2แบงก์ให้กู้'สิงห์เอสเตท'หมื่นล.
ซีไอเอ็มบีไทยจับมือกรุงไทยร่วมปล่อยกู้ "สิงห์ เอสเตท"ซื้อกิจการโรงแรม 6 แห่งใน 4 ประเทศ จากเอาท์ทริกเกอร์ มูลค่า 310 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 1.03 หมื่นล้านบาท เผยมีส่วนหนุนแผนเข้าตลาดฯ และผลักดันรายได้ของสิงห์ เอสเตทเข้าเป้า 2 หมื่นล้านภายในปี 2563
นายกิตติพันธ์ อนุตรโสตถิ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) (CIMBT) เปิดเผยว่า ธนาคารเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และเป็นผู้จัดการร่วมในการจัดหาสินเชื่อร่วมกับธนาคารกรุงไทยให้กับบริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) บริษัทชั้นนำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และการลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ในการเข้าซื้อกิจการรีสอร์ท 6 แห่งในเอเชียแปซิฟิกของเอาท์ทริกเกอร์ (Outrigger) มูลค่า 310 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 10,334 ล้านบาท ซึ่งดีลได้นี้ได้สำเร็จลุล่วงแล้ว
นายปริญญา พัฒนภักดี รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส ธนาคารกรุงไทยกล่าวว่า สำหรับดีลในการเข้าซื้อกิจการครั้งนี้มีส่วนสำคัญในการช่วยขับเคลื่อนแผนการเข้าตลาดหลักทรัพย์ หรือไอพีโอ (IPO) กลุ่มธุรกิจโรงแรมของบริษัท รวมทั้งยังช่วยให้ธุรกิจของบริษัทมีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น ความสำเร็จในดีลต่างๆ ที่ผ่านมาของบริษัท แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของบริษัทและวิสัยทัศน์ที่เฉียบแหลมของคณะผู้บริหารในการตัดสินใจคัดเลือกลงทุนในกิจการที่มีศักยภาพ
นายนริศ เชยกลิ่น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สิงห์ เอสเตท กล่าวว่าการเข้าซื้อกิจการในครั้งนี้จะสร้างความแข็งแกร่งทางการเงินให้กับบริษัทฯ สามารถรับรู้รายได้ทันที ส่งผลให้ บริษัท เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท จำกัด (SHR) บริษัทย่อยในกลุ่มสิงห์ เอสเตท มีความพร้อมที่จะเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ตามเป้าหมายที่วางไว้ ซึ่งจะทำให้ สิงห์ เอสเตท ก้าวขึ้นเป็น Premier Property Development and Investment Holding Company ระดับโลก และมีความพร้อมทางการเงินสำหรับโอกาสทางธุรกิจในอนาคต
จากการลงทุนในครั้งนี้จะทำให้บริษัท เป็นเจ้าของโรงแรมเพิ่มขึ้นอีก 6 แห่ง ประกอบด้วย โรงแรมเอาท์ทริกเกอร์ ลากูน่า ภูเก็ต บีช รีสอร์ท, โรงแรมเอาท์ทริกเกอร์ เกาะสมุยบีช รีสอร์ท, โรงแรมเอาท์ทริกเกอร์ ฟิจิบีช รีสอร์ท ประเทศฟิจิ, โรงแรมแคสต์อะเวย์ ไอส์แลนด์ ประเทศฟิจิ, โรงแรมเอาท์ทริกเกอร์ มอริเชียส บีชรีสอร์ท ประเทศมอริเชียส และโรงแรมเอาท์ทริกเกอร์ โคน็อตต้า มัลดีฟส์รีสอร์ท ทำให้บริษัทมีพอร์ตธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ท เพิ่มขึ้นรวมเป็น37 แห่งทั่วโลก
ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้ารายได้รวม2 หมื่นล้านบาทภายในปี2563 ซึ่งกลยุทธ์การดำเนินงานแบบ Smart M&A ของสิงห์ เอสเตทครั้งนี้ ส่งผลให้สินทรัพย์รวมของบริษัทเติบโตขึ้นเป็น6 หมื่นล้านบาท จากปัจจุบันมีมูลค่าสินทรัพย์ 40,900 ล้านบาท และสามารถสร้างรายได้ให้กับบริษัทตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ในระยะเวลาที่เร็วขึ้น