วันที่ 10 พฤศจิกายน ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) รายงานดัชนีราคาที่ดินเปล่าก่อนการพัฒนา ในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ไตรมาส 3 ปี 2568 พบว่ามีค่าดัชนีเท่ากับ 447.2 จุด เพิ่มขึ้น 7.7% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนและเพิ่มขึ้น 14.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นการขยายตัวมากกว่า 10% เป็นครั้งแรกในรอบ 10 ไตรมาส นับตั้งแต่ไตรมาส 1/2566 สะท้อนราคาที่ดินเปล่าก่อนการพัฒนายังคงมีทิศทางที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะทำเลแนวรถไฟฟ้าและพื้นที่ที่มีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน

   โดยทำเลราคาที่ดินเพิ่มขึ้นสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่

   1.บางพลี-บางบ่อ-บางเสาธง สูงขึ้น 44% เนื่องจากเป็นเขตอุตสาหกรรมและโลจิสติกส์ที่เติบโตต่อเนื่อง ใกล้สนามบิน สามารถเดินทางเข้าเมืองและ EEC ได้สะดวก

   2.บางกรวย-บางใหญ่-บางบัวทอง-ไทรน้อย สูงขึ้น 26.4%

   3.เมืองสมุทรปราการ-พระประแดง-พระสมุทรเจดีย์ สูงขึ้น 26.1%

   4.เมืองนนทบุรี-ปากเกร็ด สูงขึ้น 22.8%

   5.ลาดพร้าว-บางกะปิ-วังทองหลาง-บึงกุ่ม-สะพานสูง-คันนายาว สูงขึ้น 21.4%

   เป็นการปรับราคาขึ้นตามการขยายตัวของเมือง โดยเฉพาะสมุทรปราการฎได้รับแรงสนับสนุนจากผังเมืองรวมฉบับใหม่ที่บังคับใช้วันที่ 22 สิงหาคม 2568 มีการปรับปรุงข้อกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดิน และปรับประโยชน์การใช้ผังสีให้ใช้ประโยชน์ได้มากขึ้น ส่วนพื้นที่ชานเมืองกรุงเทพและปริมณฑล มีฐานราคาที่ดินต่ำกว่าพื้นที่ชั้นในของเมืองและยังสามารถพัฒนาโครงการแนวราบในราคาสอดคล้องกำลังซื้อของผู้บริโภค ทำให้มีความต้องการซื้อที่ดินอย่างต่อเนื่อง

   สำหรับราคาที่ดินเปล่าแนวรถไฟฟ้า 5 อันดับแรก ที่เพิ่มขึ้นสูงสุด ส่วนใหญ่เป็นที่ดินมีรถไฟฟ้าเปิดให้บริการแล้วและโครงการในอนาคต

   1.สายสีเขียวช่วงสมุทรปราการ-บางปูและช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ เพิ่มขึ้น 26.1% ในพื้นที่พระสมุทรเจดีย์ และเมืองสมุทรปราการ

   2.สายสีชมพู แคราย-มีนบุรี เพิ่มขึ้น 20.7% พื้นที่บึงกุ่ม เมืองนนทบุรี หลักสี่

   3.BTS สายสีม่วงช่วงบางใหญ่-เตาปูน เพิ่มขึ้น 19.6% ในพื้นที่เมืองนนทบุรีและบางใหญ่

   4.สายสีน้ำตาลช่วงแคราย-ลำสาลีและสายสีเหลืองช่วงลาดพร้าว-สำโรง เพิ่มขึ้น 19.2% ในพื้นที่สวนหลวง วังทองหลาง และห้วยขวาง

   5. MRT และสายสีแดงเข้มช่วงบางซื่อ-หัวลำโพง เพิ่มขึ้น 18.5% ในพื้นที่คลองเตย ห้วยขวาง และวัฒนา