อสังหารายเล็กปรับตัว เปิดบริษัทร่วมทุน ปั้นแบรนด์ไฮป์คอนโดระดับกลางเจาะคนรุ่นใหม่
ภัทรนันท์ งัดโมเดลรุกตลาดคอนโดระดับกลางในเมือง เจาะคนรุ่นใหม่ ชูราคาขายต่ำกว่าทั่วไป
นายพรชัย กฤษฎาวรกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ภัทรนันท์ แอสเซท เปิดเผยว่า ภัทรนันท์ฯ เป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างบริษัท ชนันธร ดีเวลลอปเม้นท์ กับบริษัท ภัทรา เอสเตท โดยถือหุ้น 51% และ 49% ตามลำดับ ทุนจดทะเบียน 300 ล้านบาท โดยเป็นการนำจุดแข็งของทั้งสองบริษัทซึ่งเป็นดีเวลลอปเปอร์นอกตลาดหลักทรัพย์ประสบการณ์มานานกว่า 30 ปี มาร่วม พัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมภายใต้ แบรนด์ไฮป์ เน้นเซ็กเมนต์กลางคือระดับราคาล้านปลายถึง 4 ล้านบาท
ทั้งนี้ ความร่วมมือดังกล่าวจะทำให้บริษัทมีงบกระแสเงินสด หรือแคชโฟลว์ที่ดี อีกทั้งด้วยบริษัทมีทีมงานก่อสร้างเองและเป็นนักพัฒนา ทำให้สามารถบริหารต้นทุนก่อสร้างได้ดีส่งผลให้ราคาขายโครงการอยู่ในระดับที่ผู้บริโภคจับต้องได้ แม้จะเสียเปรียบบริษัทขนาดใหญ่ในเรื่องของอัตราดอกเบี้ยที่ใช้ในการพัฒนาโครงการก็ตาม
อย่างไรก็ดี จากการศึกษาโอกาสการเติบโตของตลาดอสังหาฯ และศักยภาพทำเลของสาทร-ธนบุรี ซึ่งบริษัทมีความชำนาญในพื้นที่ พบว่าย่านนี้มีการเปลี่ยน แปลงจากที่อยู่แนวราบสู่ที่อยู่แนวสูงมากขึ้น ตามพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงสู่สังคมคนรุ่นใหม่
นายพรชัย กล่าวว่า ขณะที่ราคา ที่ดินแพงและแปลงใหญ่หายาก โดยราคาที่ดินที่ไม่ใช่ฝั่งริมเจ้าพระยาปัจจุบันอยู่ที่ 2 แสนบาท/ตารางวา (ตร.ว.) เพิ่มขึ้นจาก 2 ปีที่แล้วอยู่ที่ราว 1.3 แสนบาท/ตร.ว. ด้านกำลังซื้อบริเวณนี้มีสูง
ด้าน น.ส.ศราริน เรืองปัญญาวุฒิ กรรมการบริหาร บริษัท ภัทรนันท์ แอสเซท กล่าวว่า บริษัทได้เปิดตัวโครงการไฮป์ สาทร-ธนบุรี ซึ่งเป็นโครงการแรกของบริษัทร่วมทุนมูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท เป็นคอนโด 8 ชั้น 5 อาคาร 914 ยูนิต ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 7 ไร่ ในซอยเจริญนคร 22 ขนาดพื้นที่เริ่มต้น 24.88 ตารางเมตร (ตร.ม.) ขึ้นไป เปิดจองใน วันที่ 1-2 ก.ย.นี้ สำหรับ 200 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 1.79 ล้านบาท หรือเฉลี่ยที่ 7.7 หมื่นบาท/ตร.ม. ซึ่งขณะนี้มีผู้ลงทะเบียนออนไลน์แล้วกว่า 800-900 ราย
สำหรับโครงการนี้ ได้มีการจัดสรรยูนิตขายให้ลูกค้าต่างชาติเต็ม 49% หรือราวกว่า 400 ยูนิต ในอาคารดีและอี ซึ่งกลุ่มที่ให้ความสนใจในลำดับต้นๆ คือจีน ทั้งนี้บริษัทจะปรับราคาขายเพิ่มอีก 7-10% หลังจบพรีเซล โดยตั้งเป้าปิดการขาย ทั้งโครงการในปีนี้ ส่วนโครงการเริ่มก่อสร้างเดือน ม.ค. 2562 แล้วเสร็จปี 2564 ปัจจุบันได้ยื่นรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบ สิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) แล้ว
"ด้วยศักยภาพของทำเลทำให้บริเวณนี้มีแต่โครงการระดับลักซ์ชัวรี่ โดยราคาคอนโดบริเวณบีที
เอสสถานีกรุงธน จะขายเฉลี่ยที่ 1.1 แสนบาท/ตร.ม. ส่วนการที่ไฮป์ สาทร-ธนบุรีขาย 7.7 หมื่นบาท/ตร.ม. จึงถูกกว่าด้วยการบริหารจัดการต้นทุน ที่ดี ซึ่งบริษัทจะใช้เป็นโมเดลในการรุกตลาดในอนาคต" น.ส.ศราริน กล่าว
ขณะเดียวกันอยู่ระหว่างพิจารณาเลือกที่ดินในหลายพื้นที่ เช่น ย่านพระราม 3 สาธุประดิษฐ์ บีทีเอสสถานีตลาดพลู พัฒนาโครงการใหม่ปี 2562