จับตา ลีสโฮลด์ ขยายตัวรับที่ดินในเมือง
อสังหาริมทรัพย์แบบลีสโฮลด์ (Leasehold) หรืออสังหาริมทรัพย์ในแบบสิทธิการเช่า ที่ถือครองกรรมสิทธิ์ตามช่วงระยะเวลาในประเทศไทย มีแนวโน้มที่จะขยายตัวมากขึ้น
จากการที่ที่ดินแบบฟรีโฮลด์ (Freehold) หรือที่ดินที่มีกรรมสิทธิ์ใจกลางเมือง ย่านหลังสวน-เพลินจิต-ชิดลม-ราชดำริ ซึ่งเป็นย่านศูนย์กลางธุรกิจ หรือ CBD (Central Business District) ที่สำคัญของประเทศไทยเริ่มเหลือน้อยลงเต็มที เป็นเจ้าของได้ยากขึ้น อีกทั้งในอนาคตอันใกล้นี้จะมีโครงการอสังหาริมทรัพย์แบบ Mixed Use บนที่ดินลีสโฮลด์ บริเวณรอบสวนลุมพินี มีด้วยกัน 3 โครงการ มูลค่าเกือบ 2 แสนล้านบาท ได้แก่ โครงการ One Bangkok มูลค่ารวม 1.2 แสนล้านบาท โครงการ SINDHORN VILLAGE มูลค่ากว่า 39,000 ล้านบาท และโครงการร่วมทุนระหว่างกลุ่มดุสิตธานีและเครือเซ็นทรัล
ปัจจัยดังกล่าว จะทำให้ความต้องการที่อยู่อาศัยย่านนี้สูงขึ้น โดยโครงการประเภทที่อยู่อาศัยบนที่ดินลีสโฮลด์ (Leasehold) ย่านใจกลางเมืองจะเป็นทางเลือกที่น่าสนใจมากขึ้นของทั้งกลุ่มผู้ซื้ออยู่เอง และซื้อเพื่อการลงทุน บนทำเลศักยภาพย่านใจกลางเมืองที่เป็นเจ้าของได้ยากขึ้น
โครงการ "สินธร วิลเลจ" (SINDHORN VILLAGE) ที่พัฒนาโดยบริษัท สยามสินธร ซึ่งพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แบบลีสโฮลด์สิทธิการเช่าระยะยาว 30 ปี และได้รับสิทธิต่ออายุอีก 30 ปี โดยสยามสินธรจะเป็นผู้ดูแลและบริหารจัดการเองทั้งหมด จึงถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจอย่างยิ่ง โดยโครงการสินธร วิลเลจ ประกอบไปด้วย คอนโดมิเนียมระดับซูเปอร์ลักชัวรีจำนวน 5 อาคาร โรงแรมและเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ 3 อาคาร และพื้นที่ค้าปลีก
นายขจรเดช แสงสุพรรณ กรรมการบริหาร บริษัท สยามสินธร จำกัด กล่าวว่า โครงการสินธร วิลเลจ ผ่านการออกแบบด้วย แนวคิด Living in the Park และก่อสร้างแล้วเสร็จพร้อมเข้าอยู่ 2 โครงการคือ สินธร เรสซิเดนซ์ และสินธร ต้นสน โดยทุกโครงการมีจุดแข็งในเรื่องของโลเกชันที่อยู่ใจกลางเมืองบนถนนหลังสวนจรดถนนสารสิน ระดับราคาโครงการที่อยู่อาศัยแบบลีสโฮลด์ ถูกกว่าราคาซื้อขายแบบฟรีโฮลด์ ที่อยู่อาศัยในย่านเดียวกันมากถึง 40% ในมุมมองของนักลงทุนแล้ว นั่นเป็นเหตุผลสำคัญที่จะทำให้โครงการที่อยู่อาศัยแบบลีสโฮลด์ เป็นที่น่าสนใจของตลาดนักลงทุน เพราะต้นทุนที่ต่ำกว่า แต่มีโอกาสในการปล่อยเช่าได้ในอัตราค่าเช่าเดียวกับที่อยู่อาศัยแบบฟรีโฮลด์ ซึ่งมีต้นทุนที่สูงกว่า ทำให้โครงการที่อยู่อาศัยแบบลีสโฮลด์ มีโอกาสในการสร้างอัตราผลตอบแทนที่สูงกว่าที่อยู่อาศัยแบบฟรีโฮลด์
ที่สำคัญ สยามสินธร เป็นทั้งผู้พัฒนาและดูแลบริหารโครงการเอง ทำให้มั่นใจว่าโครงการจะคงคุณภาพระดับสูงไปตลอด ทั้งนี้ ข้อดีของโครงการแบบลีสโฮลด์ ที่มีเจ้าของที่ดินเป็นผู้พัฒนาโครงการเอง จะมีความดูแลเอาใจใส่ ตั้งแต่เริ่มก่อสร้าง ไปจนถึงการบำรุงรักษาอาคาร ดังนั้น มูลค่าของอาคารในระยะยาวย่อมมีมากกว่า หากต้องการปล่อยเช่าต่อก็สามารถทำราคาได้ดี