1. EVERลั่นปีนี้พลิกมีกำไรสุทธิ รายได้ตามนัด 2 พันล้าน จ่อเปิด 3 ทาวน์โฮม
“EVER” มั่นใจปีนี้พลิกมีกำไรสุทธิ หลังคาดรายได้มาตามนัด 1,900-2,000 ล้านบาท รับแรงหนุนเน้นพัฒนาโครงการแนวราบ เล็งเปิดทาวน์โฮมภายใต้แบรนด์ "เอเวอร์ ซิตี้" อีก 3 โครงการในครึ่งปีหลัง
นายสวิจักร์ โลจายะ ประธานกรรมการ บริษัท เอเวอร์แลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ EVER เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจรายได้ปีนี้จะเติบโตที่ประมาณ 1,900-2,000 ล้านบาท และจะพลิกมีกำไรสุทธิ จากปีก่อนที่มีผลขาดทุนสุทธิ 278.91 ล้านบาท โดยสัดส่วนรายได้ 90% มาจากโครงการคอนโดมิเนียม ซึ่งในปีนี้บริษัทจะเน้นพัฒนาโครงการแนวราบมากขึ้น เพื่อการรับรู้รายได้ที่เร็ว
ขณะที่บริษัทได้วางเป้าหมายภายใน 3 ปีข้างหน้า จะเพิ่มสัดส่วนรายได้จากโครงการแนวราบ ทั้งจากบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ เป็น 50% โดยจะเริ่มเน้นการพัฒนาตั้งแต่ในปีนี้ ซึ่งในปีนี้จะมีการเปิดตัวโครงการแนวราบจำนวน 4 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 2,000 ล้านบาท และสัดส่วนรายได้จากโครงการคอนโดมิเนียมจะลดลงเหลือ 50%
สำหรับในปีนี้บริษัทมีแผนการเปิดตัวโครงการแนวราบรวม จำนวน 4 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 2,000 ล้านบาท ซึ่งในช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา บริษัทได้เปิดตัวโครงการบ้านเดี่ยว สไตล์ MODERN CHIC ภายใต้แบรนด์ มายโฮมอเวนิว ในทำเลย่านรามอินทรา-จตุโชติ ระดับราคาขายกว่า 3 ล้านบาทต่อยูนิต ได้รับการตอบรับที่ดี และในช่วงที่เหลือของปีนี้บริษัทเตรียมเปิดตัวโครงการทาวน์โฮมอีก 3 โครงการ ภายใต้แบรนด์แบรนด์ "เอเวอร์ ซิตี้" ได้แก่ ในทำเลสุขสวัสดิ์ และทำเลบางนา-หนามแดง
“ในปีนี้ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ส่วนใหญ่หันมาให้น้ำหนักโครงการแนวราบมากขึ้น เนื่องจากมีซัพพลายแนวราบออกสู่ตลาดค่อนข้างน้อย เมื่อเทียบกับโครงการคอนโดมิเนียมที่มีมากกว่าในช่วงก่อนหน้า นอกจากนี้ โครงการแนวราบมีการรับรู้รายได้เร็วกว่าโครงการคอนโดมิเนียม” นายสวิจักร์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันบริษัทมีโครงการ เดอะโพลิแทน บรีซ มูลค่าโครงการ 1,900 ล้านบาท เป็นโครงการคอนโดมิเนียมย่านสนามบินน้ำ ยังได้รับการตอบรับที่ดี มีการจองอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีการออกโปรโมชั่น เพื่อกระตุ้นการตัดสินใจซื้อ ล่าสุดมียอดขาย (Presale) แล้ว 1,000 ล้านบาท มีกำหนดก่อสร้างแล้วเสร็จในไตรมาส 3/2561 และเริ่มโอนในเดือนธันวาคม 2561 นายสวิจักร์ กล่าวอีกว่า ในปีนี้จะเป็นปีแห่งการเทิร์นอะราวด์จากปีก่อน และจะเห็นกำไรได้บ้าง เนื่องจากภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยมีแนวโน้มที่ดี ส่วนการกู้ยืมสินเชื่อในการซื้อบ้าน อาจต้องพิจารณาควบคู่กันไป เพราะการที่หนี้ครัวเรือนมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นทำให้สถาบันการเงินมีความระมัดระวังมากขึ้นเช่นกัน