อสังหากลุ่มเจริญ ผุด17โครงการรวด
โกลเด้นแลนด์ ชี้ที่ดินพัฒนาหายาก เล็งเจรจาซื้อเพิ่มจากบริษัทในกลุ่มสิริวัฒนภักดี พัฒนาโครงการ
นายธนพล ศิริธนชัย ประธานอำนวยการ บริษัท แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างศึกษาเพื่อเจรจาซื้อที่ดินจากบริษัทในเครือของกลุ่มเจริญ สิริวัฒนภักดีเพิ่มขึ้น เพื่อเตรียมไว้ พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบ เนื่องจากปัจจุบันที่ดินเริ่มหายาก ที่ผ่านมาคณะกรรมการบริษัทได้พิจารณาและมีมติอนุมัติการซื้อที่ดิน ซึ่งตั้งอยู่บนถนนทางรถไฟฟ้าสายเก่า อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ จำนวน 4 แปลง เนื้อที่รวม 24 ไร่ 1 งาน 64 ตารางวา หรือ 9,764 ตารางวา คิดเป็นมูลค่ารวม กว่า 317 ล้านบาท เพื่อใช้พัฒนาเป็นโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบ จากบริษัท บางนากลาส ซึ่งเป็นบริษัทมีผู้ถือหุ้นเกี่ยวโยงกัน
สำหรับแผนธุรกิจในขณะนี้ บริษัทได้ปรับลดเป้ารายได้ปีนี้ลงเหลือ 1.4 หมื่นล้านบาท จากเดิม 1.78 หมื่นล้านบาท จากการเปิดโครงการในช่วงที่ผ่านมา ไม่ได้เป็นไปตามเป้าหมาย เนื่องจาก บริษัทติดปัญหาขาดแคลนแรงงาน ปัญหาเรื่องที่ดินที่ติดกฎระเบียบของทางราชการ
อย่างไรก็ตาม ในครึ่งปีหลังมีแผนเปิด 17 โครงการใหม่ แบ่งเป็นทาวน์โฮม 9 โครงการ บ้านแฝด 4 โครงการ และบ้านเดี่ยวอีก 3 โครงการ และโครงการในต่างจังหวัด 1 โครงการ รวม มูลค่ากว่า 2.13 หมื่นล้านบาท ปัจจุบันบริษัทมียอดขายรอโอนหรือแบ็กล็อก อยู่ที่ 4,800-5,000 ล้านบาท โดยจะ รับรู้รายได้ปีนี้ 50% ขณะที่ยอดขายปีนี้ ตั้งเป้าไว้ 2.47 หมื่นล้านบาท โดย 9 เดือนที่ผ่านมาสามารถทำได้แล้ว 2 หมื่นล้านบาท
"ไตรมาส 2 ของปีนี้ บริษัทเปิดโครงการใหม่ล่าช้ากว่ากำหนด แต่ในช่วงที่เหลือของปีนี้จะมีการเปิดโครงการสัปดาห์ละ 2-3 โครงการ จะทำให้เป้าหมาย 17 โครงการในครึ่งปีหลังเป็นไปตามเป้า" นายธนพล กล่าว
ทั้งนี้ สัดส่วนรายได้ของบริษัทระหว่างการพัฒนาโครงการที่พักอาศัยและโครงการเชิงพาณิชย์ เฉลี่ยอยู่ที่ 85:15 นับเป็นการกระจายสัดส่วน การรับรู้รายได้ เพื่อกระจายความเสี่ยง และ เติบโตตามกลยุทธ์ของบริษัทที่มุ่งเน้นจะเป็นบริษัทพัฒนาอสังหา ริมทรัพย์ครบวงจร โดยโครงการเชิง พาณิชยกรรมทุกโครงการที่บริษัท บริหารพื้นที่ ได้แก่ ปาร์คเวนเชอร์ อีโค เพล็กซ์ สาทรสแควร์ เอฟวายไอ เซ็นเตอร์ มีอัตราการเช่าพื้นที่สูงกว่า 95% ทุกโครงการ ส่วนโครงการสามย่านมิตรทาวน์ มิกซ์ยูสแห่งใหม่มีความคืบหน้าแล้วกว่า 40% ขณะที่ปีนี้ตั้งงบซื้อ ที่ดิน 1.2 หมื่นล้านบาท ปัจจุบันได้ ใช้เงินไปหมดแล้ว และปีหน้าคาดว่าจะใช้เงินลงทุนซื้อที่ดินมากกว่าปีนี้ เพื่อรักษาการเติบโตของรายได้เฉลี่ยปีละ 20-25%