ธปท.เล็งเคาะเกณฑ์คุมสินเชื่อบ้านต้นพ.ย.นี้ สกัดฟองสบู่อสังหาฯ
Loading

ธปท.เล็งเคาะเกณฑ์คุมสินเชื่อบ้านต้นพ.ย.นี้ สกัดฟองสบู่อสังหาฯ

วันที่ : 24 ตุลาคม 2561
นางวจีทิพย์ พงษ์เพ็ชร ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)เปิดเผยว่า หลังจากที่เปิดรับฟังความเห็นเกี่ยวกับการปรับปรุงเกณฑ์สินเชื่อที่อยู่อาศัย ซึ่งมีผู้ให้ข้อเสนอแนะเข้ามาจำนวนมาก ทั้งจากประชาชนผู้บริโภค
          นางวจีทิพย์ พงษ์เพ็ชร ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)เปิดเผยว่า หลังจากที่เปิดรับฟังความเห็นเกี่ยวกับการปรับปรุงเกณฑ์สินเชื่อที่อยู่อาศัย ซึ่งมีผู้ให้ข้อเสนอแนะเข้ามาจำนวนมาก ทั้งจากประชาชนผู้บริโภค สถาบันการเงินและผู้ประกอบการ ซึ่ง ธปท.ขอขอบคุณในทุกความเห็น ทั้งนี้ความเห็นที่ได้รับครอบคลุมหลายประเด็นเช่น วันที่เริ่มบังคับใช้ ความหมายของบ้านหลังที่ 2 หรือสัญญาที่ 2 อัตราการวางเงินดาวน์ของสัญญาที่ 2 หรือสัญญาที่ 3 เป็นต้นซึ่ง ธปท.จะนำข้อเสนอแนะมาประกอบการพิจารณา ก่อนจะกำหนดหลักเกณฑ์ที่เหมาะสมต่อไป ซึ่งคาดว่าจะมีความชัดเจนในช่วงต้นเดือน พ.ย.61

          ทั้งนี้ยังมีคำถามและหลายประเด็นที่อาจเข้าใจคลาดเคลื่อน จึงอยากจะถือโอกาสอธิบาย เช่น สถานการณ์ในปัจจุบันน่ากังวลแค่ไหน เหมือนปี 2540 วิกฤติต้มยำกุ้งหรือไม่ ในกรณีนี้ ธปท.ขอย้ำว่า สถานการณ์ปัจจุบันต่างจากช่วงปี 2540 โดยมาตรการที่จะปรับปรุงครั้งนี้เป็นมาตรการในเชิงป้องกัน (Preventive Measures) คล้ายกับเราเริ่มเห็นควันก็ต้องป้องกันไม่ให้เกิดไฟไหม้

          สำหรับคำถามที่ว่า มาตรการนี้มุ่งหวังอะไร ทาง ธปท.ยืนยันว่า มาตรการนี้มุ่งยกระดับมาตรฐานการพิจารณาสินเชื่อของสถาบันการเงินซึ่งที่ผ่านมาหย่อนลงไปบ้าง และมุ่งเน้นการสร้างวินัยให้มีการออมบางส่วนก่อนกู้เพื่อซื้อที่อยู่อาศัยรวมทั้งป้องกันการเก็งกำไร โดยการลด Demand เทียม ซึ่งจะช่วยให้ประชาชนที่ต้องการซื้อที่อยู่เพื่ออาศัยอยู่จริง สามารถซื้อบ้านในราคาที่เหมาะสม อีกทั้งประสบการณ์ที่ผ่านมาชี้ว่าปัญหาในภาคอสังหาริมทรัพย์มักเป็นต้นตอทำให้เกิดวิกฤติเศรษฐกิจ โดยมีงานวิจัยของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ซึ่งชี้ว่าวิกฤติเศรษฐกิจกว่า 50 ครั้งในรอบ 10 ปีที่ผ่านมาเช่น วิกฤติ Subprime เกิดจากปัญหาภาคอสังหาริมทรัพย์ ดังนั้นมาตรการในครั้งนี้จึงมุ่งป้องกันปัญหาในอนาคต

          โดย ธปท. อยากทำความเข้าใจกับหลายประเด็นที่ประชาชนอาจจะมีความเข้าใจคลาดเคลื่อน คือ 1.มาตรการนี้จะใช้บังคับเฉพาะกรณีการผ่อนที่อยู่อาศัย 2 หลังขึ้นไปพร้อมๆ กัน และจะไม่กระทบกรณีที่ผ่อนหลังที่หนึ่งเสร็จแล้วและจะกู้เงินเพื่อซื้อที่อยู่อาศัยหลังที่สองซึ่งกรณีนี้จะนับเป็นสัญญาที่หนึ่ง 2.การปรับปรุงหลักเกณฑ์ในครั้งนี้จะไม่กระทบการซื้อที่อยู่อาศัยของประชาชนที่มีรายได้น้อยที่ซื้อบ้านหลังแรก เนื่องจากข้อบังคับใช้เฉพาะที่อยู่อาศัยที่ราคาเกิน 10 ล้านบาทขึ้นไป 3.จะไม่กระทบผู้ที่กู้ก่อนเกณฑ์ใหม่มีผลบังคับใช้ กล่าวอีกนัยหนึ่งคือจะไม่มีผลย้อนหลังสำหรับผู้ที่กู้ไปแล้ว
 
ข่าวนโยบายการเงิน-การคลัง อื่นๆ