CMCเคาะราคาไอพีโอ3บ.เสริมแกร่งขยายคอนโด
วันที่ : 8 พฤศจิกายน 2561
CMC บริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำตามแนวเส้นรถ ไฟฟ้า เตรียมระดมทุน 250 ล้านหุ้น เคาะราคาขายหุ้นไอพีโอที่ 3 บาท จ่อเทรดในตลาดหลักทรัพย์ mai โบรกคาดแนวโน้มเติบโตสูง เปิดจองหุ้นระหว่างวันที่ 8-13 พฤศจิกายนนี้
CMC บริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำตามแนวเส้นรถ ไฟฟ้า เตรียมระดมทุน 250 ล้านหุ้น เคาะราคาขายหุ้นไอพีโอที่ 3 บาท จ่อเทรดในตลาดหลักทรัพย์ mai โบรกคาดแนวโน้มเติบโตสูง เปิดจองหุ้นระหว่างวันที่ 8-13 พฤศจิกายนนี้
นพ.วิเชียร แพทยานันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ้าพระยามหานคร จำกัด (มหาชน) หรือ CMC เปิดเผยว่า บริษัทจะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 250 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 25% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด 1,000 ล้านหุ้น ของบริษัทในราคาหุ้นละ 3 บาท แก่นักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายย่อย (บริษัทมีทุนจดทะเบียน 1,000 ล้านบาท และพาร์ 1 บาท)
โดยบริษัทมีแผนจะนำเงินที่ได้จากการเพิ่มทุนไปลงทุนพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม ซื้อที่ดิน ตลอดจนชำระหนี้เงินกู้เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งทางการเงิน และคาดว่าภายหลังไอพีโอ อัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อทุน (D/E) จากปัจจุบันที่ประมาณ 1.8 เท่า จะลดลงเหลือต่ำกว่า 1.3 เท่า และเพิ่มเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงานเพื่อต่อยอดธุรกิจ และสร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่ผู้ถือหุ้น โดยหลังจากการเพิ่มทุนกลุ่มแพทยานันท์ ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมจะถือหุ้น 75% และนักลงทุนทั่วไปจะถือหุ้นประมาณ 25%
จ่อเปิดขาย 10 โครงการ
CMC ประสบความสำเร็จในการพัฒนาโครงการที่พักอาศัยมากว่า 24 ปี โดยมุ่งเน้นการพัฒนาโครงการอาคารชุดตามแนวเส้นทางโครงการรถไฟฟ้าสายต่างๆ โดยจุดเด่นของบริษัทคือมีอัตรากำไรขั้นต้นที่แข็งแกร่งมาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากทำธุรกิจแบบครบวงจร โดยมีบริษัทย่อยเป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง ปัจจุบันบริษัทฯมีโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่ก่อสร้างแล้วเสร็จ และอยู่ระหว่างขายทั้งหมด 25 โครงการมูลค่ารอการรับรู้รายได้กว่า 4,100 ล้านบาท และมีโครงการที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง 2 โครงการ มูลค่ากว่า 1,900 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าโครงการเหล่านี้จะสร้างการเติบโตให้แก่บริษัทอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้กลุ่มบริษัทยังมีแผนจะเปิดขายและพัฒนาโครงการใหม่อีกทั้งหมด 10 โครงการ รวมมูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาท
อนึ่ง บริษัทมีผลประกอบการครึ่งปีแรก 2561 บริษัทมีรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ 976 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2560 ที่ 795 ล้านบาท และมีกำไรขั้นต้น 405 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้นสูงถึงเท่ากับ 41.6% เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2560 ที่ 336 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 123 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า130% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2560 ที่ 53 ล้านบาท ทั้งนี้บริษัทมีความเชื่อมั่นว่าผลประกอบการในปีนี้จะเติบโตตามเป้าหมาย
ชูพื้นฐานแข็งแกร่ง
นายมนตรี ศรไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท หลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่าย หุ้นสามัญเพิ่มทุนของ CMC กล่าวว่า เชื่อมั่นว่าหุ้น CMC จะเป็นหุ้น Property ที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนโดย CMC มีประสบการณ์ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์กว่า 24 ปี ผ่านวิกฤติต่างๆ มาได้อย่างแข็งแกร่ง ด้วยจำนวนโครงการที่พัฒนาแล้วกว่า 45 โครงการ และพื้นฐานทางการเงินที่แข็งแกร่ง พิจารณาได้จาก Gross Profit Margin ของบริษัทที่อยู่ที่ระดับ 40% ต่อเนื่องมากว่า 10 ปี ประกอบกับ CMC มีโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่ระหว่างการขายจำนวน 25 โครงการ โครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนา จำนวน 2 โครงการ และโครงการในอนาคตที่มีแผนพัฒนาเพิ่มเติมอีก 10 โครงการ คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 16,000 ล้านบาท ที่คาดว่าจะทยอยรับรู้รายได้ภายในช่วง 3-4 ปีนี้ ซึ่งนักลงทุนสามารถคาดหวังการเติบโตของรายได้ได้ค่อนข้างชัดเจน
นอกจากนี้ การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จะช่วยให้บริษัทสามารถลดต้นทุนทางการเงินได้ ซึ่งปัจจุบัน ต้นทุนทางการเงินเป็นสัดส่วนค่าใช้จ่ายที่สูงสำหรับบริษัท ซึ่งคาดว่าจะช่วยยกระดับผลประกอบการของบริษัทให้ดียิ่งขึ้น
ทั้งนี้ หุ้นไอพีโอจำนวน 250 ล้านหุ้นของ บมจ. เจ้าพระยามหานคร ซึ่งเป็นหุ้นเพิ่มทุนใหม่ทั้งหมด สามารถจองซื้อได้ในวันที่ 8, 9, 12 และ 13 พฤศจิกายน 2561 โดยคาดว่าหุ้น CMC จะเริ่มซื้อขายวันแรกในวันที่ 19 พฤศจิกายน 2561
นพ.วิเชียร แพทยานันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ้าพระยามหานคร จำกัด (มหาชน) หรือ CMC เปิดเผยว่า บริษัทจะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 250 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 25% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด 1,000 ล้านหุ้น ของบริษัทในราคาหุ้นละ 3 บาท แก่นักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายย่อย (บริษัทมีทุนจดทะเบียน 1,000 ล้านบาท และพาร์ 1 บาท)
โดยบริษัทมีแผนจะนำเงินที่ได้จากการเพิ่มทุนไปลงทุนพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม ซื้อที่ดิน ตลอดจนชำระหนี้เงินกู้เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งทางการเงิน และคาดว่าภายหลังไอพีโอ อัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อทุน (D/E) จากปัจจุบันที่ประมาณ 1.8 เท่า จะลดลงเหลือต่ำกว่า 1.3 เท่า และเพิ่มเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงานเพื่อต่อยอดธุรกิจ และสร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่ผู้ถือหุ้น โดยหลังจากการเพิ่มทุนกลุ่มแพทยานันท์ ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมจะถือหุ้น 75% และนักลงทุนทั่วไปจะถือหุ้นประมาณ 25%
จ่อเปิดขาย 10 โครงการ
CMC ประสบความสำเร็จในการพัฒนาโครงการที่พักอาศัยมากว่า 24 ปี โดยมุ่งเน้นการพัฒนาโครงการอาคารชุดตามแนวเส้นทางโครงการรถไฟฟ้าสายต่างๆ โดยจุดเด่นของบริษัทคือมีอัตรากำไรขั้นต้นที่แข็งแกร่งมาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากทำธุรกิจแบบครบวงจร โดยมีบริษัทย่อยเป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง ปัจจุบันบริษัทฯมีโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่ก่อสร้างแล้วเสร็จ และอยู่ระหว่างขายทั้งหมด 25 โครงการมูลค่ารอการรับรู้รายได้กว่า 4,100 ล้านบาท และมีโครงการที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง 2 โครงการ มูลค่ากว่า 1,900 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าโครงการเหล่านี้จะสร้างการเติบโตให้แก่บริษัทอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้กลุ่มบริษัทยังมีแผนจะเปิดขายและพัฒนาโครงการใหม่อีกทั้งหมด 10 โครงการ รวมมูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาท
อนึ่ง บริษัทมีผลประกอบการครึ่งปีแรก 2561 บริษัทมีรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ 976 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2560 ที่ 795 ล้านบาท และมีกำไรขั้นต้น 405 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้นสูงถึงเท่ากับ 41.6% เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2560 ที่ 336 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 123 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า130% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2560 ที่ 53 ล้านบาท ทั้งนี้บริษัทมีความเชื่อมั่นว่าผลประกอบการในปีนี้จะเติบโตตามเป้าหมาย
ชูพื้นฐานแข็งแกร่ง
นายมนตรี ศรไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท หลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่าย หุ้นสามัญเพิ่มทุนของ CMC กล่าวว่า เชื่อมั่นว่าหุ้น CMC จะเป็นหุ้น Property ที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนโดย CMC มีประสบการณ์ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์กว่า 24 ปี ผ่านวิกฤติต่างๆ มาได้อย่างแข็งแกร่ง ด้วยจำนวนโครงการที่พัฒนาแล้วกว่า 45 โครงการ และพื้นฐานทางการเงินที่แข็งแกร่ง พิจารณาได้จาก Gross Profit Margin ของบริษัทที่อยู่ที่ระดับ 40% ต่อเนื่องมากว่า 10 ปี ประกอบกับ CMC มีโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่ระหว่างการขายจำนวน 25 โครงการ โครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนา จำนวน 2 โครงการ และโครงการในอนาคตที่มีแผนพัฒนาเพิ่มเติมอีก 10 โครงการ คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 16,000 ล้านบาท ที่คาดว่าจะทยอยรับรู้รายได้ภายในช่วง 3-4 ปีนี้ ซึ่งนักลงทุนสามารถคาดหวังการเติบโตของรายได้ได้ค่อนข้างชัดเจน
นอกจากนี้ การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จะช่วยให้บริษัทสามารถลดต้นทุนทางการเงินได้ ซึ่งปัจจุบัน ต้นทุนทางการเงินเป็นสัดส่วนค่าใช้จ่ายที่สูงสำหรับบริษัท ซึ่งคาดว่าจะช่วยยกระดับผลประกอบการของบริษัทให้ดียิ่งขึ้น
ทั้งนี้ หุ้นไอพีโอจำนวน 250 ล้านหุ้นของ บมจ. เจ้าพระยามหานคร ซึ่งเป็นหุ้นเพิ่มทุนใหม่ทั้งหมด สามารถจองซื้อได้ในวันที่ 8, 9, 12 และ 13 พฤศจิกายน 2561 โดยคาดว่าหุ้น CMC จะเริ่มซื้อขายวันแรกในวันที่ 19 พฤศจิกายน 2561
ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ