาทดแทนชาวจีนที่น้อยลง กว่า อาทิ กลุ่มอินเดีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) และกลุ่มยุโรป นอกจากนี้ยังมุ่งเน้นกลุ่มคนไทยที่ท่องเที่ยวในประเทศมากขึ้น
ส่วนไตรมาส 4/2568 คาดผลประกอบการ จะฟื้นตัวดีไปเทียบเท่าไตรมาสแรกที่ผ่านมา ด้วยปัจจัยเข้าช่วงไฮซีซัน (High Season)
อีกกลยุทธ์ในแง่การขายคือ ลดการพึ่งพาช่องทางตัวแทนออนไลน์ (OTA) เพื่อหลีกเลี่ยงค่าคอมมิสชันอัตราสูง โดยเพิ่มช่องทางการขายผ่านของโรงแรมเอง และเน้นการขายให้กับกลุ่มลูกค้า (Group) และลูกค้ารายบุคคลโดยตรง ซึ่งบางกลุ่มมีการชำระเงินล่วงหน้า (Pre-Paid) หรือจ่ายเงินมัดจำ (Deposit) ทำให้บริษัทมีฐานรายได้ ที่ไว้วางใจได้มากกว่าประกอบกับได้อัตรากำไร ต่อคนเพิ่มขึ้น และเชื่อว่าส่งผลให้ทั้งปี 2568 รายได้เติบโตได้จากปีก่อนอยู่ที่ 503.75 ล้านบาท
ปรับโครงสร้างธุรกิจ
อย่างไรก็ตาม บริษัทยังอยู่ระหว่างปรับโครงสร้างการหารายได้ธุรกิจ จากปัจจุบันเป็นธุรกิจพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ในรูปแบบสร้าง-ดำเนินงาน-ขาย หรือ BOS อสังหาริมทรัพย์ประเภท โรงแรม เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ ศูนย์การค้า และอาคารสำนักงานให้เช่า รวมถึงมีการให้บริการด้านบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์
สำหรับในระยะยาวโครงสร้างรายได้จะแยกเป็น 2 กลุ่มที่สมดุลกันคือ 1.BOS และ 2. Static หมายถึงโรงแรมที่สร้างรายได้ระยะยาว เพิ่มธุรกิจร้านอาหาร รวมถึงการเป็นที่ปรึกษาและรับจ้างบริหาร หรือ Service Agency ในนามเครือโรงแรมชั้นนำระดับโลก เฉพาะงาน Service Agency ปีนี้ฐานรายได้ยังน้อยในระดับไม่มีนัย และคาดหวังปี 2569 จะมีรายได้เพิ่มเป็นสัดส่วน 3-5% ของรายได้รวม
ปัจจุบันบริษัทบรรลุดีลกับ Accor รับสิทธิ์ที่จะให้บริการกับโรงแรมบุคคลที่สามในลักษณะให้คำปรึกษาแก่ลูกค้าที่มีที่ดินและเงินทุนแต่ขาดความรู้ในการสร้างโรงแรม ครอบคลุมตั้งแต่การ วางแผน (Timing), การเลือกผู้รับเหมา, การเลือก แบรนด์โรงแรม, และทำหน้าที่เป็นตัวแทนโรงแรม (Hotel Representative) โดยรับค่าที่ปรึกษาล่วงหน้า (Front End) และรายได้เป็นรายเดือน
แผนลงทุนยักษ์
ด้านแผนลงทุนอยู่ระหว่างดำเนินการใน 3 พื้นที่ 3 โรงแรม จำแนกเป็นที่ถนนสุขุมวิท (กรุงเทพฯ) 2 แห่งทั้งปรับปรุงและสร้างเพิ่มด้วยวงเงินกู้ราว 600 ล้านบาท และที่จังหวัดภูเก็ต 1 แห่ง ซึ่งเป็นโครงการขนาดใหญ่มูลค่ากว่า 4,000 ล้านบาท โดยซื้อที่ดินและลงนามสัญญากับพันธมิตรทางธุรกิจไปแล้ว เบื้องต้นโครงการนี้ คาดว่าจะก่อสร้างเสร็จและเปิดดำเนินการในช่วงปลายปี 2570 หรือต้นปี 2571
อนึ่ง โครงการนี้จะเป็นการลงทุนเอง 100% และจะเป็นโครงการแรกที่บริษัทบริหารจัดการเองภายใต้สัญญา HMA (Hotel Management Agreement)
ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ